คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด พร้อมระบุในแถลงการณ์ว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป โดยจะจับตาภาวะเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของเฟดได้ตัดข้อความ "เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป" ซึ่งเป็นถ้อยคำที่บ่งชี้ถึงการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และเฟดได้ทดแทนด้วยข้อความที่ว่า "เฟดกำลังดำเนินแนวทางที่มีความระมัดระวังมากขึ้น" ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายเดิมที่เฟดใช้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดได้เสร็จสิ้นการประชุมเมื่อวานนี้ โดยกล่าวว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป และพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจเป็นหลัก
"ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป เฟดจะพิจารณาถึงความจำเป็น ซึ่งรวมถึงการพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ โดยเฟดจะใช้ความอดทน และจะปล่อยให้ข้อมูลที่ได้รับมานั้น เป็นตัวอธิบายถึงภาวะเศรษฐกิจ" นายพาวเวลกล่าว
ประธานเฟดยังกล่าวด้วยว่า "ปัจจัยที่จะสนับสนุนให้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้น ลดน้อยลงในระดับหนึ่ง"
นายพาวเวลยังได้แสดงความเกี่ยวกับเงินเฟ้อ โดยกล่าวว่า แนวโน้มอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่น่าพอใจ พร้อมกล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปนั้น เฟดจะพิจารณาถึงภาวะเงินเฟ้อ เช่นเดียวกับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆ
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 434.90 จุด เมื่อคืนนี้ หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด พร้อมกับย้ำว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงโบอิ้ง และแอปเปิล อิงค์
ทั้งนี้ บริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2561 ที่ระดับ 3.58 ดอลลาร์/หุ้น และมีรายได้ 2.515 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่ากำไรของโบอิ้งจะอยู่ที่ 3.47 ดอลลาร์/หุ้น และรายได้จะอยู่ที่ 2.397 หมื่นล้านดอลลาร์
ส่วนแอปเปิลเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2562 ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 29 ธ.ค.2561 ตามปีงบการเงินของบริษัท โดยระบุว่า บริษัทมีกำไร 4.18 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 4.17 ดอลลาร์/หุ้น และรายได้อยู่ที่ระดับ 8.43 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 8.397 หมื่นล้านดอลลาร์
-- สหรัฐและจีนได้เปิดฉากการเจรจาระดับสูงในสหรัฐ โดยสื่อมีความหวังว่า จีนจะยอมทำตามข้อเรียกร้องของสหรัฐที่ต้องการให้ยกระดับการปฏิรูปเศรษฐกิจ
เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทั้งสองฝ่ายซึ่งนำโดยนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้มาร่วมประชุมกันที่ทำเนียบขาวเมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยคณะผู้แทนจากทั้งสองฝ่ายจะเดินหน้าประชุมต่ออีกครั้งในวันนี้ ซึ่งคาดว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าพบปะกับนายหลิวด้วย
อย่างไรก็ตาม หากสหรัฐและจีนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าก่อนวันที่ 2 มี.ค. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็จะเดินหน้าเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิม 10% ในขณะนี้
-- บริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. ซึ่งเป็นไตรมาส 3 ของปีงบการเงินบริษัท โดยการขยายตัวของรายได้ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2559 ขณะที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ทั้งนี้ บริษัทเปิดเผยว่ามีรายได้ 1.1728 แสนล้านหยวน (1.747 หมื่นล้านดอลลาร์) ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.189 แสนล้านหยวน
อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 3.096 หมื่นล้านหยวน โดยสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
-- วิศวกรของบริษัทแอปเปิล อิงค์ ถูกดำเนินคดีในข้อหาขโมยความลับเรื่องเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับให้กับบริษัทสัญชาติจีน ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ที่มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นนับตั้งแต่เดือนก.ค.
ทั้งนี้ แอปเปิลได้ตรวจพบว่า นายจี่จง เฉิน ซึ่งเข้าทำงานในแอปเปิลเมื่อปี 2561 ได้แอบถ่ายรูปภายในพื้นที่ปฏิบัติงานลับของบริษัท และดาวน์โหลดไฟล์กว่า 2,000 ฉบับ ซึ่งรวมถึงคู่มือ และแผนผังโครงการโรโบคาร์
-- นางซาราห์ ฮัคคาบี แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้สนทนาทางโทรศัพท์ต่อนายฮวน กุยโด ประธานสมัชชาแห่งชาติและผู้นำพรรคฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา ซึ่งประกาศตัวเป็นประธานาธิบดีรักษาการของเวเนซุเอลา
นางแซนเดอร์สกล่าวว่า ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวย้ำถึงการสนับสนุนของสหรัฐต่อนายกุยโดในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
นางแซนเดอร์สระบุว่า ปธน.ทรัมป์และนายกุยโดเห็นพ้องที่จะมีการติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ทางการเวเนซุเอลาได้เปิดการสอบสวน ซึ่งอาจนำไปสู่การจับกุมตัวนายกุยโด
-- พรรคแรงงานของอังกฤษแถลงว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้มีการแลกเปลี่ยนมุมมองอย่างเป็นประโยชน์กับนายเจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน เกี่ยวกับประเด็นการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
โฆษกพรรคกล่าวว่า นางเมย์และนายคอร์บินเห็นพ้องกันที่จะมีการหารือกันอีกในไม่ช้า
-- โกลด์แมน แซคส์ได้ปรับเพิ่มความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีการทำข้อตกลง สู่ระดับ 15% จากระดับ 10% ก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน โกลด์แมน แซคส์ได้ปรับลดความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะไม่มีการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป สู่ระดับ 35% จากเดิมที่ระดับ 40%
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค. อยู่ที่ระดับ 49.5 ขยับขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 49.4 ในเดือนธ.ค. 2561
ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนมีการขยายตัว และหากดัชนี PMI เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จะบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต
นอกจากนี้ NBS ยังเปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนม.ค.ของจีนอยู่ที่ระดับ 54.7 เพิ่มขึ้นจากระดับ 53.8 ในเดือนธ.ค. 2561 ซึ่งเป็นสัญญาณบวกที่บ่งชี้ถึงผลลัพธ์ที่รัฐบาลจีนพยายามผลักดันเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนด้วยภาคบริการ
-- นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.จะเพิ่มขึ้น 168,000 ตำแหน่ง
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ เยอรมนีเตรียมเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.และอัตราว่างงานเดือนม.ค. ขณะที่อียูเตรียมเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4 และสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนธ.ค. ขณะที่ไฉซินเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค.ของจีน, มาร์กิตเตรียมเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนม.ค.ของเยอรมนี อียู อังกฤษ และสหรัฐ ทางด้านสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เตรียมเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค.