"ทรัมป์" เผยเคยถูกแบงก์ใหญ่สุดของสหรัฐเมินรับเป็นลูกค้า

ข่าวต่างประเทศ Tuesday August 5, 2025 20:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุด 2 แห่งของสหรัฐเคยปฏิเสธไม่รับเขาเป็นลูกค้า ซึ่งเขากล่าวอ้างว่าเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าลูกค้าที่มีแนวคิดอนุรักษนิยมมักถูกปฏิเสธการเปิดบัญชีอย่างไม่เป็นธรรม

ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เคยแจ้งว่าเขามีเวลา 20 วันในการย้ายเงินสดจำนวนหลายร้อยล้านดอลลาร์ไปยังธนาคารอื่น จากนั้นเขาได้ติดต่อธนาคาร แบงก์ ออฟ อเมริกา เพื่อฝากเงินมากกว่าพันล้านดอลลาร์ แต่ก็ถูกปฏิเสธ

"ผมก็เลยไปธนาคารอีกแห่ง อีกแห่ง และก็อีกแห่ง สุดท้ายผมก็ต้องไปที่ธนาคารขนาดเล็กหลายแห่ง ฝากที่นี่ 10 ล้านบ้าง ที่นั่น 10 ล้านบ้าง ซึ่งธนาคารเลือกปฏิบัติกับผม ทั้งที่ผมเคยทำดีกับพวกเขามาก" ปธน.ทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการ Squawk Box ของสำนักข่าว CNBC

ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาเชื่อว่าเหตุผลที่ธนาคารขนาดใหญ่ปฏิเสธเขาและผู้สนับสนุนของเขา เป็นเพราะหน่วยงานกำกับดูแลภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้กดดันให้ธนาคารเหล่านั้นทำเช่นนั้น

ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวว่า ยาที่มีการนำเข้าสู่สหรัฐ อาจถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงถึง 250% ซึ่งถือเป็นอัตราภาษีสูงสุดที่ปธน.ทรัมป์ขู่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจนถึงขณะนี้

ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะเริ่มต้นด้วยการเก็บ "ภาษีศุลกากรเพียงเล็กน้อย" สำหรับยา แต่ภายในระยะเวลา 1 ปีถึง 1 ปีครึ่ง "เป็นอย่างมากที่สุด" เขาจะเพิ่มอัตราภาษีดังกล่าวสู่ระดับ 150% และจากนั้นเป็น 250%

"เราต้องการให้ยาถูกผลิตในประเทศของเราเอง" ปธน.ทรัมป์กล่าว

ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวว่า เขาจะประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรครั้งใหม่ต่อชิปและเซมิคอนดักเตอร์ในเร็ว ๆ นี้ โดยอาจเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า

"เรากำลังจะประกาศเรื่องชิปและเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นหมวดแยกต่างหาก เพราะเราต้องการให้มันถูกผลิตในสหรัฐ โดยการประกาศนี้จะมีขึ้นภายในสัปดาห์หน้า" ปธน.ทรัมป์กล่าว

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์เปิดเผยว่า เขาได้ลดจำนวนรายชื่อผู้ที่อาจได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ เหลือเพียง 4 คน

แม้ปธน.ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายชื่อบุคคลทั้ง 4 ที่อาจเป็นว่าที่ประธานเฟด แต่เขากล่าวว่า นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด และนายเควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ต่างก็มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับตำแหน่งดังกล่าว

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกมองว่าเป็นตัวเก็งสำหรับตำแหน่งประธานเฟด ได้ขอถอนตัวจากการพิจารณาแล้ว

"ผมรักคุณสก็อตต์มาก แต่เขาอยากอยู่ในตำแหน่งเดิมของเขา ผมเพิ่งถามเขาเมื่อคืนนี้เองว่า 'คุณอยากรับตำแหน่งนี้ไหม?' [ซึ่งเขาตอบว่า] 'ไม่ครับ ผมอยากอยู่ตรงนี้ต่อ' เขาพูดจริง ๆ ว่า 'ผมอยากทำงานกับคุณ' มันเป็นเกียรติมากเลยนะ ผมก็บอกเขาไปว่า 'นั่นยอดมาก ผมขอขอบคุณมาก'"

ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์กล่าวถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดว่า เขาเล่นการเมืองมากเกินไป และล่าช้าเกินไปในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ