World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 27 มิถุนายน 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 27, 2018 09:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นกว่า 3% นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของกลุ่มเทคโนโลยียังเป็นปัจจัยหนุนตลาดเช่นกัน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขายและจับตานโยบายการค้าของสหรัฐอย่างใกล้ชิด หลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐได้ออกมาแสดงความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากบรรดาประเทศคู่ค้า

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่า กำไรของบริษัทขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัว 16.5% ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.ที่มีการขยายตัว 15%

ส่วนในเดือนพ.ค.เพียงเดือนเดียวนั้น กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 20 ล้านหยวน (หรือประมาณ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) นั้น พุ่งขึ้น 21.1 % เมื่อเทียบเป็นรายปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน

-- ศาลฎีกาสหรัฐลงคะแนนเสียง 5-4 มีคำวินิจฉัยว่า คำสั่งของปธน.ทรัมป์เกี่ยวกับนโยบายจำกัดคนเข้าเมือง เป็นคำสั่งที่ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และอยู่ภายในขอบเขตอำนาจของประธานาธิบดี

ศาลฎีกาปฏิเสธคำร้องของรัฐบาลมลรัฐฮาวายที่ว่า คำสั่งของปธน.ทรัมป์มีแรงจูงใจจากความมุ่งร้ายในทางศาสนา

ปธน.ทรัมป์ออกคำสั่งประธานาธิบดีในเดือนก.ย.ปีที่แล้วในการสั่งห้ามพลเมืองจากอิหร่าน ซีเรีย ลิเบีย โซมาเลีย เยเมน เกาหลีเหนือ และเวเนซุเอลา เดินทางเข้าสู่สหรัฐ โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง

-- เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า บริษัทใดก็ตามที่ซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านในขณะนี้ จะต้องยุติการซื้อน้ำมันดังกล่าวอย่างสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร

ทั้งนี้ วันที่ 4 พ.ย.ถือเป็นวันครบกำหนด 180 วันนับจากวันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในเดือนพ.ค. ซึ่งจะทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่

-- ราคาหุ้นเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) ทะยานขึ้น 8% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจาก GE เปิดเผยว่า ทางบริษัทเตรียมขายธุรกิจดูแลสุขภาพในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า และขายบริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ ธุรกิจให้บริการด้านน้ำมัน ในช่วงเวลา 2-3 ปี โดย GE คาดหวังว่าการดำเนินการดังกล่าวจะสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น และสร้างความแข็งแกร่งต่อสถานะการเงินของบริษัทโดยการลดหนี้ และเพิ่มเงินสด

นอกจากนี้ หุ้นของ GE ยังได้ถูกถอดออกจากดัชนีดาวโจนส์เมื่อวานนี้ หลังจากที่ได้ถูกใช้ในการคำนวณดัชนีมายาวนานกว่า 100 ปี

ทั้งนี้ GE นับเป็นหุ้นกลุ่มแรกสุดที่ได้รับการคำนวณในดัชนีดาวโจนส์ เมื่อมีการก่อตั้งดัชนีในปี 1896 แต่หลังจากนั้น GE ก็ได้ถุกถอดออกจากดัชนีในปี 1898 ก่อนที่จะกลับเข้าไปใหม่ในปี 1899 แต่ก็ถูกถอดอีกครั้งในปี 1901 และกลับเข้าสู่ดัชนีในปี 1907 จนถึงเมื่อวานนี้ โดยได้อยู่ในดัชนีดาวโจนส์มากกว่า 100 ปี

-- นายเจมส์ แมททิส รมว.กลาโหมสหรัฐ ได้เดินทางถึงกรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้เพื่อเข้าเจรจากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนเกี่ยวกับสถานการณ์ในเกาหลีเหนือ และการแผ่อิทธิพลทางการทหารของจีนในทะเลจีนใต้

ทั้งนี้ คาดว่านายแมททิสจะเรียกร้องขอความร่วมมือจากจีนในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี หลังการจัดการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐออกมาส่งสัญญาณว่า ทางการสหรัฐอาจลดความเข้มงวดเกี่ยวกับแผนการจำกัดการลงทุนจากจีนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสหรัฐ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า กระทรวงการคลังสหรัฐกำลังร่างกฎหมายเพื่อห้ามไม่ให้บริษัทที่มีชาวจีนถือหุ้นอยู่อย่างน้อย 25% เข้าซื้อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่มีความสำคัญในภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ ขู่ว่า บริษัทฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์รายใหญ่ของสหรัฐ จะถูกเก็บภาษี"ในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน" หากบริษัทตัดสินใจโยกฐานการผลิตออกจากสหรัฐ

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังระบุว่า ฮาร์ลีย์-เดวิดสันใช้ข้ออ้างด้านภาษีเพื่อเป็นเหตุผลในการโยกย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย

"มอเตอร์ไซค์ฮาร์ลีย์-เดวิดสันไม่ควรมีการผลิตขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งพนักงานและลูกค้าของพวกเขาได้แสดงความโกรธต่อบริษัทอย่างมาก ถ้าพวกเขาย้ายฐานการผลิตออกไป มันก็จะเป็นการเริ่มต้นของจุดจบ พวกเขายอมจำนวน ยอมแพ้ และพวกเขาจะถูกเก็บภาษีอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

-- สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 6.4% ในเดือนเม.ย. ลดลงจากระดับ 6.5% ของเดือนมี.ค. อย่างไรก็ดี ราคาบ้านยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง และปริมาณสต็อกบ้านในระดับต่ำ

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าจับตามองในวันนี้ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ของฝรั่งเศส ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค.และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ค.ของสหรัฐ

ส่วนในวันพรุ่งนี้ จะมีการเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ของญี่ปุ่น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เบื้องต้นเดือนมิ.ย. ของเยอรมนี และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. ของอียู


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ