ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันศุกร์ (10 ก.พ.) สัญญาธัญพืชและข้าวโพดยังคงปรับลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากภายนอก และรายงานของกระทรวงเกษตรสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดีถึงแนวโน้มที่ดีของสต็อกข้าวสาลีโลก แต่สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้น
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 5.25 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 6.3175 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 16 เซนต์ หรือ 2.5% ปิดที่ 6.3 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.5 เซนต์ หรือ 0.1% แตะที่ระดับ 12.29 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
สัญญาธัญพืชได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกตลาด อาทิสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งแข็งค่าขึ้น และตลาดหุ้น ตลาดน้ำมัน และตลาดโลหะมีค่า ซึ่งปิดลบ
ขณะที่ความวิตกกังวลเกี่ยวกรีซ ในประเด็นที่รัฐมนตรีการคลังของประเทศในสหภาพยุโรป (อียู) เรียกร้องให้ให้กรีซทำตามข้อเรียกร้องเพิ่มขึ้น เพื่อแลกกับการช่วยเหลือทางการเงินจากไอเอ็มเอฟและอียูนั้นนั้น ก็ได้สร้างปัจจัยเชิงลบแก่ตลาดธัญพืช
WXRISK.COM ซึ่งเป็นเว็บไซต์พยากรณ์อากาศสำหรับเทรดเดอร์ นักลงทุน และธุรกิจ ระบุว่า อาจเกิดอาการร้อนปลกปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดของบราซิลและอาร์เจนติน่าตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์จนถึงวันที่ 19 ก.พ.
ทิม ฮันนาแกน นักวิเคราะห์จาก PFGbest ระบุว่า มีความเสี่ยงที่ผลผลิตข้าวโพดประมาณ 10% ในสหรัฐจะได้รับความเสียหาย ขณะที่ถั่วเหลือง 50% อาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง สภาวะอากาศเช่นนี้เป็นปัจจัยหนุนให้แก่ตลาด
ขณะที่ข้าวโพดได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ระบุว่า รายรับจากน้ำมันเอธานอลของสหรัฐน้อยลง และการผลิตน้ำมันเอธานอลชะลอตัว
ส่วนสัญญาข้าวสาลียังคงร่วงลงอย่างหนัก โดยได้รับแรงกดดันจากแรงเทขาย หลัง USDA คาดการณ์สต็อกข้าวสาลีเพิ่มขึ้นสูงสุดทำสถิติใหม่ในฤดูร้อน สำนักข่าวซินหัวรายงาน