ขณะที่ประชาชนอีกร้อยละ 40.61 ระบุว่า ไม่ควรเสนอชื่อ เพราะไม่ต้องการให้นักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะหากเข้ามาแล้วทำให้เกิดความขัดแย้งกัน สภาปฏิรูปควรมีความเป็นกลาง ควรให้นักวิชาการหรือผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านเข้ามาจะดีกว่า และประชาชนที่เหลืออีกร้อยละ 12.39 ไม่แน่ใจ/ไม่ระบุ
ส่วนความคิดเห็นของประชาชนกรณีการเข้าร่วมเป็นสมาชิก สปช.ของแกนนำหรือกลุ่มแนวร่วม คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 52.44 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะไม่ต้องการให้กลุ่มบุคคลเหล่านี้เข้ามา ซึ่งต่างฝ่ายต่างมีความขัดแย้งกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อเข้ามาก็ทะเลาะกันอีก ทำให้เกิดความวุ่นวายที่ไม่จบสิ้น
ขณะที่ประชาชนอีกร้อยละ 38.13 เห็นด้วยเพราะต้องการให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม แสดงจุดยืนหรือสิ่งที่ต้องการ ทำให้ได้ความคิดเห็นที่หลากหลาย และเกิดการโต้แย้งกันจากหลายๆ ฝ่าย จนนำไปสู่แนวทางในการปฏิรูปประเทศ และหากมีโอกาสทำงานร่วมกันก็อาจทำให้เกิดความสามัคคี ปรองดอง สมานฉันท์เพิ่มขึ้น และประชาชนที่เหลืออีกร้อยละ 9.43 ไม่แน่ใจ/ไม่ระบุ
อนึ่ง ผลการสำรวจดังกล่าวมาจากความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ กระจายทุกระดับการศึกษาและอาชีพ รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,251 หน่วยตัวอย่าง ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2557