ประเทศอาหรับ อิสลาม และแอฟริกัน 21 ประเทศออกแถลงการณ์ร่วมกันเมื่อวันจันทร์ (16 มิ.ย.) โดยเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการโจมตีอิหร่าน หยุดยิงอย่างครอบคลุม และฟื้นฟูความสงบในภูมิภาค
แถลงการณ์ร่วมที่ออกโดยรัฐมนตรีต่างประเทศของอียิปต์ ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ ปากีสถาน ตุรกี ชาด และอีกหลายประเทศ แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อ "การยกระดับที่อันตราย" ของการโจมตีของอิสราเอลต่ออิหร่านตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา และเตือนว่าการโจมตีดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อสันติภาพและเสถียรภาพทั่วทั้งภูมิภาคอย่างร้ายแรง
บรรดารัฐมนตรีประณามอิสราเอลว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรสหประชาชาติ พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเคารพอำนาจอธิปไตยของรัฐและบูรณภาพแห่งดินแดน การอยู่ร่วมกันโดยสันติ และแก้ไขข้อพิพาทโดยสันติวิธี
นอกจากนี้ บรรดารัฐมนตรีได้ย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดตั้งเขตตะวันออกกลางที่ปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธทำลายล้างสูงอื่น ๆ และเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ทั้งหมดในภูมิภาคเข้าร่วมสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้กลับเข้าสู่การเจรจาในฐานะหนทางเดียวที่เป็นไปได้ในการบรรลุข้อตกลงที่ยั่งยืนเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ตั้งแต่ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 มิ.ย.) อิสราเอลได้โจมตีทางอากาศในกรุงเตหะรานและพื้นที่อื่น ๆ ทั่วอิหร่าน ส่งผลให้ผู้บัญชาการทหารระดับสูง นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ และพลเรือนเสียชีวิตหลายคน ขณะเดียวกัน อิหร่านตอบโต้ด้วยการโจมตีเป้าหมายต่าง ๆ ในอิสราเอลด้วยขีปนาวุธและโดรนหลายครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและเกิดความเสียหายอย่างมาก