เอแบคโพลล์เผยนายกฯได้คะแนนนิยมระดับ B-,กลาง/กทม.หมิ่นเหม่,ใต้ตกต่ำ

ข่าวการเมือง Monday October 27, 2008 12:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เอแบคโพลล์ เผยผลสำรวจคะแนนนิยมครั้งแรกของประชาชนทั่วประเทศที่มีต่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี อยู่ในระดับ B- โดยยังคงได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในภาคเหนือและภาคอีสาน ขณะที่ภาคกลางและกรุงเทพฯ ยังหมิ่นเหม่ ส่วนภาคใต้คะแนนนิยมตกต่ำมาก

"คะแนนนิยมต่อนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันอยู่ในแดน(Zone) B- หมายความว่า การตัดสินใจเชิงสาธารณะใดๆ ก็ตามจะอ่อนไหวต่อกระแสตอบรับหรืออาจต่อต้านได้ง่าย แตกต่างไปจากช่วงแรกของการเข้าสู่ตำแหน่งใหม่ที่เคยสำรวจในช่วงเดือนที่ผ่านมา" นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ระบุในเอกสารเผยแพร่

เมื่อจำแนกตามภูมิภาค พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ในภาคเหนือ 70.0%, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 62.5%, ภาคกลาง 53.5% และในกรุงเทพฯ 51.0% สนับสนุนนายสมชาย แต่ในภาคใต้มีเพียง 24.6% ที่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน

แต่เมื่อจำแนกตามระดับการศึกษา พบว่า นายกรัฐมนตรีได้รับการสนับสนุนเป็นส่วนใหญ่ 59.6% จากกลุ่มคนที่มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี แต่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนที่มีการศึกษาระดับปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรีส่วนใหญ่ 51.7% และ 51.5% ตามลำดับ

นายนพดล ยังเสนอแนะทางออกที่นายกรัฐมนตรีจะสร้างคะแนนนิยมด้วยการหยุดจัดงานใหญ่ๆ หรือการนำนโยบายเชิงสาธารณะที่คนทั้งประเทศเห็นว่าดีไปลงที่ภาคเหนือที่เดียว เพราะประชาชนในภาคเหนือสนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันอย่างท่วมท้นอยู่แล้ว

"ให้ระวังจะไปตกในวงรอบเดียวกับอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เกิดการแบ่งแยกแตกแยกเป็นประชาภาคนิยม และความไม่เท่าเทียมในการบริหารจัดการประเทศ" นายนพดล กล่าว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีน่าจะทดลองลงพื้นที่ภาคกลางร่วมกับนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อเปลี่ยนคะแนนนิยมให้ดีขึ้น ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ นายกรัฐมนตรีน่าจะใช้บุคลิกภาพที่อ่อนโยน ถ่อมตัว โดยไปจับมือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของคนกรุงเทพฯ อย่างเป็นรูปธรรม และลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบ

"ทางออกเหล่านี้น่าจะทำได้ทันที เป็นทางออกที่มีผลโดยตรงกับกระแสความเคลื่อนไหวระดับประชาชนรากฐานของสังคมไทย หรือที่เรียกว่า การเคลื่อนไหวของมวลชน ส่วนทางออกในการเชื่อมประสานความรักความสามัคคีระดับแกนนำของกลุ่มเคลื่อนไหวฝ่ายต่างๆ ก็น่าจะดำเนินการควบคู่กันไป โดยจะเห็นว่าสัปดาห์นี้เป็นช่วงจังหวะที่ดีเพราะ เครือข่ายองค์กรต่างๆ กำลังเริ่มต้นเคลื่อนไหวกันอย่างเข้มข้น" นายนพดล กล่าว

ทั้งนี้ เอแบคโพลล์สำรวจความเห็นดังกล่าวจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน 18 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวนตัวอย่างทั้งสิ้น 5,498 ตัวอย่าง ในช่วงระหว่างวันที่ 15-26 ต.ค.ที่ผานมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ