นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนางมารีน เลอ เปน คู่แข่งจากพรรคเนชันแนล ฟรอนต์ (FN) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัดของฝรั่งเศส มีคะแนนนำในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก โดยผลเอ็กซิทโพลซึ่งจัดทำโดย Elabe ระบุว่า นายมาครงได้คะแนนสนับสนุน 28.2% ขณะที่นางเลอเปนได้คะแนน 23.4%
ผลคะแนนดังกล่าวทำให้นายมาครงและนางเลอเปนกลายเป็นผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในรอบสุดท้ายอีกครั้งเช่นเดียวกับเมื่อปี 2560 ซึ่งในครั้งนั้นนายมาครงได้ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดของฝรั่งเศส
นายมาครงกล่าวกับบรรดาผู้สนับสนุนของเขาเมื่อวันอาทิตย์ (10 เม.ย.) ว่า การรณรงค์หาเสียงยังคงดำเนินต่อไปในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า จนกว่าจะถึงการลงคะแนนเสียงรอบ 2 ในวันที่ 24 เม.ย. ซึ่งจะเป็นการชี้ขาดสำหรับประเทศฝรั่งเศสและยุโรป
ทางด้านนางเลอเปนได้ให้คำมั่นสัญญาว่า หากเธอได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดี เธอจะนำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่ฝรั่งเศสทั้งในระดับประเทศและเวทีโลก พร้อมกับชูแคมเปญที่มีความสำคัญต่อความรู้สึกของชาวฝรั่งเศส ซึ่งรวมถึงราคาอาหารและก๊าซที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากภาวะเงินเฟ้อและผลกระทบจากการที่ชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย