ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ฟื้นตัวขึ้นในเดือนมิ.ย. โดยได้แรงหนุนจากภาคเซมิคอนดักเตอร์และยานยนต์ ขณะที่ยอดค้าปลีกก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการลงทุนในโรงงานและเครื่องจักรกลับลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4
สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ (31 ก.ค.) ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ด้านยอดค้าปลีก ซึ่งเป็นมาตรวัดการใช้จ่ายภาคเอกชน ก็เพิ่มขึ้น 0.5% แต่ในทางตรงกันข้าม การลงทุนในโรงงานและเครื่องจักรกลับลดลงถึง 3.7%
การเติบโตของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมได้รับแรงขับเคลื่อนหลักจากภาคการผลิตและเหมืองแร่ที่ขยายตัว 1.6% โดยการผลิตเซมิคอนดักเตอร์พุ่งขึ้นถึง 6.6% จากความต้องการชิป DRAM และชิประบบที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนภาคยานยนต์ก็เติบโต 4.2% โดยการเติบโตของสองกลุ่มนี้ช่วยชดเชยการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ดิ่งลงแรงถึง 18.9%
ในฝั่งของผู้บริโภค การใช้จ่ายได้รับแรงหนุนจากยอดขายสินค้ากึ่งคงทน เช่น เสื้อผ้า ที่เพิ่มขึ้น 4.1% และสินค้าไม่คงทน เช่น เครื่องสำอาง ที่เพิ่มขึ้น 0.3% อย่างไรก็ตาม ยอดขายสินค้าคงทนอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้า กลับลดลง 1.6%
การลงทุนในโรงงานและเครื่องจักรที่ลดลงยังคงเป็นประเด็นที่น่ากังวล โดยเป็นการลดลงในวงกว้าง โดยเฉพาะการลงทุนในอุปกรณ์ขนส่งที่ดิ่งลงถึง 14.8% ในเดือนมิ.ย. แต่ยังมีความหวังเล็ก ๆ คือการลงทุนในเครื่องจักรสำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่เพิ่มขึ้น 1.7%
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสถิติฯ ได้อธิบายว่า ตัวเลขที่ลดลงนี้เป็นผลมาจากการเปรียบเทียบกับตัวเลขที่สูงเป็นพิเศษก่อนหน้านี้ (base effect) หลังจากที่เคยมีการลงทุนในอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ไปมหาศาลเมื่อเดือนก.พ.
"หากเทียบแบบปีต่อปี การลงทุนยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ห้าแล้ว และระดับการลงทุนในปัจจุบันก็ไม่ได้ถือว่าอ่อนแอเป็นพิเศษ" เจ้าหน้าที่กล่าวเสริมสำนักงานสถิติฯ ตั้งข้อสังเกตว่า ข้อมูลที่ออกมาผสมผสานกันนี้สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่ทั้งในตลาดในประเทศและตลาดโลก แต่ก็ได้ชี้ว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังคงแข็งแกร่งถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับเศรษฐกิจ