รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 6 พฤศจิกายน 2555

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 6, 2012 10:58 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 6 พฤศจิกายน 2555

Summary:

1. กรมการค้าต่างประเทศจัดทัพบุกตลาดส่งออกข้าวผลักดันเป้า 8.5 ล้านตัน

2.หมูขึ้นราคา20 บาท/กก.

3.ศุภชัยแนะจับตาเลือกตั้งปธน.สหรัฐมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

Highlight:

1.กรมการค้าต่างประเทศจัดทัพบุกตลาดส่งออกข้าวผลักดันเป้า 8.5 ล้านตัน
  • อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงแนวโน้มการส่งออกข้าวในปี 56 ว่ากรมการค้าต่างประเทศได้กำหนดเป้าหมายการส่งออกข้าวไว้ที่ปริมาณ 8.5 ล้านตัน มูลค่า 5,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายปี 55 ที่ 7.3 ล้านตัน และมั่นใจได้ว่าข้าวไทยยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดโลก เนื่องจากมีคุณภาพและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ทั้งนี้ จากเป้าหมายการส่งออกข้าวที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปี 56 จะเป็นผลมาจากการกำหนดแผนขยายตลาดส่งออกข้าวที่มุ่งแสวงหาตลาดใหม่ๆ อาทิ ประเทศในภูมิภาคแอฟริกา อเมริกาใต้ และตะวันออกกลาง เป็นต้น โดยเน้นการประชาสัมพันธ์คุณภาพข้าวไทย โดยการสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชน รวมทั้งเร่งผลักดันการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐอย่างต่อเนื่อง
  • สศค. วิเคราะห์ว่า กรมการค้าต่างประเทศตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวในปี 56 ขยายตัวร้อยละ 16.4 โดยใช้ยุทธศาตร์ในการขยายตลาดส่งออกใหม่ ไปยังกลุ่มประเทศ Emerging Market และพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เช่น ส่งเสริมการขายข้าวลักษณะพิเศษ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ข้าว GI (Geographical Indication) ข้าวสินเหล็ก เป็นต้น ซึ่งเป็นข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเป็นที่นิยมของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเอเชีย ทั้งนี้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 55 ไทยส่งออกได้แล้ว 5.2 ล้านตัน มีมูลค่าสูงกว่า 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เวียดนาม และอินเดีย แม้จะมีปริมาณส่งออกสูงกว่าไทยในช่วงเวลาเดียวกัน แต่มีมูลค่าการส่งออกรวมต่ำกว่าข้าวไทยมาก
2.หมูขึ้นราคา20 บาท/กก.
  • รายงานข่าวจากวงการฟาร์มสุกร ระบุว่า ขณะนี้ราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มขยับขึ้นมาอยู่ในระดับใกล้เคียงต้นทุนการผลิตที่58-60 บาท/กิโลกรัม (กก.) ซึ่งเมื่อราคาหมูเป็นขึ้น ราคาหมูหน้าเขียงก็จะขยับขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ราคาหมูเนื้อแดงที่ขายหน้าเขียงขยับขึ้นมาไม่น้อยกว่า20 บาท/กก. โดยล่าสุดราคาหมูเนื้อแดงหน้าเขียงอยู่ที่115-120 บาท/กก
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ราคาเนื้อหมูเป็นหน้าฟาร์มที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากปัจจัยด้านต้นทุนในการเลี้ยงหมู ทั้งค่าแรงงาน ค่าอาหารและค่าขนส่งที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งการปรับขึ้นของราคาหมูหน้าฟาร์มจะเป็นแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อให้มีแนวโน้มสูงขึ้น (ราคาเนื้อสัตว์มีสัดส่วนในตะกร้าเงินเฟ้ออยู่ร้อยละ2.29) โดยอัตราเงินเฟ้อล่าสุด ณ ต.ค.55 อยู่ที่ร้อยละ3.3 ซึ่งเมื่อพิจารณาเทียบกับเดือนก่อนหน้า (%mom) พบว่าสูงขึ้นร้อยละ0.13 โดยเป็นผลจากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาในหมวดอาหารและเครื่องดื่มเป็นสำคัญ ที่ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ0.24 ทั้งนี้ สศค.คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี55 อยู่ที่ร้อยละ3.3 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ3.0-3.5ต่อปี)(คาดการณ์ ณ เดือนก.ย.55)
3. ศุภชัยแนะจับตาเลือกตั้งปธน.สหรัฐมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
  • นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการการ UNCTAD กล่าวในการสัมมนา "Sustainable Future in a Challanging World Agenda for Action" ว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมีผลต่อเศรษฐกิจโลก เนื่องจากปัจจุบันประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ยุโรป รวมทั้งสหรัฐฯ กำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจและขาดเสถียรภาพทางการเมือง โดยทั่วโลกต้องจับตาดูนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีคนใหม่ในด้านต่างๆ เช่น การอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโลกผ่าน QE3 ซึ่งทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ประเทศกำลังพัฒนา และอาจก่อให้เกิดเงินเฟ้อและภาวะฟองสบู่ได้
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มจะเผชิญความเสี่ยงที่เรียกว่าหน้าผาทางการคลัง(Fiscal Cliff)เนื่องจากผลของการตัดลดงบประมาณของตัวเองลง ขณะที่ต้องแบกรับภาระด้านสวัสดิการที่เพิ่มขึ้นไปด้วยพร้อมๆกัน โดยในปี56 สหรัฐจะเริ่มบังคับใช้มาตรการปรับลดงบประมาณภาครัฐ (Sequestration) ลงไป 8.6 หมื่นล้านดอลลาร์ใน (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนมาตรการระยะยาวเพื่อลดรายจ่ายทางด้านการคลังลงประมาณ100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเวลา10 ปี) อย่างไรก็ดีการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐจะยังคงไว้ซึ่งจุดยืนในการปลดล็อกเศรษฐกิจสหรัฐออกจากFiscal Cliff ดังกล่าว ซึ่งจะช่วยลดทอนแรงกดดันทางด้านการคลังลงได้บางส่วน

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ