ธนาคารโลกแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจอินโดนีเซียสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่านี้ หากรัฐบาลทุ่มลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเร่งให้เกิดการปฏิรูประบบจัดซื้อของรัฐ
"การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณสุข สังคม และการเกษตร เป็นสิ่งที่จำเป็น แต่การลงทุนดังกล่าวจะสำเร็จผลได้ต้องอาศัยการปฏิรูประบบจัดซื้อของรัฐ" โจอาคิม วอน แอมส์เบิร์ก ผู้อำนวยการธนาคารโลกสาขาอินโดนีเซีย กล่าว
นายโจอาคิมกล่าวว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจอาจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ไปอีกหลายปี โดยคาดว่าเศรษฐกิจอินโดนีเซียจะขยายตัวเพียง 3.5% ในปีนี้ ก่อนที่จะดีดตัวแตะ 5% ในปีหน้า และ 6% ในปีถัดไป
ส่วนทางด้านองค์กรการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอินโดนีเซียจากเดิมที่ 2.5% เป็น 3-4% ในปีนี้ แต่รัฐบาลอินโดนีเซียมองโลกในแง่ดีกว่านั้น โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจประเทศสามารถขยายตัวได้ถึง 4.5% ในปีนี้
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องเผชิญอุปสรรคสำคัญ นั่นคือระบบราชการที่เชื่องช้าและกินเวลายาวนาน ซึ่งส่งผลให้โครงการลงทุนต่างๆ ของรัฐบาลดำเนินไปอย่างเชื่องช้า โดยจนถึงเดือนพ.ค. รัฐบาลบรรลุโครงการลงทุนต่างๆ ไปเพียง 27% ของเป้าที่ตั้งไว้ในปีนี้ ทั้งที่การลงทุนในโครงการต่างๆ เป็นสิ่งที่จำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ นายโจอาคิมเน้นย้ำว่า การปฏิรูประบบจัดซื้อของรัฐจะช่วยให้รัฐบาลใช้จ่ายเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน