บริษัทแอมะซอนเปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3/2565 อยู่ที่ระดับ 28 เซนต์ ส่วนรายได้เพิ่มขึ้น 15% สู่ระดับ 1.2710 แสนล้านดอลลาร์ แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ของรีฟินิทิฟ (Refinitiv) คาดการณ์ไว้ที่ 1.2746 แสนล้านดอลลาร์
ส่วนรายได้จากธุรกิจแอมะซอน เว็บ เซอร์วิส (Amazon Web Services) อยู่ที่ 2.05 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.11 หมื่นล้านดอลลาร์ และรายได้จากโฆษณาอยู่ที่ 9.55 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 9.48 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ แอมะซอนคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 4/2565 จะเพิ่มขึ้นประมาณ 2% - 8% สู่ระดับประมาณ 1.40 - 1.48 แสนล้านดอลลาร์ แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.5515 แสนล้านดอลลาร์
แอมะซอนเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ เช่นเดียวกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่รายอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจมหภาค, การพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ผลประกอบการของแอมะซอนยังได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของธุรกิจค้าปลีกหลักของบริษัท เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มกลับไปชอปปิงที่ร้านค้า
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ขณะนี้แอมะซอนกลายเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนฯ รายใหญ่ที่รายงานผลประกอบการออกมาน่าผิดหวัง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เมตา แพลตฟอร์มส์ ซึ่งบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กเปิดเผยกำไรต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 และเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในธุรกิจ Reality Labs ซึ่งเป็นธุรกิจที่เมตาสร้างขึ้นเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์เมตาเวิร์ส ขณะที่ไมโครซอฟท์เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิลเปิดเผยทั้งกำไรและรายได้ที่ต่ำกว่าคาด
ทั้งนี้ ราคาหุ้นแอมะซอนร่วงลง 13% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้าวันนี้ หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ต่ำกว่าคาด