ซูเปอร์ไต้ฝุ่น "รากาซา" ถล่มฟิลิปปินส์ ประกาศเตือนภัยทั่วภูมิภาค

ข่าวต่างประเทศ Monday September 22, 2025 16:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ สั่งให้หน่วยงานรับมือภัยพิบัติและหน่วยงานรัฐทั้งหมดเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่น "รากาซา" (Ragasa) เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งทางภาคเหนือของประเทศ ขณะที่อิทธิพลของพายุยังทำให้หลายประเทศทั่วเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องประกาศเตือนภัยด้วยเช่นกัน

หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์รายงานว่า ไต้ฝุ่นรากาซามีความเร็วลมศูนย์กลาง 215 กม./ชม. และลมกระโชกแรงสูงสุด 295 กม./ชม. พายุได้ทวีกำลังขึ้นเล็กน้อยขณะเคลื่อนผ่านเกาะบาบูยัน และมุ่งหน้าขึ้นฝั่งที่เกาะคาลายัน ซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง หรือสตอร์มเซิร์จ (Storm Surge) สูงกว่า 3 เมตร

พื้นที่หมู่เกาะบาบูยันยังคงอยู่ภายใต้สัญญาณเตือนภัยพายุระดับสูง โดยทางการแนะนำให้ประชาชนอยู่ห่างจากชายฝั่งและริมแม่น้ำ ขณะที่หน่วยงานภัยพิบัติได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นภาพจังหวัดคากายันทางตอนเหนือเผชิญกับลมพายุรุนแรงและฝนที่ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดคลื่นสูงและต้นไม้ไหวเอนอย่างรุนแรง

รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศให้หน่วยงานและสถานศึกษาในกรุงมะนิลาและพื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะลูซอนหยุดทำการ เนื่องจากอิทธิพลจากแถบฝนด้านนอกของพายุเริ่มส่งผลกระทบในพื้นที่ พร้อมทั้งเตือนประชาชนให้ระวังไฟฟ้าดับ ดินถล่ม น้ำท่วม และคลื่นลมแรงในทะเล

ด้านสายการบินต่าง ๆ ยกเลิกเที่ยวบินในประเทศไปแล้ว 24 เที่ยวบิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเที่ยวบินที่ให้บริการในท่าอากาศยานหลักของเกาะลูซอน ขณะที่ท่าเรือหลายแห่งก็สั่งระงับบริการเรือข้ามฟากเช่นกัน

ขณะเดียวกัน แม้ไต้ฝุ่นรากาซาจะไม่เคลื่อนเข้าไต้หวันโดยตรง แต่อิทธิพลจากพายุจะทำให้เกิดฝนตกหนักบริเวณชายฝั่งตะวันออกซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ไม่มากนัก ทางการไต้หวันได้ประกาศเตือนภัยทั้งทางบกและทางทะเล พร้อมยกเลิกเที่ยวบินในประเทศ 146 เที่ยวบิน และสั่งอพยพประชาชนกว่า 900 คนออกจากพื้นที่ภูเขาทางภาคใต้และภาคตะวันออก

ด้านกระทรวงกลาโหมของเวียดนามสั่งให้กองกำลังเฝ้าระวังและเตรียมรับมือพายุที่อาจขึ้นฝั่งในช่วงปลายสัปดาห์นี้ เช่นเดียวกับทางการจีนที่ได้เริ่มใช้มาตรการป้องกันน้ำท่วมในหลายมณฑลทางภาคใต้ เพื่อรับมือฝนที่จะตกหนักตั้งแต่คืนวันอังคารเป็นต้นไป (23 ก.ย.) โดยมาเก๊าและจูไห่ได้วางแผนปิดโรงเรียนและเตรียมอพยพประชาชนแล้ว

ส่วนฮ่องกงประกาศปิดสนามบินเป็นเวลา 36 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เย็นวันอังคาร ขณะที่มีรายงานว่า ประชาชนเริ่มออกไปกักตุนของใช้จำเป็นตั้งแต่เช้าวันนี้ ทำให้ซูเปอร์มาร์เก็ตมีคนต่อคิวยาวเหยียดจนสินค้าบางอย่างหมดเกลี้ยง เช่น นมสด และราคาผักตามตลาดสดพุ่งสูงกว่าสามเท่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ