ป.ป.ช.เล็งใช้อำนาจเรียกข้อมูลแคชเชียร์เช็คจาก BBL/SCB ตรวจสอบปมรับจำนำข้าว คาดสรุปพ.ย.นี้

ข่าวการเมือง Tuesday October 15, 2013 17:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลว่า ขณะนี้ทางคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้เรียกพยานมาให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง อาทิ นายกสมาคมส่งออกข้าว และหลังจากนี้จะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงข้อมูลต่อ ป.ป.ช. รวมไปถึงบุคคลที่โอนเงินเข้าบัญชีและซื้อแคชเชียร์เช็คด้วย โดยกระบวนการไต่สวนจะดำเนินการไปเรื่อยๆ ไม่หยุดชะงัก ขณะนี้อนุกรรมการฯ อยู่ระหว่างการรอข้อมูลแคชเชียร์เช็ค ซึ่งเหลือธนาคารอีก 2 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ(BBL)จำนวน 75 ฉบับ และธนาคารไทยพาณิชย์(SCB)จำนวน 35 ฉบับ ซึ่งหากยังไม่ส่งข้อมูลมาให้ ทาง ป.ป.ช.จำเป็นจะต้องใช้อำนาจในการเรียกข้อมูลมาตรวจสอบเอง

สำหรับการตรวจสอบแคชเชียร์เช็คนั้น ทาง ป.ป.ช.จะดูว่าคนที่ซื้อแคชเชียร์เช็คผ่านกระบวนการระหว่างประเทศหรือไม่ หรือเป็นการซื้อแคชเชียร์เช็คตามปกติในประเทศไทย ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าพบความผิดปกติอย่างไร เนื่องจากต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน โดย ป.ป.ช.จะมีการตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงทางด้านการเงินอย่างไร หรือไม่ รวมทั้งดูว่าใช้กระบวนการอย่างไรในการซื้อขายข้าว ซึ่ง ป.ป.ช.จะไม่ปล่อยอย่างเด็ดขาด จะต้องดูว่าเป็นตัวแทนของรัฐหรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้

นายวิชา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้ยื่นคำร้องขอให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ว่ามีพฤติกรรมละเลยต่อหน้าที่หรือไม่กรณีให้บริษัท สยามอินดิก้า ซึ่งเป็นบริษัทที่ล้มละลายเข้ามามีบทบาทรับผิดชอบในเรื่องของการรับซื้อข้าว โดยทาง ป.ป.ช.ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนข้อเท็จจริง เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลเห็นว่ามีข้อมูลและรายละเอียดที่แตกต่างไปจากคำร้องเดิม

"ป.ป.ช.จะเร่งดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร็ว แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าพยานว่าจะสามารถให้ข้อมูลครบถ้วนหรือไม่ ขณะเดียวกันทาง ป.ป.ช.ยังได้มีการส่งเรื่องให้ประเทศจีนได้ตรวจสอบว่าบริษัทที่อ้างว่าเป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจนั้นจริงหรือไม่ ดังนั้นก็ต้องรอประเทศจีนส่งข้อมูลกลับมา ตั้งเป้าไว้ว่าเดือนหน้าจะพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเฉพาะในส่วนของข้อมูลการระบายข้าวว่าเป็นการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจีหรือไม่" นายวิชา กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คณะอนุกรรมการฯ จะยังไม่ได้มีการเรียกนายกรัฐมนตรีมาชี้แจง เพราะจะต้องไต่สวนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการระบายข้าวก่อน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ