กระทรวงพาณิชย์ของจีนยังไม่ได้เปิดเผยตัวเลขสถิติการไหลเวียนด้านการค้าในสัปดาห์ที่แล้ว จากปกติที่จะเปิดเผยทุกวันจันทร์ในทุกสัปดาห์ แต่นับจนถึงเวลา 11.00 น.ของวันนี้ (30 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ข้อมูลดังกล่าวก็ยังไม่ปรากฏบนเว็บไซต์ของกระทรวง
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของปีนี้ที่กระทรวงพาณิชย์จีนไม่ได้เปิดเผยข้อมูลการไหลเวียนด้านการค้าในวันจันทร์ตามปกติ นอกจากนี้ ความล่าช้าในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวซึ่งเป็นที่จับตาของตลาดนั้น เกิดขึ้นในขณะที่บริษัทต่าง ๆ ของจีนลดการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ
ส่วนข้อมูลที่มีเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่า ท่าเรือของจีนได้ดำเนินการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ขนาดมาตรฐาน 20 ฟุตรวมทั้งสิ้น 6.3 ล้านตู้ ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 10%
รายงานระบุว่า จำนวนเรือที่ขนส่งสินค้าจากจีนไปยังสหรัฐฯ ลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตราสูงกว่า 100% เมื่อวันที่ 2 เม.ย.
สำหรับข้อมูลด้านการส่งออก นำเข้า และดุลการค้าประจำเดือนเม.ย.นั้น สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) จะเปิดเผยในวันที่ 9 พ.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นสัญญาณบ่งชี้แรกที่แสดงให้เห็นว่าการค้าต่างประเทศระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ จะเป็นไปในทิศทางใด นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน
ส่วนในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ยอดส่งออกของจีนพุ่งขึ้น 12.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2567 เนื่องจากภาคธุรกิจของจีนพากันเร่งส่งออกสินค้าเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีศุลกากร
ขณะที่ยอดนำเข้าในเดือนมี.ค.ปรับตัวลง 4.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังคงอ่อนแอ ส่วนยอดเกินดุลการค้าของจีนในเดือนมี.ค. อยู่ที่ 1.0264 แสนล้านดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนธ.ค. 2567 ซึ่งอยู่ที่ 1.048 แสนล้านดอลลาร์
รายงานของ NBS ยังระบุด้วยว่า จีนส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 9.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี และนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ลดลง 9.5% โดยสหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของการค้าโดยรวมของจีน