สายการบินต้นทุนต่ำ เจ็ทสตาร์ เอเชีย (Jetstar Asia) ที่มีฐานการบินอยู่ในสิงคโปร์ และเป็นสายการบินโลว์คอสต์ในเครือแควนตัสของออสเตรเลีย จะยุติการดำเนินงานในวันที่ 31 ก.ค. นี้ โดยจะค่อย ๆ ลดตารางบินลงเป็นลำดับในช่วงประมาณ 7 สัปดาห์จากนี้ ก่อนที่จะปิดกิจการอย่างถาวร
แควนตัสเปิดเผยว่า เครื่องบินแอร์บัส A320 ของเจ็ทสตาร์ เอเชีย จำนวน 13 ลำ จะทยอยถูกนำกลับไปใช้ให้บริการเส้นทางบินภายในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นตลาดหลักที่มีศักยภาพทำกำไรสูงกว่า ขณะที่พนักงานมากกว่า 500 คนในสิงคโปร์จะถูกเลิกจ้าง อย่างไรก็ดี สายการบินรับรองว่าจะให้การสนับสนุนในหลายรูปแบบ ซึ่งรวมถึงเงินชดเชยการเลิกจ้าง และโอกาสในการหางานใหม่ ทั้งภายในเครือแควนตัสหรือที่อื่น
บริษัทระบุว่า การปิดกิจการในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แควนตัสได้ถึง 500 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 326.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินทุนก้อนนี้จะถูกนำไปใช้ในแผนปรับปรุงและต่ออายุฝูงบิน
ปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การตัดสินใจยุติการดำเนินงานของเจ็ทสตาร์ เอเชีย ได้แก่ ต้นทุนซัพพลายเออร์ที่พุ่งสูงขึ้น ค่าธรรมเนียมสนามบินที่แพงขึ้น และการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงในตลาดสายการบินต้นทุนต่ำของภูมิภาคเอเชีย ซึ่งส่งผลให้เจ็ทสตาร์ เอเชียไม่สามารถทำกำไรในระดับที่ใกล้เคียงกับตลาดหลักของแควนตัสได้
วาเนสซา ฮัดสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มแควนตัส เปิดเผยว่า ต้นทุนบางส่วนจากซัพพลายเออร์เพิ่มขึ้นมากถึง 200% ส่งผลให้โครงสร้างต้นทุนของบริษัทเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นเหตุผลหนึ่งที่ต้องเร่งปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน