ภาวตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (17 พ.ค.) สัญญาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลือปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศและดอลลาร์ซึ่งอ่อนค่าลง
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. ปรับตัวสูงขึ้น 5 เซนต์ หรือ 0.81% ปิดที่ 6.25 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งสูงขึ้น 19 เซนต์ หรือ 2.97% แตะที่ 6.5775 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 1.13% สู่ระดับ 14.38 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหมดสามารถต้านทานปัจจัยที่ผันผวนภายนอกตลาดได้ อาทิ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง และราคาทองพุ่งขึ้น รวมทั้งตลาดหุ้นและตลาดพลังงานที่ปรับตัวลดลง สัญญาข้าวสาลีปรับตัวสูงสุดเมื่อคืนนี้ สำหรับสัปดาห์นี้สัญญาพุ่งขึ้นไม่ต่ำกว่า 60 เซนต์แล้ว โดยได้รับปัจจัยหนุนที่สำคัญที่สุดจากสภาพอากาศ เนื่องจากเทรดเดอร์มองว่าพยากรณ์อากาศที่ว่าอากาศจะร้อนและแห้งเป็นปัจจัยหนุนที่จะจำกัดผลผลิตที่สูง เป็นพิเศษ นอกจากนี้ มีคาดการณ์ว่าสภาพอากาศจะไม่ดีนักบริเวณเวสต์เทิร์น แคนซัส ในสหรัฐ เช่นเดียวกับสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อผลผลิตข้าวสาลีที่ปลูกในออสเตรเลียและภูมิภาคทะเลดำ
ขณะเดียวกัน สัญญาถั่วเหลืองยังได้รับปัจจัยหนุจากยอดจำหน่ายถั่วเหลืองรอบเก่าไปยังจีนอย่างแข็งแกร่งจำนวน 480,000 ตันสำหรับผลผลิตปี 2554/2555
อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่รวมยอดขายไปยังจีนแล้ว ยอดส่งออกสุทธิรายสัปดาห์อยู่ที่ระดับต่ำกว่าคาดการณ์ โดยยอดส่งออกถั่วเหลืองทั้งหมดสำหรับสัปดาห์นี้อยู่ที่ 673,400 ตัน ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ในตลาดอย่างมาก โดยคาดการณ์อยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านตัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน