หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล (WSJ) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดว่า สาเหตุที่เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย (Air India) ตกในเมืองอาเมดาบัด ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา อาจเกิดจากการที่กัปตันปิดสวิตช์การจ่ายเชื้อเพลิงเข้าสู่เครื่องยนต์เพียงไม่กี่วินาทีหลังเครื่องบินเทคออฟ
เที่ยวบินดังกล่าวเป็นเครื่องบินโบอิ้ง รุ่น 787 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งกำลังมุ่งหน้าสู่กรุงลอนดอน ก่อนประสบอุบัติเหตุตกไม่นานหลังออกจากรันเวย์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 260 ราย
รายงานระบุว่า จากการตรวจสอบกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน นักบินผู้ช่วย ซึ่งเป็นผู้ควบคุมเครื่องในขณะนั้น ได้ถามกัปตันว่าทำไมจึงปิดสวิตช์ควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง ขณะที่อีกฝ่ายปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการ หลังจากนั้น เครื่องบินก็เริ่มสูญเสียแรงขับและลดระดับลงทันที
กล้องวงจรปิดภายนอกยังบันทึกภาพขณะเครื่องบินเพิ่งลอยจากพื้น ซึ่งเผยให้เห็นว่า ระบบกังหันลมฉุกเฉินของเครื่องบิน (Ram Air Turbine) ได้กางออกอย่างฉับพลัน บ่งชี้ว่าระบบขับเคลื่อนหลักหยุดทำงานเนื่องจากเครื่องยนต์ขาดพลังงาน
รายงานยังเปิดเผยชื่อของนักบินทั้งสอง ได้แก่ กัปตันสุมิต สภารวาล และคลีฟ กุนดาร์ นักบินผู้ช่วย ซึ่งมีชั่วโมงบินสะสม 15,638 ชั่วโมง และ 3,403 ชั่วโมง ตามลำดับ
แม้รายงานเบื้องต้นจากสำนักงานสืบสวนอุบัติเหตุทางอากาศ (AAIB) ที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์ (12 ก.ค.) จะยืนยันว่า สวิตช์ควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิงถูกเปลี่ยนจากตำแหน่ง "เปิด" เป็น "ตัด" ห่างกันเพียงหนึ่งวินาทีหลังเครื่องขึ้นบิน แต่ไม่ได้ระบุว่าเกิดจากความตั้งใจหรือความผิดพลาด
จนถึงขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานการบินพลเรือนอินเดีย (DGCA), กระทรวงการบินพลเรือน, บริษัทโบอิ้ง และแอร์อินเดีย ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล