สื่อหลายสำนักของรัสเซียรายงานว่า กลุ่มแฮกเกอร์รัสเซีย "KillNet" ได้เจาะเข้าสู่ฐานข้อมูลของคณะเสนาธิการทหารบกแห่งกองทัพยูเครน (AFU) และเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับทหารยูเครนที่เสียชีวิตและสูญหายมากกว่า 1.7 ล้านนาย
ตัวแทนของกลุ่มแฮกเกอร์ดังกล่าวได้ยืนยันกับเว็บไซต์ข่าว Sputnik และสำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซียในวันพุธ (20 ส.ค.) พร้อมแชร์ภาพถ่ายของทหารที่เสียชีวิต รวมถึงสำเนาหนังสือเดินทาง บัตรประจำตัวทหาร ใบมรณบัตร และป้ายชื่อห้อยคอ นอกจากนี้ กลุ่มแฮกเกอร์ระบุว่าได้ทำการแฮกข้อมูลผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ของหัวหน้าฝ่ายส่งกำลังบำรุงของกองทัพยูเครน
รายงานระบุว่า ไฟล์ดิจิทัลของคณะเสนาธิการทหารบกแห่งกองทัพยูเครนเผยให้เห็นว่า ตลอดระยะเวลาสามปีของปฏิบัติการพิเศษทางทหาร กองทัพยูเครนสูญเสียกำลังพลไปมากกว่า 1.7 ล้านนาย (รวมเสียชีวิตและสูญหาย) โดยสูญเสียกำลังพล 118,500 นาย ในปี 2565, 405,400 นาย ในปี 2566, 595,000 นาย ในปี 2567 และ 621,000 นาย ในปี 2568
ทั้งนี้ เมื่อเดือนเม.ย. ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เปิดเผยกับสื่ออเมริกันว่า ยูเครนสูญเสียกำลังพลราว 100,000 นาย นับตั้งแต่ปี 2565 อย่างไรก็ตาม ในเดือนมิ.ย. ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เปิดเผยว่า ในแคว้นคุสค์เพียงแห่งเดียว ยูเครนก็สูญเสียกำลังพลไปมากถึง 76,000 นายแล้ว
หลังจากที่มีรายงานข่าวการแฮกข้อมูลดังกล่าว ศูนย์ต่อต้านข้อมูลบิดเบือนแห่งสภาความมั่นคงแห่งชาติและการป้องกันประเทศของยูเครน ได้ออกมาตอบโต้ว่าข่าวดังกล่าวเป็นข่าวปลอมที่เผยแพร่โดยฝีมือของรัสเซีย
ศูนย์ต่อต้านข้อมูลบิดเบือนฯ ระบุว่า ยูเครนไม่เคยมีกองกำลังประจำการมากถึง 1.7 ล้านนายนับตั้งแต่แยกตัวออกจากสหภาพโซเวียต โดยปธน.ยูเครนระบุว่า ณ เดือนม.ค. 2568 ยูเครนมีกำลังพลจำนวน 880,000 นาย นอกจากนี้ ปธน.ยูเครนยังระบุว่า รัสเซียสูญเสียกำลังพลมากกว่ายูเครนถึงสามเท่า
ทั้งนี้ คณะเสนาธิการทหารบกแห่งกองทัพยูเครนรายงานว่า ณ วันที่ 20 ส.ค. 2568 รัสเซียมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 1,072,700 นาย นับตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. 2565