ตร.แนะเลี่ยงเส้นทางชุมนุมแยกลาดพร้าว,ส่งฟ้องผู้ต้องหาทุบรถตู้หน้าราบ 11

ข่าวการเมือง Wednesday December 2, 2020 12:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตร.แนะเลี่ยงเส้นทางชุมนุมแยกลาดพร้าว,ส่งฟ้องผู้ต้องหาทุบรถตู้หน้าราบ 11

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) แจ้งขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไปจนเสร็จสิ้นการชุมนุม ตามที่ปรากฏทางสื่อโซเชียลมีเดียได้มีประกาศนัดรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมฯ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. โดยจะไม่มีการปิดการจราจร ปล่อยให้รถเคลื่อนที่ได้ แต่เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาในพื้นที่ก็จะปิดการจราจรโดยปริยาย

สำหรับเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบและควรหลีกเลี่ยง

  • ถนนพหลโยธิน (ขาออก) ตั้งแต่ แยกกำแพงเพชร-แยกรัชโยชิน
  • ถนนพหลโยธิน (ขาเข้า) ตั้งแต่ ห้าแยกลาดพร้าว แยกรัชโยธิน
  • ถนนลาดพร้าว ตั้งแต่ แยกรัชดาลาดพร้าว ห้าแยกลาดพร้าว
  • ถนนวิภาวดี รังสิต (ขาเข้า) ช่องคู่ขนาน ตั้งแต่ ถนนหอวัง-ห้าแยกลาดพร้าว
  • ถนนวิภาวดี รังสิต (ขาเข้า) ช่องคู่ขนาน ขึ้นสะพานลอยลาดพร้าว/ รัชโยธิน
  • ห้าแยกลาดพร้าว (พื้นราบ)

ส่วนเส้นทางที่แนะนำให้ประชาชนไปใช้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านการจราจร

  • ถนนรัชดาภิเษก
  • ถนนโชคชัย4
  • ถนนลาดพร้าววังหิน
  • ถนนเสนานิคม
  • ถนนสุทธิสารวินิจฉัย
  • ถนนวิภาวดี-รังสิต (ช่องทางหลัก)
  • ถนนกำแพงเพชร2
  • ซอยโชคชัยร่วมมิตร
  • ซอยวิภาวดีรังสิต 3
  • ทางยกระดับโทลล์เวย์

ด้านพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า กรณีที่กลุ่มราษฎรประกาศเปลี่ยนสถานที่รวมตัวชุมนุมจากศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ มายังบริเวณห้าแยกลาดพร้าวในช่วงเย็นวันนี้ แกนนำกลุ่มชุมนุมยังไม่ได้มีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบรับทราบตามที่ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะกำหนดไว้

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ไม่กังวลเรื่องการดูแลผู้ชุมนุมเพราะมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยตามความเหมาะสมอยู่แล้ว แต่เป็นห่วงเรื่องการปิดพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพการจราจรในพื้นที่ กทม.

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินคดีจากการชุมนุมที่บริเวณกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการทุบทำลายสิ่งของราชการ เทสีบนผิวจราจรทำให้เกิดความสกปรก ฉีดพ่นสี และทุบสะพานลอยบางแห่งในพื้นที่ สน.บางเขน ขณะนี้ได้มีการนำตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทำให้เสียทรัพย์ด้วยการทุบรถตู้ของ สน.สายไหม ส่งฟ้องต่อศาลแขวงดอนเมืองแล้ว ซึ่งศาลมีคำพิพากษาให้ปรับ 10,000 บาท จำคุก 3 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ส่วนความเสียหายทางราชการอื่นๆ อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ