ผลสำรวจทางธุรกิจที่เปิดเผยในวันนี้ (22 พ.ค.) จาก HSBC ที่รวบรวมโดย S&P Global ระบุว่า ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นของอินเดียขยายตัวเร็วสุดในรอบ 13 เดือน แตะ 61.2 ในเดือนพ.ค. จาก 59.7 ในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจจะลดลงมาอยู่ที่ 59.5 และอยู่เหนือระดับ 50 ติดต่อกันมาแล้วเกือบ 4 ปี
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
กิจกรรมภาคเอกชนอินเดียดังกล่าวมีภาคบริการเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก โดยดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนที่ 61.2 ในเดือนพ.ค. จาก 58.7 ในเดือนเม.ย.
ขณะเดียวกัน ภาคการผลิตอินเดียก็ยังคงเติบโตได้ดี โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นทรงตัวอยู่ที่ 58.3 ในเดือนพ.ค.
คำสั่งซื้อใหม่ทั้งในและต่างประเทศหนุนให้ยอดสั่งซื้อรวมโตเร็วสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีก่อน เช่นเดียวกับยอดส่งออกที่ทำสถิติสูงสุดในรอบปี โดยอุปสงค์ที่แข็งแกร่งนี้ยังหนุนการจ้างงานให้ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2548 โดยเฉพาะในภาคบริการ
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจยังสะท้อนแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่หนักหน่วงขึ้น โดยต้นทุนปัจจัยการผลิตภาคเอกชนพุ่งสูงสุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่ราคาขายสินค้าและบริการปรับขึ้นเร็วสุดตั้งแต่เดือนพ.ย. โดยเฉพาะราคาผลผลิตภาคการผลิตที่ถีบตัวแรงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2556 จากการที่บริษัทสามารถผลักภาระต้นทุนให้ลูกค้าได้จากอุปสงค์ที่ยังแข็งแกร่ง
แรงกดดันด้านราคานี้คาดว่าจะส่งผ่านไปยังเงินเฟ้อค้าปลีกของอินเดีย ซึ่งอาจทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่งลดต่ำลงดีดกลับขึ้นมาอีก และอาจกระทบต่อการตัดสินใจลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ในเดือนมิ.ย.นี้