ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $1.81 รับคาดการณ์ดีมานด์ฟื้นตัว-จับตาสต็อกน้ำมันดิบ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday August 11, 2021 06:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) โดยตลาดได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งข่าววุฒิสภาสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.81 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 68.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.59 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 70.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ออกรายงานคาดการณ์ภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือนเมื่อวานนี้ว่า การจ้างงานที่แข็งแกร่งและการที่ชาวสหรัฐเริ่มมีการเดินทางมากขึ้นนั้น จะช่วยกระตุ้นความต้องการใช้น้ำมันเบนซินให้เพิ่มขึ้นสู่ระดับเฉลี่ย 8.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2564 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2563

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากข่าววุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 69-30 เสียง ผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และสร้างงานครั้งใหญ่ให้แก่ชาวอเมริกัน สำหรับในขั้นตอนต่อไปนั้น วุฒิสภาจะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ

ทั้งนี้ โครงการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกนั้น จะรวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณครั้งใหม่วงเงิน 5.5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมโครงการสร้างถนน สะพาน ทางรถไฟ ปัจจัยพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และโครงการอื่นๆ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานในสหรัฐ

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 600,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 ส.ค. ขณะเดียวกันคาดว่าสต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล และคาดว่าสต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 600,000 บาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ