เอลพิด้า เมมโมรี บริษัทผู้ผลิตเมมโมรีชิปสำหรับคอมพิวเตอร์รายใหญ่สุดของญี่ปุ่นเผยกำไรจากการปฏิบัติการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ไตรมาส หลังจากที่ราคาเซมิอคนดัคเตอร์ปรับตัวสูงขึ้น
เอลพิด้าระบุว่า กำไรจากการปฏิบัติการหรือยอดขายที่หักต้นทุนสินค่าที่จำหน่ายออกไปและค่าใช้จ่ายด้านธุรกิจออกไปแล้ว อยู่ที่ 500 ล้านเยน หรือ 5.6 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ขณะที่เมื่อปีที่แล้ว เอลพิดารายงานตัวเลขขาดทุน 2.45 หมื่นล้านเยน
การลดผลผลิตในภาคอุตสาหกรรมทำให้ภาวะอุปทานล้นคลี่คลายตัวลง และยังทำให้ราคาเมมโมรี ชิป สูงขึ้นกว่า 3 เท่าแล้วในปีนี้ ราคาที่ดีดตัวขึ้นและการปรับเปลี่ยนมาเป็นการผลิตอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กลงกว่าเดิมและคุ้มทุนกว่าเดิม ซึ่งช่วยให้ธุรกิจร่วมทุนของเอลพิดากับพาวเวอร์ชิป เซมิคอนดัคเตอร์ สามารถทำกำไรได้ในไตรมาส 2
ยูอิชิ อิชิดะ นักวิเคราะห์ของมิซูโฮ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กล่าวว่า ผลประกอบการดังกล่าวช่วยสร้างความมั่นใจว่ากำไรของบริษัทจะปรับตัวขึ้นต่อไปในไตรมาส 4 และหลังจากนั้น
ทั้งนี้ ยอดขาดทุนของเอลพิดาลดลงมาเหลือ 8 พันล้านเยนแล้วในไตรมาส 2 จากระดับปีที่แล้วที่ 3.19 หมื่นล้านเยน ขณะที่ยอดขายร่วงลงไป 16% แตะ 9.6 หมื่นล้านเยน