นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.51/53 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่า จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.41 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทและสกุลเงินส่วนใหญในภูมิภาคยังค่อนข้างทรงตัว หลังจากที่วานนี้เงินบาทมีการอ่อนค่าเล็กน้อย หลังรับรู้ข่าวที่ศาลสั่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฎิบัติหน้าที่ แต่วันนี้เงินบาทเริ่มย่อกลับมา ขณะที่เมื่อคืนนี้ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของ สหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาด ส่งผลให้ดอลลาร์มีการปรับตัวแข็งค่าเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ในโซนอ่อนค่า
สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามช่วงนี้ คือสถานการณ์การเมืองในประเทศ
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.30 - 32.60 บาท/ดอลลาร์
*ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 143.65/67 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 142.84 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1794/1797 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1820 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 32.479 บาท/ดอลลาร์
- ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องสอบปมคลิปเสียง "แพทองธาร-ฮุนเซน" ขณะที่มติ 7 ต่อ 2 เสียง สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ให้ยื่นคำ
- "จุลพันธ์" ยันแม้ศาลสั่งนายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่กระทบการดำเนินงานของรัฐบาล ด้าน CIMBT คงเป้าจีดีพีปี 68 โต
- ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ ชี้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยครึ่งหลังปี 68 ค่อนข้างเหนื่อยมาก ยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้น
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันอังคาร (1 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่า เฟดอาจใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นในขณะนี้แล้ว หากไม่ใช่เป็น
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า
- เอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.9
- นักลงทุน จับตาการเปิดเผยข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร
- นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์การค้าโลก หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันว่าไม่มีแผนจะขยายระยะเวลาผ่อนผันการ
เรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับประเทศคู่ค้าหลังจากวันที่ 9 ก.ค. ซึ่งเป็นเส้นตายที่เขากำหนดไว้ และ
รัฐบาลของเขาจะส่งจดหมายแจ้งไปยังประเทศต่าง ๆ เกี่ยวกับภาษีที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บ เว้นแต่จะสามารถบรรลุข้อตกลงได้