ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น ภายหลังจากที่สหรัฐตรวจพบว่า แอมเบอร์ วินสัน เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในโรงพยาบาลเทกซัส เฮลธ์ เพรสไบเทอเรียน ในเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส ติดเชื้อไวรัสอีโบลาเป็นรายที่ 2 ของสหรัฐ และเธอยังได้เดินทางข้ามประเทศด้วยเครื่องบินพาณิชย์ พร้อมผู้โดยสาร 132 ราย ก่อนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล 1 วัน เนื่องจากอาการของไวรัสอีโบลา
วินสัน พยาบาลวัย 29 ปีเป็นผู้ดูแลนายโทมัส อีริค ดันแคน ผู้ป่วยอีโบลาชาวไลบีเรียที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในเท็กซัส และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐจะเฝ้าสังเกตเชื้อไวรัสอีโบลา "อย่างเข้มงวดยิ่งกว่าเดิม" ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่พบพยาบาลรายที่สองติดเชื้อในเท็กซัส
ปธน.โอบามากล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่คณะรัฐมนตรีระดับสูงในการรับมือกับอีโบลา ว่า "เราจะสร้างความเชื่อมั่นว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นซ้ำ โดยขณะนี้เรากำลังเฝ้าสังเกต ตรวจตรา และตรวจสอบอย่างเข้มงวดกว่าเดิมในรูปแบบเดียวกันกับที่ปฏิบัติในดัลลัส และทำให้มั่นใจว่าจะมีการดำเนินงานอย่างเข้มงวดตามโรงพยาบาลและคลินิกทั่วประเทศ"