เมื่อค่ำวานนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงแรงงาน จำนวน ๙ คน นำโดยนายธงชัย ชาสวัสดิ์ อธิบดีกรมการกงสุลเดินทางถึงกรุงตูนิส ประเทศตูนีเซีย เวลา ๑๘.๐๐ น. ตามเวลาท้องถิ่นโดยกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงตูนีส ได้ให้การต้อนรับ
คณะเจ้าหน้าที่จะแบ่งเป็น ๒ กลุ่ม โดยกลุ่มแรกจะเดินทางไปยังเมือง Djerba เพื่อหารือถึงการเตรียมการจัดส่งแรงงานกลับประเทศไทยและประเมินสถานการณ์ใน พื้นที่กับทีมงานของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงตริโปลี คณะเจ้าหน้าที่อีกกลุ่มจะอยู่ที่กรุงตูนิส โดยจะรับผิดชอบดูแลเรื่องการประสานงานกับรัฐบาลตูนิสและการส่งแรงงานไทยกลับ ประเทศ
ด้านความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนไทย นักเรียนไทยกลุ่มแรกจำนวน ๘ คน จะเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ ในวันนี้ (๒ สิงหาคม ๒๕๕๗) เวลา ๑๒.๒๕ น. โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK 384 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มอบให้เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ ๕ กอ.รมน ไปรับคณะนักเรียนไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศได้มอบหมายให้มีนายประสิทธิพร เวทย์ประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมการกงสุลไปร่วมด้วย ทั้งนี้ กรมการกงสุลได้ประสานกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในดำเนิน การจัดส่งนักเรียนกลับภูมิลำเนาต่อไป
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากเอกอัครราชทูต ณ กรุงตริโปลี ด้วยว่าสถานเอกอัครราชทูตได้ประสานงานกับบริษัทนายจ้างของแรงงานไทยเพื่อจัด ส่งแรงงานออกจากลิเบีย โดยในขณะนี้ได้รับแจ้งว่าทางบริษัทนายจ้างกำลังเตรียมการต่างๆ ซึ่งคาดว่า ในวันอาทิตย์ที่ ๓ สิงหาคม จะมีแรงงานไทยจำนวน ๘๑ คนเดินทางโดยเครื่องบินจากเมืองอัลเบด้าไปที่กรุงตูนีส ในวันจันทร์ที่ ๔ สิงหาคม จะมีแรงงานไทย ๑๐ คน เดินทางจากเมืองอัลเบด้าไปยังกรุงไคโร และในวันศุกร์ที่ ๘ สิงหาคม จะมีแรงงาน ๘ คน เดินทางโดยเครื่องบินจากเมืองอัลเบด้าไปที่กรุงไคโร ทั้งนี้ อยู่ในระหว่างการประสานงานเรื่องรายละเอียดในการดำเนินการต่อไป
ในประเด็นการตรวจคนเข้าเมืองที่ประเทศตูนีเซีย นั้น เมื่อวานนี้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับรัฐมนตรช่วยว่าการกระทรวง การต่างประเทศตูนีเซีย เพื่อขอความอนุเคราะห์เป็นการพิเศษแก่แรงงานไทยในการประทับตรวจลงตราแก่แรง งานที่เดินทางมาที่ตูนีเซียโดยเครื่องบินโดยสาร แทนที่จะต้องขอรับการตรวจลงตราล่วงหน้า ซึ่งทางการตูนีเซียรับที่จะอนุเคราะห์เรื่องการตรวจลงตราเป็นกรณีพิเศษ
นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทย ถึงแนวทางการช่วยเหลือแรงงานของทั้งสองประเทศร่วมกัน โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์จะให้การช่วยเหลือในการอพยพแรงงานอย่างเต็มที่ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตของทั้งสองประเทศในลิเบียจะมีการหารือเรื่องราย ละเอียดต่อไป
--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--