สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยวันนี้ (25 ก.ค.) ว่า ยอดค้าปลีกของสหราชอาณาจักร (UK) ในเดือนมิ.ย. ขยับขึ้น 0.9% เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้แรงหนุนจากสภาพอากาศร้อนที่ช่วยกระตุ้นยอดขายเครื่องดื่มและเสื้อผ้า อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการฟื้นตัวดังกล่าวยังต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 1.2%
การขยายตัวในเดือนมิ.ย. เกิดขึ้นหลังจากที่ยอดค้าปลีกร่วงลงอย่างหนักถึง 2.8% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการหดตัวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2566
ทั้งนี้ การฟื้นตัวที่ต่ำกว่าคาดเกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันด้านค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อล่าสุดในเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 3.6% ขณะที่ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงจากความกังวลเรื่องการปรับขึ้นภาษีในช่วงปลายปี ส่งผลให้ครัวเรือนหันมาเพิ่มการออม
นักสถิติอาวุโสของ ONS กล่าวว่า "หากมองในภาพรวม ยอดค้าปลีกในไตรมาสล่าสุดขยายตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19" โดยชี้ว่าสภาพอากาศที่อบอุ่นช่วยหนุนยอดขายในกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตและยอดขายน้ำมันเชื้อเพลิง
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจของ UK ที่เริ่มชะลอตัวลง หลังจากเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงต้นปี 2568 โดยผลผลิตโดยรวมหดตัวลงแล้วในเดือนเม.ย. และพ.ค.
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมวันที่ 7 ส.ค. นี้ เพื่อกระตุ้นตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลง