ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า ญี่ปุ่นและประเทศคู่ค้าหลักรายอื่น ๆ เปลี่ยนท่าทีในการเจรจาภาษี "อย่างรวดเร็วมาก" ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า ทรัมป์เชื่อว่าการเจรจาอาจมีความคืบหน้าและนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงการค้าในไม่ช้า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คำกล่าวอ้างดังกล่าวของทรัมป์เกิดขึ้นระหว่างที่เขาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอาทิตย์ (13 ก.ค.) เกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของการเจรจาการค้า โดยเน้นไปที่ญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป (EU)
"สหภาพยุโรปกำลังพูดคุยกับเรา พวกเขาต้องการเปิดประเทศ ญี่ปุ่นก็เช่นกัน แต่ในระดับที่น้อยกว่ามาก ในแง่ของการเปิดประเทศ" ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อเดินทางถึงฐานทัพร่วมแอนดรูวส์ (Joint Base Andrews) ชานกรุงวอชิงตัน
"ญี่ปุ่น อย่างที่คุณทราบ เราใกล้ชิดกับญี่ปุ่นมาก แต่พวกเขาขายรถยนต์ให้เราหลายล้านคันต่อปี แต่เราไม่ได้ขายรถยนต์ให้พวกเขาเลยเพราะพวกเขาไม่ยอมรับรถยนต์ของเรา และไม่ยอมรับสินค้าเกษตรของเรามากนักเช่นกัน" ทรัมป์กล่าว พร้อมกับเสริมว่า "แต่พวกเขากำลังเปลี่ยนแปลงท่าทีในการเจรจาอย่างรวดเร็วมาก"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้ส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีใหม่ให้กับบรรดาประเทศคู่ค้าจำนวนมาก โดยสำหรับญี่ปุ่นนั้น ทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 24% ที่เขาเปิดเผยเมื่อต้นเดือนเม.ย. โดยอัตราภาษีใหม่นี้จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.เป็นต้นไป
ในระหว่างการพบปะกับผู้สื่อข่าวที่ฐานทัพแห่งนี้ ทรัมป์โอ้อวดว่าสหรัฐฯ สามารถกวาดรายได้จากภาษีได้กว่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อเดือนที่แล้ว โดยกล่าวว่า "ประเทศของเรากำลังทำเงินมหาศาล" โดยการเรียกเก็บภาษีรถยนต์ เหล็กกล้า และอะลูมิเนียมในอัตราใหม่ มีส่วนอย่างมากในการทำให้รายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว