รัฐบาลอินเดียประกาศระงับนโยบายการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ในกลุ่มค้าปลีก ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเอาไว้ก่อน จนกว่าทุกพรรคการเมืองจะมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน
“การตัดสินใจในเรื่องนี้ถูกระงับไว้ก่อนจนกว่าการหารือร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องจะได้ทางออกร่วมกัน โดยผู้เกี่ยวข้องนั้นมีทั้งพรรคการเมืองและรัฐต่างๆ" นายปรานับ มุกเฮอร์จี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินเดียกล่าวต่อรัฐสภาหลังเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกันของทุกพรรคการเมือง
การตัดสินใจของรัฐบาลในครั้งนี้ช่วยยุติภาวะชะงักงันในรัฐสภา ซึ่งต้องเลื่อนการประชุมออกไปหลายต่อหลายครั้งก่อนหน้านี้
รมว.คลังอินเดียกล่าวด้วยว่า ตอนนี้รัฐบาลกำลังพยายามหาทางออกร่วมกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมือง รัฐมนตรีระดับมลรัฐ ผู้ค้าปลีก และเกษตรกร ก่อนที่จะมีการตัดสินใจ
การตัดสินใจระงับเอฟดีไอ 51% ในการค้าปลีกหลากแบรนด์ และ 100% ในการค้าปลีกแบรนด์เดี่ยวของนายมุกเฮอร์จีสร้างความพอใจให้กับ ซูชมา สวารัจ ส.ส.จากพรรคฝ่ายค้านเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่พรรคการเมืองของเธอคัดค้านประเด็นดังกล่าวอย่างแข็งกร้าว
“การตัดสินใจระงับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในภาคค้าปลีกนับว่าเป็นชัยชนะของกระบวนการทางประชาธิปไตย รัฐบาลได้น้อมรับความต้องการของมวลชน จึงไม่ควรจะมองว่าเป็นความพ่ายแพ้ของรัฐบาล ดิฉันขอแสดงความยินดีกับรัฐบาลที่ได้รับฟังเสียงของมวลชน ตอนนี้การตัดสินใจจะมีขึ้นหลังจากที่ได้พูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเสียก่อน ขอขอบคุณนายปรานับ มุกเฮอร์จีที่รับหน้าที่จัดการประเด็นนี้ทั้งหมด" สำนักข่าวซินหัวรายงาน