FPO WEEKLY CONSENSUS (20 กุมภาพันธ์ 2555)

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 21, 2012 14:23 —กระทรวงการคลัง

สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้

  • นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มีความเห็นว่าค่าเงินในสัปดาห์นี้น่าจะแข็งตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากความคืบหน้าของวิกฤตการหนี้สาธารณะของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปที่พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น การทา QE ของธนาคารกลางของประเทศพัฒนาแล้ว และการเข้าทา Carry Trade เพื่อเก็งกาไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้แนวโน้มของตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่ได้ทยอยประกาศออกมาในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีแนวโน้มที่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนให้ยังคงมีเงินไหลเข้ามาในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง
  • อัตราดอกเบี้ย R/P 1 วัน จะยังคงอยู่ที่ 3.00 % โดยนักวิเคราะห์เห็นว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในสัปดาห์นี้
  • Bond Yield อายุ 2 ปี และ Bond Yield อายุ 10 ปี มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากความกังวลว่าการออกพันธบัตรของรัฐบาลเป็นจานวนมากที่จะทยอยออกมา จะทาให้อุปทานในตลาดตราสารหนี้เพิ่มมากขึ้น และส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มสูงขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
  • SET มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อนช่วงฤดูการขึ้นเครื่องหมาย XD ของบริษัทจดทะเบียน นอกจากนี้ แนวโน้มความคืบหน้าของวิกฤตการหนี้สาธารณะของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปที่พัฒนาไปในทางที่ดีทาให้ตลาดมี risk appetite ในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น และมาตรการ QE (Quantitative Easing) ของประเทศพัฒนาแล้วที่จะเริ่มทยอยออกมา น่าจะยังคงเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้ตลาดทุนยังสามารถปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นได้ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ไม่ว่า พ.ร.ก. กู้ยืมเงิน ซึ่งกาลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญจะมีผลการตัดสินออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม ตลาดไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก
  • นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า นักลงทุนต่างชาติจะยังคงซื้อสุทธิทั้งในตลาดตราสารหนี้ และตลาดตราสารทุนเนื่องจากความกังวลในเรื่องความไม่แน่นอนของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปลดลง ทาให้เงินลงทุนบางส่วนไหลกลับสู่ตลาดในกลุ่มประเทศเกิดใหม่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้มาตรการ QE ซึ่งธนาคารกลางของหลายหลายชาติจะทาให้มีสภาพคล่องล้นตลาด ซึ่งจะนามาซึ่งการไหลเข้าของเงินทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่เช่นไทย
ความเห็น สศค.
  • คาดว่า นักลงทุนต่างชาติจะยังคงซื้อสุทธิทั้งในตลาดตราสารทุนและตลาดตราสารหนี้ เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนดีขึ้นจากทิศทางตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐดีขึ้น และแนวโน้มการคลี่คลายของปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป รวมทั้งสภาพคล่องที่ล้นตลาดจากมาตรการผ่อนปรนทางการเงิน (QE) ของประเทศพัฒนาแล้วที่ทยอยออกมา อย่างต่อเนื่อง อนึ่งตัวเลข GDP ของประเทศไทยในไตรมาสที่ 4 ปี 2555 ที่ออกมาต่ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงิน การไหลเข้าออกของทุน รวมทั้งทิศทางของตลาดเงิน และตลาดทุนมากนัก

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ