ทำเนียบรัฐบาล--8 พ.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงบประมาณได้รายงานการประเมินผลการปฏิบัติงาน แผน งานเร่งรัดจัดให้มีน้ำสะอาดในชนบทเกี่ยวกับการก่อสร้างระบบประปาชนบท และการขยายเขตจำ หน่ายน้ำ ตามข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2537 และเห็นชอบตามข้อเสนอแนะ ดังนี้
1. ก่อนดำเนินการก่อสร้างระบบประปาชนบททุกโครงการ หน่วยงานดำเนินการควรสำ รวจข้อมูลเบื้องต้นที่จำเป็น ได้แก่ แหล่งน้ำและปริมาณน้ำดิบ คุณภาพน้ำดิบ จำนวนครัวเรือนผู้ใช้น้ำ กระ แสไฟฟ้าที่จะใช้ ฯลฯ เพื่อทราบข้อมูลที่ถูกต้องล่วงหน้าก่อนตัดสินใจเลือกพื้นที่ดำเนินการ และสำนัก งบประมาณควรพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพื่อใช้จ่ายในการสำรวจให้แก่ทุกหน่วยงานให้เป็นมาตรฐาน เดียวกันด้วย รวมทั้งให้มีการประสานงานกันระหว่างหน่วยงานดำเนินการเพื่อป้องกันการสำรวจซ้ำซ้อน ในพื้นที่เดียวกัน
2. เมื่อคัดเลือกพื้นที่ดำเนินการและได้รับอนุมัติโครงการให้ก่อสร้างแล้ว ให้ทางจังหวัด (กรมการปกครองหรือสภาตำบล) ประสานงานกับหมู่บ้าน เพื่อรวบรวมกลุ่มผู้ใช้น้ำและเตรียมตั้งคณะ กรรมการบริหารระบบประปาชนบทต่อไป
3. ทุกหน่วยงานดำเนินการควรจัดให้มีการฝึกอบรมเกี่ยวกับการบริหารระบบประปาชนบท และการซ่อมแซมบำรุงรักษาแก่คณะกรรมการบริหารระบบฯ และผู้ดูแล ก่อนส่งมอบโครงการฯ ให้หมู่ บ้าน โดยหลักสูตรในการอบรมให้มีการประสานงานกันระหว่างหน่วยงานดำเนินการ และสำนักงบประ มาณควรจัดสรรงบประมาณในการฝึกอบรมแก่ทุกหน่วยงานดำเนินการในอัตราเดียวกันด้วย
4. ให้ทุกหน่วยงานซึ่งรับผิดชอบการดำเนินงาน ใช้ผลการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษาที่สำนัก งบประมาณจะว่าจ้างให้ศึกษากำหนดรูปแบบมาตรฐาน ราคามาตรฐานกลางของระบบประปาชนบทฯ (รวมทั้งการศึกษาวิเคราะห์เพื่อกำหนดจำนวนผู้ใช้น้ำและอัตราค่าน้ำที่เหมาะสมด้วย) ตามนัยมติคณะรัฐ มนตรีเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2537 เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 7 พฤศจิกายน 2538--
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงบประมาณได้รายงานการประเมินผลการปฏิบัติงาน แผน งานเร่งรัดจัดให้มีน้ำสะอาดในชนบทเกี่ยวกับการก่อสร้างระบบประปาชนบท และการขยายเขตจำ หน่ายน้ำ ตามข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2537 และเห็นชอบตามข้อเสนอแนะ ดังนี้
1. ก่อนดำเนินการก่อสร้างระบบประปาชนบททุกโครงการ หน่วยงานดำเนินการควรสำ รวจข้อมูลเบื้องต้นที่จำเป็น ได้แก่ แหล่งน้ำและปริมาณน้ำดิบ คุณภาพน้ำดิบ จำนวนครัวเรือนผู้ใช้น้ำ กระ แสไฟฟ้าที่จะใช้ ฯลฯ เพื่อทราบข้อมูลที่ถูกต้องล่วงหน้าก่อนตัดสินใจเลือกพื้นที่ดำเนินการ และสำนัก งบประมาณควรพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพื่อใช้จ่ายในการสำรวจให้แก่ทุกหน่วยงานให้เป็นมาตรฐาน เดียวกันด้วย รวมทั้งให้มีการประสานงานกันระหว่างหน่วยงานดำเนินการเพื่อป้องกันการสำรวจซ้ำซ้อน ในพื้นที่เดียวกัน
2. เมื่อคัดเลือกพื้นที่ดำเนินการและได้รับอนุมัติโครงการให้ก่อสร้างแล้ว ให้ทางจังหวัด (กรมการปกครองหรือสภาตำบล) ประสานงานกับหมู่บ้าน เพื่อรวบรวมกลุ่มผู้ใช้น้ำและเตรียมตั้งคณะ กรรมการบริหารระบบประปาชนบทต่อไป
3. ทุกหน่วยงานดำเนินการควรจัดให้มีการฝึกอบรมเกี่ยวกับการบริหารระบบประปาชนบท และการซ่อมแซมบำรุงรักษาแก่คณะกรรมการบริหารระบบฯ และผู้ดูแล ก่อนส่งมอบโครงการฯ ให้หมู่ บ้าน โดยหลักสูตรในการอบรมให้มีการประสานงานกันระหว่างหน่วยงานดำเนินการ และสำนักงบประ มาณควรจัดสรรงบประมาณในการฝึกอบรมแก่ทุกหน่วยงานดำเนินการในอัตราเดียวกันด้วย
4. ให้ทุกหน่วยงานซึ่งรับผิดชอบการดำเนินงาน ใช้ผลการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษาที่สำนัก งบประมาณจะว่าจ้างให้ศึกษากำหนดรูปแบบมาตรฐาน ราคามาตรฐานกลางของระบบประปาชนบทฯ (รวมทั้งการศึกษาวิเคราะห์เพื่อกำหนดจำนวนผู้ใช้น้ำและอัตราค่าน้ำที่เหมาะสมด้วย) ตามนัยมติคณะรัฐ มนตรีเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2537 เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 7 พฤศจิกายน 2538--