บริษัทโบอิ้งเปิดเผยว่า บริษัทได้รับยอดสั่งซื้อเครื่องบินในเดือนที่แล้วมากถึง 303 ลำ ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2566 โดย 146 ลำเป็นรุ่น 737 Max และ 157 ลำเป็นรุ่น 787 Dreamliner
นอกจากนี้ โบอิ้งยังได้รับยอดสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น 777X จำนวน 42 ลำ ซึ่งเป็นรุ่นที่ยังไม่ได้รับการรับรองจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) โดยเป็นคำสั่งซื้อเครื่องบินลำตัวกว้างล็อตใหญ่จากสายการบิน Qatar Airways โดยข้อตกลงดังกล่าวมีการลงนามในระหว่างที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เดินทางเยือนกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อเดือนที่แล้ว
โบอิ้งได้รับคำสั่งซื้อเครื่องบินรวม 512 ลำในปีนี้ เมื่อเทียบกับ 215 ลำของแอร์บัส และโบอิ้งอาจได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มเติมในงาน Paris Air Show สัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นงานแสดงทางอากาศซึ่งบริษัทต่าง ๆ ใช้โอกาสนำเสนอเทคโนโลยีใหม่และเครื่องบินรุ่นล่าสุด รวมถึงการทำข้อตกลงทางธุรกิจ
นอกจากนี้ โบอิ้งเปิดเผยว่า ในเดือนที่แล้ว บริษัทส่งมอบเครื่องบินจำนวน 45 ลำ เท่ากับเดือนเม.ย. แต่เพิ่มขึ้นจาก 24 ลำในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
นับตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงเดือนพ.ค. โบอิ้งส่งมอบเครื่องบินรวม 220 ลำ ขณะที่แอร์บัสส่งมอบ 243 ลำ
โบอิ้งได้กลับมาส่งมอบเครื่องบินให้กับสายการบินจีนภายในเดือนนี้ หลังจากที่ถูกระงับชั่วคราว อันเนื่องจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) ได้จำกัดการผลิตเครื่องบิน 737 Max ของโบอิ้งไว้ที่ 38 ลำต่อเดือนตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังเกิดเหตุประตูหลุดออกจากลำตัวเครื่องบิน Max 9 ขณะเริ่มบินออกจากเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน ซึ่งแม้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ก็ส่งผลกระทบต่อการผลิตของโบอิ้ง
นายเคลลี ออร์ตเบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโบอิ้ง กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะรักษาการผลิตเครื่องบินไว้ที่ 38 ลำต่อเดือน และอาจขออนุญาตจาก FAA เพื่อเพิ่มการผลิตในอนาคต