จีนเริ่มเก็บภาษีเส้นใยแก้วนำแสงที่นำเข้าจากสหรัฐฯ เพิ่มเติม หลังการสอบสวนเป็นเวลา 6 เดือนพบว่า บริษัทสหรัฐฯ พยายามเลี่ยงมาตรการต่อต้านการทุ่มตลาดของจีน
กระทรวงพาณิชย์จีนระบุในแถลงการณ์ว่า อัตราภาษีสำหรับสายใยแก้วนำแสงชนิดโหมดเดี่ยวแบบ cut-off shifted อยู่ระหว่าง 33.3% - 78.2% และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (4 ก.ย.) ตามเวลากรุงปักกิ่ง ไปจนถึงวันที่ 21 เม.ย. 2571
แถลงการณ์ระบุว่า จากการสอบสวนพบผู้ผลิตและส่งออกสายใยแก้วนำแสงจากสหรัฐฯ เปลี่ยนรูปแบบการค้าเพื่อหลบเลี่ยงภาษีเดิม จึงถือเป็นการละเมิดกฎต่อต้านการทุ่มตลาดของจีน โดยบริษัทที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ คอร์นิ่ง (Corning) ที่ต้องจ่ายภาษีในอัตรา 37.9%, โอเอฟเอส ฟิเทล (OFS Fitel) ในอัตรา 33.3% และดรากา คอมมิวนิเคชันส์ อเมริกาส์ (Draka Communications Americas) สูงสุดที่ 78.2%
นอกจากนี้ กระทรวงฯ ระบุในแถลงการณ์อีกฉบับที่เผยแพร่ในวันนี้ว่า นับเป็นครั้งแรกที่จีนดำเนินการสอบสวนกรณีเลี่ยงมาตรการต่อต้านการทุ่มตลาด (anti-circumvention) พร้อมย้ำว่ากระบวนการเป็นไปอย่างเปิดเผย โปร่งใส และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ทั้งนี้ อัตราภาษีที่เพิ่งประกาศใช้ดังกล่าวเป็นอัตราเดียวกับที่จีนเรียกเก็บกับใยแก้วนำแสงชนิดโหมดเดี่ยวแบบ dispersion unshifted ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนเม.ย. 2566 และจะมีผลจนถึงเดือนเม.ย. 2571 เช่นกัน