ซาอุดีอาระเบียและปากีสถานยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคงที่มีมายาวนาน ด้วยการลงนามในข้อตกลงร่วมด้านกลาโหม ณ กรุงริยาดเมื่อวันพุธ (17 ก.ย.) เพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านกลาโหมระหว่าง 2 ชาติและส่งเสริมความร่วมมือในการรับมือกับการรุกรานทุกรูปแบบ โดยระบุว่า "การรุกรานใด ๆ ก็ตามต่อประเทศใดประเทศหนึ่งจะถือเป็นการรุกรานทั้งสองประเทศ"
เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย และนายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชารีฟ ของปากีสถานร่วมกันลงนามในข้อตกลงดังกล่าว โดยปากีสถานและซาอุดีอาระเบียได้จัดการซ้อมรบร่วมกันมาหลายปีแล้ว และทั้งสองประเทศก็พยายามพัฒนาความสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้นกับรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงป้องกันร่วมอาจทำให้ซาอุดีอาระเบียต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งกับอินเดีย ซึ่งปากีสถานเคยสู้รบกับอินเดียมาหลายครั้ง รวมถึงความตึงเครียดที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งการปะทะกันระหว่างเครื่องบินรบ และการโจมตีด้วยโดรน ขีปนาวุธ และปืนใหญ่ตามแนวพรมแดนร่วม
นอกจากนี้ ข้อตกลงดังกล่าวยังเกิดขึ้นหลังจากที่อิสราเอลโจมตีผู้นำกลุ่มฮามาสที่กรุงโดฮาของกาตาร์ในเดือนนี้ ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และพันธมิตรสำคัญในตะวันออกกลางอย่างอิสราเอลและกาตาร์ตึงเครียด ขณะที่ผู้นำชาติอาหรับคนอื่น ๆ ได้ออกมาประณามเหตุการณ์โจมตีนี้ และตั้งคำถามว่า ความมั่นคงที่สหรัฐฯ รับประกันให้นั้นเชื่อถือได้หรือไม่