ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่น ซึ่งอาจมีการเจรจาในประเด็นอัตราแลกเปลี่ยน
ณ เวลา 22.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.18% สู่ระดับ 100.25 ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า 0.13% สู่ระดับ 1.126 เทียบยูโร และร่วงลง 0.16% สู่ระดับ 144.61 เยน
ดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่องจากวานนี้ โดยได้รับผลกระทบจากการที่มูดี้ส์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของระดับหนี้สาธารณะและภาระดอกเบี้ยของสหรัฐ
ทั้งนี้ นายคัตสึโนบุ คาโตะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น จะทำการหารือกับนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ นอกรอบการประชุมรัฐมนตรีคลังของกลุ่ม G7 ในสัปดาห์นี้ที่แคนาดา
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ รวมทั้งจับตาสภาคองเกรสในการผ่านร่างกฎหมายปรับลดอัตราภาษีเงินได้ของสหรัฐ
นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา ระบุว่า เขาสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ เนื่องจากเฟดต้องรักษาสมดุลระหว่างแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นต่อเงินเฟ้อ และความวิตกเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทั้งนี้ ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ในการประชุมเดือนมี.ค. เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ในปีนี้
อย่างไรก็ดี นายบอสติกกล่าวว่า การเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีผลกระทบมากกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้ในช่วงต้นปีนี้
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์เดินทางไปยังรัฐสภาสหรัฐในวันนี้ เพื่อโน้มน้าวสมาชิกพรรครีพับลิกันที่ยังคงมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับร่างกฎหมายปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่ปธน.ทรัมป์พยายามผลักดันผ่านสภาคองเกรส
สมาชิกพรรครีพับลิกันหลายกลุ่มแสดงความไม่พอใจต่อร่างกฎหมายดังกล่าว และอาจลงมติคว่ำร่างกฎหมายฉบับนี้ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ยังคงแสดงความเชื่อมั่นว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะสามารถผ่านการลงมติจากสภาคองเกรส
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้ถือเป็นการสานต่อกฎหมายปฏิรูปภาษีปี 2560 ซึ่งเป็นผลงานสำคัญของปธน.ทรัมป์ขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า การปรับลดอัตราภาษีครั้งใหม่จะทำให้รัฐบาลสหรัฐมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นอีก 3-5 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์
นายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ต้องการให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติรับรองร่างกฎหมายดังกล่าวภายในวันพฤหัสบดีนี้ ก่อนวันหยุด Memorial Day ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อปูทางให้วุฒิสภาพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ในเดือนมิ.ย.