ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรวงเงิน 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อเยียวยาผลกระทบจากนโยบายสงครามการค้าและรักษาฐานเสียงทางการเมืองสำคัญ โดยประกาศกลางวงเสวนาที่ทำเนียบขาว ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และตัวแทนเกษตรกรหลายภาคส่วน
บรูค โรลลินส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร (USDA) เปิดเผยรายละเอียดแผนการช่วยเหลือว่า วงเงิน 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ จะจ่ายให้แก่เกษตรกรพืชไร่ที่ปลูกเป็นแถว (Row crop) ภายในวันที่ 28 ก.พ. ส่วนอีก 1 พันล้านดอลลาร์ รัฐบาลจะกันไว้สำหรับพืชผัก ผลไม้ และพืชอื่น ๆ ระหว่างรอสรุปความชัดเจน โดยงบประมาณก้อนนี้มาจากกองทุน Commodity Credit Corporation (CCC) ของกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งจะชดเชยด้วยรายได้จากภาษีศุลกากร
ด้านริชาร์ด ฟอร์ไดซ์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ระบุหลักเกณฑ์การคำนวณเงินช่วยเหลือว่าจะพิจารณาจากพื้นที่เพาะปลูก ต้นทุนการผลิต และปัจจัยประกอบอื่น ๆ เพื่อให้ครอบคลุมเกษตรกรที่เดือดร้อน ทั้งผู้ปลูกข้าวโพด ฝ้าย ถั่วเหลือง ข้าว ข้าวสาลี มันฝรั่ง และปศุสัตว์ ที่มาร่วมหารือในครั้งนี้
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลัง เสริมว่า เงินก้อนนี้เปรียบเสมือน "สะพานเชื่อมสภาพคล่อง" ช่วยประคองเกษตรกรในช่วงปรับตัว จนกว่าข้อตกลงการค้าและนโยบายใหม่ของทรัมป์จะออกดอกออกผล
ปธน.ทรัมป์กล่าวในที่ประชุมว่า เงินช่วยเหลือจะช่วยสร้างความมั่นใจให้เกษตรกรในการระบายผลผลิตปีนี้และวางแผนเพาะปลูกปีหน้า ซึ่งปลายทางจะช่วยลดราคาอาหารให้ครอบครัวชาวอเมริกันด้วย นอกจากนี้ ทรัมป์ยังระบุว่าได้ขอให้ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน เพิ่มยอดสั่งซื้อถั่วเหลืองตามที่ตกลงกันไว้ โดยเชื่อมั่นว่าผู้นำจีนจะ "ทำมากกว่าที่สัญญาไว้"
ทรัมป์ยังกล่าวถึงประเด็นต้นทุนเครื่องจักรการเกษตร โดยโจมตีว่ากฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมทำให้ราคาอุปกรณ์แพงเกินจริง และเตรียมจะยกเลิกกฎเหล่านี้ พร้อมกดดันผู้ผลิตอย่างจอห์น เดียร์ (John Deere) ให้ลดราคาลง
"อุปกรณ์พวกนี้แพงเกินไป สาเหตุใหญ่ก็เพราะไปยัดเยียดระบบรักษ์โลกที่เป็นส่วนเกินเข้ามา ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเลยนอกจากทำให้เครื่องยนต์ซับซ้อนยุ่งยากเปล่า ๆ" ทรัมป์กล่าวด้านโฆษกของจอห์น เดียร์ ออกมาชี้แจงว่า บริษัทพร้อมสนับสนุนมาตรการช่วยเหลือและกำลังทำทุกทางเพื่อช่วยเกษตรกรลดต้นทุน
เอมี โคลบูชาร์ สว.พรรคเดโมแครต ตอบโต้ผ่านแถลงการณ์ว่า ต้นตอปัญหาคือนโยบายการค้าของทรัมป์เอง หากต้องการสร้างความมั่นใจให้เกษตรกร วิธีง่ายที่สุดคือ "ประธานาธิบดีต้องเลิกตั้งกำแพงภาษี"
สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน เกษตรกรสหรัฐฯ กำลังเผชิญวิกฤตต้นทุนปุ๋ยและเมล็ดพันธุ์พุ่งสูง สมาคมถั่วเหลืองอเมริกันคาดว่าปี 2568 จะเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่เกษตรกรขาดทุน ขณะที่สถาบันวิจัยนโยบายอาหารและการเกษตรแห่งมหาวิทยาลัยมิสซูรีประเมินว่า กำไรสุทธิภาคเกษตรในปี 2569 อาจหายไปกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากเงินอุดหนุนรัฐลดลงและราคาพืชผลตกต่ำ
ทั้งนี้ ในการเป็นประธานาธิบดีสมัยแรก ทรัมป์เคยจ่ายเงินเยียวยาผลกระทบสงครามการค้าไปแล้วกว่า 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนปีนี้ยอดเงินช่วยเหลือพุ่งเกือบแตะ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นสถิติเกือบสูงสุด โดยเดิมทีรัฐบาลตั้งใจจะประกาศมาตรการนี้ตั้งแต่เดือนต.ค. แต่ต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากเหตุการณ์หน่วยงานรัฐปิดทำการ (Government Shutdown) นาน 43 วัน