สองบริษัทยายักษ์ใหญ่ระดับโลก "อีไล ลิลลี่" (Eli Lilly) และ "โนโว นอร์ดิสค์" (Novo Nordisk) เร่งเครื่องชิงส่วนแบ่งในตลาดยาลดความอ้วนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วของอินเดีย หวังครองความได้เปรียบก่อนที่ยาสามัญ (Generic) ราคาประหยัดจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนมี.ค. ปีหน้า
โนโวเน้นกลยุทธ์ลดราคาและเร่งเปิดตัวสินค้าใหม่ ส่วนลิลลี่ใช้ความได้เปรียบจากการชิงลงสนามก่อน โดยทั้งสองบริษัทต่างรุกหนักทั้งการเข้าหาแพทย์ โฆษณาให้ความรู้เรื่องโรคอ้วน จับมือกับสถานพยาบาล จัดโปรโมชันให้ผู้ป่วย และทำสัญญาจัดจำหน่ายร่วมกับผู้ผลิตยาในท้องถิ่น
อินเดีย: สมรภูมิหลักของยาลดน้ำหนัก
คาดกันว่าภายในปี 2593 อินเดียจะมีจำนวนประชากรที่น้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนมากเป็นอันดับ 2 ของโลก ทำให้ประเทศนี้กลายเป็นสมรภูมิหลักของยาลดน้ำหนัก ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่ามูลค่าตลาดโลกของยาประเภทนี้จะสูงถึง 1.5 แสนล้านดอลลาร์ต่อปีภายในสิ้นทศวรรษนี้ (ราวปี 2573)
ปัจจุบันการแข่งขันไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องราคาและสิทธิบัตรเท่านั้น แต่ยังขยายวงไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ จากเดิมที่เป็นกลุ่มเศรษฐีในเมืองใหญ่ เริ่มลามไปสู่ครอบครัวชนชั้นกลาง พนักงานออฟฟิศ ผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน และผู้ป่วยโรคแทรกซ้อนในเมืองขนาดเล็ก
"ลิลลี่" ชิงเปิดตัวก่อน ดันยอดขายพุ่งแซง ด้าน "โนโว" หั่นราคาสู้
Mounjaro ยาจากค่ายลิลลี่ของสหรัฐฯ ซึ่งได้รับอนุมัติให้ใช้รักษาทั้งโรคเบาหวานและลดน้ำหนัก ก้าวขึ้นเป็นยาที่มียอดขายสูงสุดในแง่มูลค่าเมื่อเดือนต.ค. ที่ผ่านมา โดยยอดขายพุ่งพรวดเป็นเท่าตัวหลังเปิดตัวเพียงไม่กี่เดือนนับจากเดือนมี.ค. แซงหน้า Wegovy ของโนโวจากเดนมาร์กที่เพิ่งเข้าตลาดเมื่อเดือนมิ.ย.
"หลังเปิดตัวได้เพียงไม่กี่เดือน เราก็รู้ทันทีว่าต้องลดราคาเพื่อให้คนเข้าถึงยาได้มากขึ้น" วิกรานต์ โศรตริยะ กรรมการผู้จัดการโนโว นอร์ดิสค์ อินเดีย กล่าวถึงการปรับลดราคา Wegovy เมื่อเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา โดยเขาให้สัมภาษณ์ขณะเปิดตัว Ozempic ยาเบาหวานชื่อดังของโนโวในอินเดียเมื่อต้นเดือนนี้
อนึ่ง Ozempic เป็นยาฉีดรายสัปดาห์ที่สหรัฐฯ อนุมัติให้ใช้รักษาเบาหวานประเภทที่ 2 มาตั้งแต่ปี 2560 ปัจจุบันกลายเป็นยาขายดีระดับโลกและถูกนำมาใช้ลดน้ำหนักอย่างแพร่หลายเนื่องจากมีฤทธิ์ช่วยคุมความหิว
เพื่อสู้ศึกนี้ โนโวตัดสินใจหั่นราคา Wegovy ในอินเดียลงถึง 37% เมื่อเดือนพ.ย. โดยราคาเริ่มต้นขนาด 0.25 มิลลิกรัม สำหรับใช้หนึ่งเดือนอยู่ที่ 10,850 รูปี (ราว 121.34 ดอลลาร์สหรัฐ) และเพิ่งส่ง Ozempic ลงสนามเมื่อสัปดาห์ก่อนในราคาเดือนละ 8,800 รูปี (ราว 98.42 ดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับขนาด 0.25 มิลลิกรัมเช่นกัน
แม้ Wegovy จะเริ่มไล่กวดมาติด ๆ แต่นักวิเคราะห์มองว่า การที่ Mounjaro วางขายก่อนทำให้ชิงฐานลูกค้าไปได้มาก ประกอบกับตัวยาเคลมว่าช่วยลดน้ำหนักได้เห็นผลกว่า จึงยังเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ป่วย นอกจากนี้ ลิลลี่ยังสร้างจุดต่างด้วยการเจาะกลุ่มผู้ป่วยโรคอ้วนขั้นรุนแรง และเนื่องจากสถานะในตลาดยังแข็งแกร่ง ลิลลี่จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องรีบลดราคาในตอนนี้ และต่อให้ลดราคาในอนาคต Mounjaro ก็น่าจะยังแพงกว่ายาลดน้ำหนักยี่ห้ออื่น
ยักษ์ใหญ่ท้องถิ่นเตรียมส่งยาลดความอ้วนถูกลง 60% ออกสู่ตลาด
ผู้ผลิตยาในอินเดียกว่า 20 ราย อาทิ ด็อกเตอร์ เรดดี้ส์ (Dr Reddy's), ซิพลา (Cipla) และซัน ฟาร์มา (Sun Pharma) ต่างเตรียมส่งยาสามัญราคาถูกลงสนามทันทีที่สิทธิบัตร "เซมากลูไทด์" (semaglutide) ซึ่งเป็นสารสำคัญใน Wegovy และ Ozempic หมดอายุลงในเดือนมี.ค. 2569
นักวิเคราะห์คาดว่ายาสามัญเหล่านี้จะมีราคาถูกลงถึง 60% ซึ่งจะทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะกับโนโวที่ต้องรับมือกับตลาดอินเดียซึ่งอ่อนไหวต่อเรื่องราคา
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารโนโวไม่กังวลเรื่องสิทธิบัตรที่กำลังจะหมดลง โดยย้ำว่าโนโวจะเน้นเรื่องคุณภาพ ความไว้วางใจ และการทำให้ยาเข้าถึงง่ายเป็นหลัก มากกว่าจะไปพะวงเรื่องคู่แข่ง
ปัจจุบัน โนโวได้ฟ้องร้องบริษัทด็อกเตอร์ เรดดี้ส์ และซัน ฟาร์มา เพื่อคุ้มครองสิทธิบัตรและสกัดไม่ให้ยาสามัญออกมาวางขายก่อนเดือนมี.ค. 2569
นักวิเคราะห์เสริมว่า ลิลลี่มีความได้เปรียบกว่าเพราะสิทธิบัตรตัวยา "เทอร์เซพะไทด์" (tirzepatide) ใน Mounjaro มีอายุคุ้มครองยาวไปถึงช่วงกลางทศวรรษหน้า (ราวปี 2578)
"ลิลลี่-โนโว" เร่งหาพันธมิตรในอินเดีย
ด้านลิลลี่ได้จับมือกับซิพลา ยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ของอินเดีย เปิดตัวยาแบรนด์ที่สองในชื่อ Yurpeak เพื่อเจาะตลาดเมืองรอง พร้อมร่วมมือกับโรงพยาบาลอพอลโล (Apollo Hospitals) รณรงค์เรื่องโรคอ้วนและเบาหวาน นอกจากนี้ยังทุ่มงบกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อขยายฐานผลิตในอินเดียอีกด้วย
ฝั่งโนโวเองก็ไม่น้อยหน้า จับมือกับเอ็มเคียว ฟาร์มาซูติคอลส์ (Emcure Pharmaceuticals) ส่งยาแบรนด์ที่สองชื่อ Poviztra ลงสนามเพื่อกระจายสินค้าให้ทั่วถึง พร้อมร่วมกับสตาร์ตอัป "เฮลทิฟาย" (Healthify) จัดทีมโค้ชสุขภาพคอยดูแลผู้ป่วย และผนึกกำลังกับโรงพยาบาลอพอลโลเพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องสุขภาพเช่นกัน