สำนักข่าววอลล์สตรีตเจอร์นัล (WSJ) รายงานว่า แอปเปิ้ล (Apple) กำลังพิจารณาปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์ไอโฟน (iPhone) ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ โดยตั้งใจที่จะนำเสนอพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ ๆ และเปลี่ยนดีไซน์ นอกจากนี้ แอปเปิ้ลยังหวังที่จะไม่ให้เกิดภาพลักษณ์ว่าการขึ้นราคานั้นเป็นผลมาจากภาษีที่สหรัฐฯ เก็บจากสินค้านำเข้าจากจีน ซึ่งเป็นฐานการผลิตอุปกรณ์ส่วนใหญ่ของแอปเปิ้ล
สำหรับไอโฟนรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้คาดว่าจะมีการปรับปรุงดีไซน์และรูปแบบ รวมถึงอาจมีรุ่นที่ออกแบบให้บางเฉียบเป็นพิเศษ โดยเจฟเฟอรีส์ (Jefferies) ประเมินว่า จากยอดขายไอโฟนประมาณ 65 ล้านเครื่องในสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว ราว 36 ถึง 39 ล้านเครื่องเป็นรุ่นโปร (Pro) หรือโปร แม็กซ์ (Pro Max)
หลายฝ่ายคาดว่า ไลน์อัปที่จะเปิดตัวในฤดูใบไม้ร่วงนี้คาดว่าจะมีรุ่นที่บางลง ซึ่งจะมาแทนที่ไอโฟน 16 พลัส (iPhone 16 Plus) รุ่นปัจจุบันที่วางขายในสหรัฐฯ ในราคา 899 ดอลลาร์สหรัฐ
รายงานข่าวระบุว่า ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิ้ล กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชนของแอปเปิ้ล ซีอีโอของแอปเปิ้ลจึงได้เพิ่มสต็อกสินค้าคงคลังในเดือนมี.ค. ก่อนที่จะมีการประกาศใช้มาตรการภาษี และยังได้ย้ายฐานการผลิตสินค้าที่จะขายในสหรัฐฯ ไปยังอินเดีย