รายงานภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 4/2566 และแนวโน้มไตรมาสที่ 1/2567

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 26, 2024 13:34 —สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

รายงาน

ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

2

สารบัญ

สารบัญ

หน้าหน้า

บทส

บทสรุรุปผู้บริหารปผู้บริหาร 33

ส่วนที่

ส่วนที่ 1 ภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย ไทย ไตรมาสไตรมาสที่ ที่ 44//2562566 55

ส่วนที่

ส่วนที่ 2 เศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยรายสาขาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยรายสาขาไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 44//2562566

และแนวโน้มไตรมาสที่

และแนวโน้มไตรมาสที่ 11//25625677 1144

22.1 อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า 155

22.2 อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมไฟฟ้าไฟฟ้า 166

22.33 อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ 177

22.4 อุตสาหกรรมรถยนต์อุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ 188

2

2.55 อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมรถจักรรถจักรยานยนต์ยานยนต์และชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ 1919

22.66 อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ 2200

22.77 อุตสาหกรรมพลาสติกอุตสาหกรรมพลาสติก 2211

22.88 อุตสาหกรรมปิโตรเคมีอุตสาหกรรมปิโตรเคมี 2222

22.99 อุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ กระดาษและสิ่งพิมพ์อุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ กระดาษและสิ่งพิมพ์ 2233

22.1010 อุตสาหกรรมเซรามิกอุตสาหกรรมเซรามิก 2244

22.1111 อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ 2255

22.122 อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม 2266

22.133 อุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือน 2277

22.14 อุตสาหกรรมยาอุตสาหกรรมยา 2288

22.155 อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง 2929

22.166 อุตสาหกรรมรองเท้าและอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องเครื่องหนังหนัง 3300

22.177 อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ 3311

22.188 อุตสาหกรรมอาหารอุตสาหกรรมอาหาร 3322

3

บทส

บทสรุรุปผู้บริหารปผู้บริหาร

สรุปภาวะ

สรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยไตรมาสที่ เศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยไตรมาสที่ 44//2562566

ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยไตรมาสที่ 4 ปี ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยไตรมาสที่ 4 ปี 2562566 เมื่อพิจารณาจากดัชนีผลผลิตเมื่อพิจารณาจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (อุตสาหกรรม (MPI) มีค่าอยู่ที่ 89.35 ลดลงร้อยละ 5.06 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีค่าอยู่ที่ 89.35 ลดลงร้อยละ 5.06 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการปรับตัวลดลงเป็นไตรมาสโดยเป็นการปรับตัวลดลงเป็นไตรมาส ที่ 5 ติดต่อกัน ที่ 5 ติดต่อกัน จากการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศที่ลดลงตามการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก ประกอบจากการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศที่ลดลงตามการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก ประกอบ กับสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินจึงมีความเข้มงวดมากขึ้น รวมถึงกับสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินจึงมีความเข้มงวดมากขึ้น รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนการเงินและภาระหนี้ของผู้ประกอบการที่เพิ่มสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนการเงินและภาระหนี้ของผู้ประกอบการที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ทั้งนี้ อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมสำคัญที่ชะลอตัวสำคัญที่ชะลอตัวในไตรมาสที่ 4ในไตรมาสที่ 4 ปี 2566ปี 2566 อาทิ อาทิ ยานยนต์ยานยนต์ จากการผลิตจากการผลิตรถปิกอัพ 1 ตัน รถปิกอัพ 1 ตัน เป็นหลัก โดยเป็นผลจากเป็นหลัก โดยเป็นผลจาก การผลิตเพื่อจำหน่ายในการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ประเทศ เนื่องจากรายได้เกษตรกรซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักปรับลดลงจากปีก่อน ส่งผลให้เนื่องจากรายได้เกษตรกรซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักปรับลดลงจากปีก่อน ส่งผลให้กำลังซื้อชะลอตัว ประกอบกับภาระหนี้กำลังซื้อชะลอตัว ประกอบกับภาระหนี้สินภาคครัวเรือนอยู่ในระดับสูงสินภาคครัวเรือนอยู่ในระดับสูง ส่งผลต่อให้สถาบันการเงินมีความเข้มงวดส่งผลต่อให้สถาบันการเงินมีความเข้มงวด ในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ตามการตามการชะลอตัวของตชะลอตัวของตลาดโลก ทำให้ความต้องการลาดโลก ทำให้ความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลกลดลง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลกลดลง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง ปรับตัวลดลงจาก ปรับตัวลดลงจาก Hard Disk Drive เป็นหลัก จากความต้องการอุปกรณ์การจัดเก็บชะลอตัว ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่มีอุปกรณ์อื่น ๆ เป็นหลัก จากความต้องการอุปกรณ์การจัดเก็บชะลอตัว ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่มีอุปกรณ์อื่น ๆ ในการจัดเก็บข้อมูลมีพื้นที่จัดเก็บมากและประสิทธิภาพสูงขึ้น ในการจัดเก็บข้อมูลมีพื้นที่จัดเก็บมากและประสิทธิภาพสูงขึ้น สำหรับ สำหรับ อุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวในไตรมาสที่ 4 อุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวในไตรมาสที่ 4 ปี 2566ปี 2566 อาทิอาทิ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม เป็นการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากตลาดเป็นการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากตลาด ในประเทศและตลาดส่งออก ในประเทศและตลาดส่งออก ตามการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ประกอบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนตามการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ประกอบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีโรงกลั่นบางโรงหยุดซ่อมบำรุง มีโรงกลั่นบางโรงหยุดซ่อมบำรุง สายไฟและเคเบิลอื่นๆ ชนิดใช้ในทางสายไฟและเคเบิลอื่นๆ ชนิดใช้ในทางอิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้า จาก สายไฟฟ้า จาก สายไฟฟ้า เป็นหลัก เนื่องจาก โดยมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากการไฟฟ้าตามรอบการบำรุงรักษา ประกอบกับมีงานโครงการต่างๆ เป็นหลัก เนื่องจาก โดยมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากการไฟฟ้าตามรอบการบำรุงรักษา ประกอบกับมีงานโครงการต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนส่งผลให้ความต้องการใช้สายไฟฟ้ามีมากขึ้นทั้งภาครัฐ และเอกชนส่งผลให้ความต้องการใช้สายไฟฟ้ามีมากขึ้น เยื่เยื่อกระดาษ กระดาษ และกระดาษแข็ง อกระดาษ กระดาษ และกระดาษแข็ง เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของตลาดออนไลน์ ส่งผลให้ธุรกิจขนส่งขยายตัว ความต้องการผลิตภัณฑ์หีบห่อบรรจุภัณฑ์ที่เป็นตามการเติบโตของตลาดออนไลน์ ส่งผลให้ธุรกิจขนส่งขยายตัว ความต้องการผลิตภัณฑ์หีบห่อบรรจุภัณฑ์ที่เป็นกระดาษจึงมีความต้องการมากขึ้นกระดาษจึงมีความต้องการมากขึ้น

แนวโน้ม

แนวโน้มอุตสาหกรรมรายสาขาที่สำคัญ อุตสาหกรรมรายสาขาที่สำคัญ ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 11//25625677

?

เหล็กและเหล็กกล้าเหล็กและเหล็กกล้า คาดการณ์ว่าจะหดตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาเหล็กในคาดการณ์ว่าจะหดตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาเหล็กในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ทำให้ผู้บริโภคชะลอการสั่งซื้อเพื่อดูทิศทางราคา และอาจส่งผลต่อความต้องการใช้ตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ทำให้ผู้บริโภคชะลอการสั่งซื้อเพื่อดูทิศทางราคา และอาจส่งผลต่อความต้องการใช้เหล็ก อย่างไรก็ตามเหล็ก อย่างไรก็ตาม การเร่งก่อสร้างโครงการภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การเร่งก่อสร้างโครงการภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว คาดว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศคาดว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ

?

อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า คาดว่าคาดว่าดัชนีผลผลิตดัชนีผลผลิตจะมีการหดตัวประมาณจะมีการหดตัวประมาณร้อยละ ร้อยละ 3.03.0--6.06.0 เนื่องจากสถานการณ์เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของสความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจโลกภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัว และที่ยังคงชะลอตัว และอัตราเงินเฟ้อกับราคาปัจจัยการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อกับราคาปัจจัยการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นตามสภาวะเงินเฟ้อสภาวะเงินเฟ้อ อาจจะส่งผลต่อการผลิตในอุตสาหกรรมชะลอตัวลง ในขณะที่อาจจะส่งผลต่อการผลิตในอุตสาหกรรมชะลอตัวลง ในขณะที่มูลค่าการส่งออกมูลค่าการส่งออกคาดว่าจะมีการขยายตัวคาดว่าจะมีการขยายตัวประมาณร้ประมาณร้อยละ อยละ 1.01.0--3.0 เนื่องจากแนวโน้มการขยายตัวของ 3.0 เนื่องจากแนวโน้มการขยายตัวของ Smart City จากการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ จากการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ Smart Electronics

?

อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าดัชนีผลผลิตคาดว่าดัชนีผลผลิตจะหดตัวเล็กน้อยประมาณจะหดตัวเล็กน้อยประมาณร้อยละ ร้อยละ 1.01.0--3.0 3.0 เนื่องจากเนื่องจากต้นทุนต้นทุน การผลิตที่สูง อาจส่งผลต่อความสามารถในการผลิตของผู้ประกอบการไทย และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและการผลิตที่สูง อาจส่งผลต่อความสามารถในการผลิตของผู้ประกอบการไทย และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้า เช่น จีน และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามนโยบายการสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนในประเทศคู่ค้า เช่น จีน และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามนโยบายการสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม อุตสาหกรรม Smart Electronics อาจจะส่งผลดีต่อการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของไทย ในขณะที่อาจจะส่งผลดีต่อการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของไทย ในขณะที่มูลค่าการมูลค่าการส่งออกส่งออกจะยังขยายตัวได้ต่อเนื่องประมาณจะยังขยายตัวได้ต่อเนื่องประมาณร้อยละ ร้อยละ 33.0-5.0 เนื่องจากเนื่องจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมของอุตสาหกรรม

4

อิเล็กทรอนิกส์

ตามความต้องการของตลาดโลกและเทคโนโลยี

ตามความต้องการของตลาดโลกและเทคโนโลยีดิจิทัลดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็วที่มีการเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว รวมทั้ง ความรวมทั้ง ความต้องการอุปกรณ์นวัตกรรมใหม่ ๆ ของผู้บริโภคต้องการอุปกรณ์นวัตกรรมใหม่ ๆ ของผู้บริโภค

?

รถรถยนต์ยนต์ ประมาณการในไตรมาสที่ประมาณการในไตรมาสที่ 11 ปี 256ปี 25677 จะมีกาจะมีการรผลิตรถยนต์กว่า ผลิตรถยนต์กว่า 47575,000000 คัน โดยแบ่งเป็นคัน โดยแบ่งเป็น การผลิตเพื่อการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศร้อยละ จำหน่ายในประเทศร้อยละ 4545--50 50 และการผลิตเพื่อส่งออกร้อยละ และการผลิตเพื่อส่งออกร้อยละ 5050--5555

?

รถจักรยานรถจักรยานยนต์ยนต์ ประมาณการในไตรมาสที่ ประมาณการในไตรมาสที่ 1 ปี 256ปี 2567 จะมีการผลิตรถจะมีการผลิตรถจักรยานจักรยานยนต์กว่ายนต์กว่า 525525,000 คัน โดย000 คัน โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศแบ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศร้อยลร้อยละ 80 80--85 และการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณร้อยละ 1585 และการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณร้อยละ 15--2020

?

เยื่อกระดาษ กระดาษ เยื่อกระดาษ กระดาษ และสิ่งพิมพ์และสิ่งพิมพ์ เยื่อกระดาษ เยื่อกระดาษ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษที่ใช้ผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษที่ใช้ผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์จะจะขยายตัวตามการขยายตัวตามการบริโภคในประเทศ และจะขยายตัวได้ทั้งบริโภคในประเทศ และจะขยายตัวได้ทั้ง supply chain สำหรับการส่งออกเยื่อกระดาษไปยังประเทศสำหรับการส่งออกเยื่อกระดาษไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลัก จีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลัก มีการขยายตัวต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ในขณะที่กลุ่มหนังสือและสิ่งมีการขยายตัวต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ในขณะที่กลุ่มหนังสือและสิ่งพิมพ์ คาดว่าพิมพ์ คาดว่า จะจะชะลอตัวชะลอตัวต่อเนื่องจากความต้องการที่ลดลงของตลาดนำเข้า เช่น ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกาต่อเนื่องจากความต้องการที่ลดลงของตลาดนำเข้า เช่น ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา

?

ไไม้และเครื่องเรือนม้และเครื่องเรือน ปริมาณปริมาณการผลิตการผลิตและการจำหน่ายเละการจำหน่ายเครื่องเรือนทำด้วยไม้ครื่องเรือนทำด้วยไม้ในประเทศจะกลับมาขยายตัว จากในประเทศจะกลับมาขยายตัว จากแนวโน้มความต้องการเครื่องเรือนทำด้วยไม้ในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี แนวโน้มความต้องการเครื่องเรือนทำด้วยไม้ในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 ในส่วนของการส่งออกไม้ในส่วนของการส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้คาดการณ์ได้ว่าคาดการณ์ได้ว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากอุปสงค์ความต้องการของประเทศคู่ค้าสำคัญที่ขยายตัวจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากอุปสงค์ความต้องการของประเทศคู่ค้าสำคัญที่ขยายตัวโดยเฉพาะความต้องการสินค้าในกลุ่มโดยเฉพาะความต้องการสินค้าในกลุ่มไม้และผลิตภัณฑ์แผ่นไม้ไม้และผลิตภัณฑ์แผ่นไม้

?

ยาง และผลิตภัณฑ์ยางยาง และผลิตภัณฑ์ยาง ปริมาณการผลิตยางแปรรูปขั้นปฐมปริมาณการผลิตยางแปรรูปขั้นปฐม (ยางแผ่น ยางแท่ง และน้ำยางข้นยางแผ่น ยางแท่ง และน้ำยางข้น) ยางรถยนต์ ยางรถยนต์ และถุงมือยาง จะขยายตัว ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ และถุงมือยาง จะขยายตัว ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ โดยยางแปรรูปขั้นปฐมจะขยายตัวจากความต้องการของอุตสาหกรรมโดยยางแปรรูปขั้นปฐมจะขยายตัวจากความต้องการของอุตสาหกรรมต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยางรถยนต์จะขยายตัวจากแนวโน้มความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดสำคัญ อาทิ ต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยางรถยนต์จะขยายตัวจากแนวโน้มความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดสำคัญ อาทิ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ขณะที่ถุงมือยางจะขยายตัวจากการผลิตเพื่อตอบสนองอุปสงค์ความต้องสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ขณะที่ถุงมือยางจะขยายตัวจากการผลิตเพื่อตอบสนองอุปสงค์ความต้องการการของตลาดในประเทศเป็นหลักของตลาดในประเทศเป็นหลัก

?

อัญมณีและเครื่องประดับอัญมณีและเครื่องประดับ คาดว่าจะมีแนวโน้มขยายตัวคาดว่าจะมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกไปยังประเทศโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกไปยังประเทศคู่สำคัญ และภาคการคู่สำคัญ และภาคการท่องเที่ยท่องเที่ยวกลับมาคึกคักมากขึ้น วกลับมาคึกคักมากขึ้น ประกอบกับหลายประเทศกลับมาการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีประกอบกับหลายประเทศกลับมาการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเพื่อกระตุ้นการบริโภคของประชนชน ส่งผลให้ความต้องการสินค้าเพิ่มมากขึ้นและเครื่องประดับเพื่อกระตุ้นการบริโภคของประชนชน ส่งผลให้ความต้องการสินค้าเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังต้องอย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงยืดเยื้อและขยายเป็นวงกว้างที่ยังคงยืดเยื้อและขยายเป็นวงกว้าง และจากการดำเนินนโยบายและจากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้าการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้า อีกทั้ง อีกทั้ง ความผันผวนความผันผวนจากค่าพลังงานและการขนส่งสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น จากค่าพลังงานและการขนส่งสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น อาจส่งผลต่ออาจส่งผลต่อการผลิตและการส่งออกของไทยการผลิตและการส่งออกของไทยในระยะต่อไปในระยะต่อไป

?

อาหารอาหาร คาดว่าคาดว่า ดัชนีผลผลิตในภาพรวมดัชนีผลผลิตในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัว เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยมีแนวโน้มขยายตัว เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการของภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สนับสนุนจากมาตรการของภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในส่วนของภาคการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัว จากความต้องการสินค้าของประเทศคู่ค้า เพื่อความมั่ในส่วนของภาคการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัว จากความต้องการสินค้าของประเทศคู่ค้า เพื่อความมั่นคงด้านอาหาร นคงด้านอาหาร อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัว ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในอย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัว ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายประเทศ รวมถึงผลกระทบจากภัยแล้งที่อาจรุนแรงขึ้นหลายประเทศ รวมถึงผลกระทบจากภัยแล้งที่อาจรุนแรงขึ้น

5

ส่วนที่ 1

ส่วนที่ 1 ภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย ไตรมาสที่ ภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย ไตรมาสที่ 44//2562566

6

ภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย ไตรมาสที่ 4 ปี 2566

GDP

ขยายตัวร้อยละ 1.7 (%YoY)

ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP

ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 1.7 โดย

ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาที่ขยายตัว

ร้อยละ 1.4 และขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ

ช่วงเดียวกันของปีก่อน (2565) ที่ขยายตัวร้อยละ 1.3

ปัจจัยสำคัญของการเติบโตของ GDP

ในไตรมาส 4 ของปี 2566 การผลิตภาคเกษตรหดตัว

ร้อยละ 0.8 การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวร้อยละ

2.4 ภาคบริการขยายตัวร้อยละ 3.9 การใช้จ่ายอุปโภค

และบริโภคภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 7.4 การลงทุน

รวมหดตัวร้อยละ 0.4 การส่งออกสินค้าและบริการ

ขยายตัวร้อยละ 4.9

GDP ภาคอุตสาหกรรม

หดตัวร้อยละ 2.4 (%YoY)

GDP ภาคอุตสาหกรรม ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566

หดตัวร้อยละ 2.4 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา

ที่หดตัวร้อยละ 4.4 และปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ

ช่วงเดียวกันของปีก่อน (2565) ที่หดตัวร้อยละ 4.6

ที่มา : สา นักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

การผลิตภาคเกษตรขยายตัวร้อยละ 0.8

การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวร้อยละ 2.4

การใช้จ่ายอุปโภคและบริโภคภาคเอกชน

ขยายตัวร้อยละ 7.4

การลงทุนรวมขยายตัวร้อยละ 0.4

การส่งออกสินค้าและบริการ

ขยายตัวร้อยละ 4.9

ภาคบริการขยายตัวร้อยละ 3.9

ที่มา : สา นักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ผลผลิตมวลรวมของภาคอุตสาหกรรมในไตรมาสที่ 4

ของปี 2566 ลดลงร้อยละ 2.4 เป็นการลดลง

ของกลุ่มการผลิตเพื่อการส่งออกเป็นสำคัญ เช่น

การผลิตยานยนต์ การผลิตชิ้นส่วนและแผ่นวงจร

อิเล็กทรอนิกส์ การผลิตคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์

ต่อพ่วง เป็นต้น

7

ดัชนีอุตสาหกรรมที่สำคัญ

ดัชนีอุตสาหกรรมที่สำคัญ

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม

หด

หดตัวร้อยละตัวร้อยละ 5.5.1 (%YoY)

ดัชนีการส่ง

ดัชนีการส่งสินค้าสินค้า

หดตัว

หดตัวร้อยละร้อยละ 5.4.4 (%YoY)

ในไตรมาสที่

ในไตรมาสที่ 44 ปี ปี 25662566 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ อยู่ที่ระดับ 8989.3535 ลดลงลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา (จากไตรมาสที่ผ่านมา (9191.2929) ) ร้อยละ ร้อยละ 22.11 และละลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี 25652565 ((9494.1111) ร้อยละ ) ร้อยละ 5.15.1

อุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา ได้แก่ การผลิตยานยนต์ จากไตรมาสที่ผ่านมา ได้แก่ การผลิตยานยนต์ การผลิตพลาสติกและยางสังเคราะห์ขั้นต้นการผลิตพลาสติกและยางสังเคราะห์ขั้นต้น และและ การผลิตปุ๋ยเคมีและสารประกอบไนโตรเจนการผลิตปุ๋ยเคมีและสารประกอบไนโตรเจน เป็นต้นเป็นต้น

สำหรับอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตสำหรับอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี อุตสาหกรรมลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี 2565 ได้แก่ การผลิตยานยนต์ การผลิตชิ้นส่วนและได้แก่ การผลิตยานยนต์ การผลิตชิ้นส่วนและ แผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และการผลิตคอมพิวเตอร์แผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และการผลิตคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วง เป็นต้นและอุปกรณ์ต่อพ่วง เป็นต้น

ในไตรมาสที่ ในไตรมาสที่ 44 ปี ปี 25662566 ดัชนีการส่งสินค้าอยู่ที่ดัชนีการส่งสินค้าอยู่ที่ ระดับ ระดับ 9191.7676 ลดลงลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา (จากไตรมาสที่ผ่านมา (9393.8686)) ร้อยละ ร้อยละ 22.22 และละลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี 25652565 ((977.0404) ร้อยละ ) ร้อยละ 5.45.4

อุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีการส่งสินค้าอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีการส่งสินค้าลดลงลดลงจากจากไตรมาสที่ผ่านมา ได้แก่ การผลิตชิ้นส่วนและแผ่นวงจรไตรมาสที่ผ่านมา ได้แก่ การผลิตชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์อิเล็กทรอนิกส์ การผลิตน้ำตาล และการผลิตพลาสติกการผลิตน้ำตาล และการผลิตพลาสติกและยางสังเคราะห์ขั้นต้น เป็นต้นและยางสังเคราะห์ขั้นต้น เป็นต้น

สำหรับอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีการส่งสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีการส่งสินค้าลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี 2565 ได้แก่ การผลิตได้แก่ การผลิตยานยนต์ การผลิตชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ การผลิตชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และและการผลิตการผลิตเครื่องปรับอากาศเครื่องปรับอากาศ เป็นต้นเป็นต้น

ที่มา

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

นเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

นเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

ที่มา

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

8

ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง

ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง

ขยายตัวขยายตัวร้อยละ ร้อยละ 1.1 (%YoY)

อัตราการใช้กำลังการผลิต

อัตราการใช้กำลังการผลิต

อยู่ที่ร้อยละ

อยู่ที่ร้อยละ 556.72

ในไตรมาสที่ ในไตรมาสที่ 44 ปี ปี 2566 ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังอยู่ที่ระดับ อยู่ที่ระดับ 1344.6060 ลดลงลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา จากไตรมาสที่ผ่านมา ((13535.8787) ร้อยละ ) ร้อยละ 00.99 แต่เพิ่มขึ้นแต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสจากไตรมาสแดียวกันดียวกันของปี ของปี 25652565 (133.18(133.18) ร้อยละ ) ร้อยละ 1.11.1

อุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังลดลงลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา ได้แก่จากไตรมาสที่ผ่านมา ได้แก่ การผลิตการผลิตน้ำตาล น้ำตาล การผลิตคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงการผลิตคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง และและการผลิตการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียมผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม เป็นต้นเป็นต้น

สำหรับอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปสำหรับอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังคงคลังเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี จากไตรมาสเดียวกันของปี 25655 ได้แก่ ได้แก่ การผลิตยานยนต์ การผลิตสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์การผลิตยานยนต์ การผลิตสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์ สัตว์น้ำสด แช่เย็นหรือแช่แข็งสัตว์น้ำสด แช่เย็นหรือแช่แข็ง และการผลิตสายไฟและการผลิตสายไฟ และเคเบิลอื่นและเคเบิลอื่น ๆๆ เป็นต้นเป็นต้น

ในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 อัตราการใช้กำลังการผลิตในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ระดับร้อยละ อยู่ที่ระดับร้อยละ 566.72 ลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา 72 ลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา (ร้อยละ 58(ร้อยละ 58.02) และลดลงจากไตรมาสเดียวกันของ02) และลดลงจากไตรมาสเดียวกันของ ปี 2565 (ร้อยละ ปี 2565 (ร้อยละ 600.32)32)

อุตสาหกรรมที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา ได้แก่ ลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา ได้แก่ การผลิตการผลิตยานยนต์ยานยนต์ การผลิตพลาสติกและยางสังเคราะห์ขั้นต้น การผลิตพลาสติกและยางสังเคราะห์ขั้นต้น และและการผลิตการผลิตปุ๋ยเคมีและสารประกอบไนโตรเจนปุ๋ยเคมีและสารประกอบไนโตรเจน เป็นต้นเป็นต้น

สำหรับอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังสำหรับอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลัง การผลิตลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี การผลิตลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี 2565 ได้แก่ ได้แก่ การผลิตยานยนต์การผลิตยานยนต์ การผลิตชิ้นส่วนและแผ่นวงจรการผลิตชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และอิเล็กทรอนิกส์ และการผลิตการผลิตเครื่องปรับอากาศ เป็นต้นเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น

ที่มา

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

นเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

นเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

ที่มา

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

นเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

นเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

9

ดัชนี

ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ไตรมาส ไตรมาส 4 อยู่ที่ระดับ อยู่ที่ระดับ 89..37

ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ดัชนีความเชื่อมั่นในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมมีค่า 89ภาคอุตสาหกรรมมีค่า 89.37 ลดลงจากไตรมาส 37 ลดลงจากไตรมาส ที่ผ่านมา (91ที่ผ่านมา (91.20) และลดลงจากไตรมาสเดียวกันของ20) และลดลงจากไตรมาสเดียวกันของ ปี 2565 (93ปี 2565 (93.07) ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์07) ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ล่วงหน้า ล่วงหน้า 3 เดือน อยู่ที่ระดับ 96เดือน อยู่ที่ระดับ 96.0 ลดลงจากไตรมาส0 ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี 2565 (98เดียวกันของปี 2565 (98.57) 57)

ปัจจัยปัจจัยที่ส่งผลต่อการปรับตัวลดลงของความเชื่อที่ส่งผลต่อการปรับตัวลดลงของความเชื่อมั่นมั่นภาคอุตสาหกรรมภาคอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาส 4ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2566ปี 2566 มาจาก มาจาก ปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศจากค่าครองชีพและปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศจากค่าครองชีพและ หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน ส่งผลให้กำลังซื้ออ่อนแอลง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้กำลังซื้ออ่อนแอลง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ส่งผลให้นโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนทางการเงินและภาระหนี้ผู้ประกอบการมีต้นทุนทางการเงินและภาระหนี้ เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามอย่างไรก็ตามปัจจัยภายนอกเศรษฐกิจโลกปัจจัยภายนอกเศรษฐกิจโลก ส่งสัญญาณดีโดยเฉพาะประเทศคู่ค้า การส่งออกส่งสัญญาณดีโดยเฉพาะประเทศคู่ค้า การส่งออกขยายตัวต่อเนื่องในไตรมาสสุดท้ายของปี มีปัจจัยขยายตัวต่อเนื่องในไตรมาสสุดท้ายของปี มีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของสนับสนุนจากการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวภาคการท่องเที่ยว ที่ช่วยพยุงการบริโภคและการใช้จ่ายในประเทศอย่างที่ช่วยพยุงการบริโภคและการใช้จ่ายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ต่อเนื่อง

ที่มา

ที่มา : สภาสภาอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยแห่งประเทศไทย

10

การค้าต่างประเท

การค้าต่างประเทศของไทยศของไทย

?การค้า?การค้าระหว่างระหว่างประเทศประเทศของไทยของไทยไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 4 ปี 256ปี 25666 ขยายตัวร้อยละ 5.82 เมื่อเทียบกับ ขยายตัวร้อยละ 5.82 เมื่อเทียบกับ ช่วงช่วงเดียวกันของปีก่อนเดียวกันของปีก่อน ((YOY) ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ โดยเฉพาะโดยเฉพาะสหรัฐฯ และจีน สหรัฐฯ และจีน ส่งผลให้ปริมาณการค้าโลกมีทิศทางปรับตัวดีขึ้นส่งผลให้ปริมาณการค้าโลกมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี อย่างไรก็ดี สถานการณ์ความสถานการณ์ความ ขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ส่งผลให้ราคาพลังงานและราคาสินค้าส่งผลให้ราคาพลังงานและราคาสินค้า โภคภัณฑ์ในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น และอัตราเงินเฟ้อในหลายประเทศยังคงทรงตัวในระดับสูงกว่าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น และอัตราเงินเฟ้อในหลายประเทศยังคงทรงตัวในระดับสูงกว่า เป้าหมายเป้าหมาย รวมทั้งรวมทั้งธนาคารกลางของประเทศส่วนใหญ่ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงอย่างต่อเนื่องธนาคารกลางของประเทศส่วนใหญ่ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ซึ่งปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้

การค้าการค้าระหว่างระหว่างประเทศของไทยไตรมาสที่ ประเทศของไทยไตรมาสที่ 44 ปี 256ปี 25666 มีมีมูลค่ามูลค่าทั้งสิ้น ทั้งสิ้น 141141,959.10959.10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นคิดเป็นมูลค่าการส่งออกมูลค่าการส่งออก 6969,850.0950.09 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวขยายตัวร้อยร้อยละละ 5.845.84 เมื่อเทียบเมื่อเทียบ กับช่วงเดียวกันของปีก่อน กับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) และและมูลค่าการนำเข้า มูลค่าการนำเข้า 722,109.01109.01 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวขยายตัวร้อยละ ร้อยละ 5.80 5.80 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) ดุลการค้าไตรมาสที่ ดุลการค้าไตรมาสที่ 44 ปีปี 2562566 ขาดขาดดุล ดุล 22,258.92 258.92 ล้านเหรียญสหรัฐฯล้านเหรียญสหรัฐฯ

โครงสร้างการส่งออกสินค้า

โครงสร้างการส่งออกสินค้า

การส่งออก

การส่งออกสินค้าของไทยสินค้าของไทยไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 4 ปี 256ปี 2566 มีมูลค่า มีมูลค่า 69,8850.09 ล้านเหรียญสหรัฐฯล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวขยายตัวร้อยละ ร้อยละ 5.84 5.84 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ((YOY) โดยหมวดสินค้าหลักมีการเปลี่ยนแปลง โดยหมวดสินค้าหลักมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ ดังนี้ สินค้าเกษตรกรรมสินค้าเกษตรกรรม มีมูลค่าการส่งออกมีมูลค่าการส่งออก 66,153.17 153.17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัขยายตัวร้อยละวร้อยละ 3.683.68 (YOY) สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร มีมูลค่าการส่งออก มีมูลค่าการส่งออก 55,176.39 ล้176.39 ล้านเหรียญสหรัฐฯานเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัขยายตัวร้อยละ วร้อยละ 3.703.70 (YOY) สินค้าอุตสาหกรรมสินค้าอุตสาหกรรม มีมูลค่าการส่งออกมีมูลค่าการส่งออก 555,150.89 150.89 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายขยายตัวร้อยละ ตัวร้อยละ 4.564.56 (YOY) สินค้าแร่และเชื้อเพลิงมีมูลค่าการส่งออกสินค้าแร่และเชื้อเพลิงมีมูลค่าการส่งออก 33,369.64 ล้369.64 ล้านเหรียญสหรัฐฯานเหรียญสหรัฐฯ ขยายขยายตัวร้อยละตัวร้อยละ 45.09 45.09 (YOY)

11

ตลาดส่งออก

ตลาดส่งออกสินค้าสินค้า

ไตรมาสที่

ไตรมาสที่ 44 ปี 256ปี 25666 ไทยมีสัดส่วนการส่งออกสินค้าไปยังไทยมีสัดส่วนการส่งออกสินค้าไปยัง ตลาดคู่ค้าหลัก รวมตลาดคู่ค้าหลัก รวม 5 ตลาด5 ตลาด ได้แก่ได้แก่ ออาเซียน สหรัฐอเมริกา จีนาเซียน สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่ญี่ปุ่นน และและสหภาพยุโรป (27 ประเทศ) สหภาพยุโรป (27 ประเทศ) คิดเป็นคิดเป็นร้อยละร้อยละ 52.52.20 และสัดส่วนและสัดส่วนการส่งออกไปยังตลาดอื่น ๆ การส่งออกไปยังตลาดอื่น ๆ คิดเป็นคิดเป็นร้อยละ ร้อยละ 47.8047.80 ของการส่งออกทั้งหมดของการส่งออกทั้งหมด มีรายละเอียด ดังนี้มีรายละเอียด ดังนี้

?

ไทยมีสัดส่วนมูลค่าการส่งออกไปไทยมีสัดส่วนมูลค่าการส่งออกไปอาเซียน สหรัฐอเมริกาอาเซียน สหรัฐอเมริกา จีนจีน ญี่ปุ่นญี่ปุ่น และและสหภาพยุโรป (27 ประเทศ) สหภาพยุโรป (27 ประเทศ) ร้อยละ ร้อยละ 15.9015.90, 15.8015.80, 7.507.50, 6.506.50 และ และ 6.506.50 ตามลำดับตามลำดับ

?

ไทยมีมูลค่าการส่งออก 69ไทยมีมูลค่าการส่งออก 69, 850.09 850.09 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวขยายตัวร้อยละ ร้อยละ 5.845.84 เมื่อเทียบกับเมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน ช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) โดย โดย สหภาพยุโรป (27 สหภาพยุโรป (27 ประเทศ)ประเทศ) หดตัวสูงที่สุด ร้อยละ 4.02หดตัวสูงที่สุด ร้อยละ 4.02 รองลงมา คือ ญี่ปุ่น รองลงมา คือ ญี่ปุ่น หดตัวร้อยละ 0.88หดตัวร้อยละ 0.88 และอาเซียนและอาเซียน (9) หดตัวร้อยละ 0.83(9) หดตัวร้อยละ 0.83 ส่วนประเทศที่ส่วนประเทศที่ การส่งออก ขยายตัว คือ การส่งออก ขยายตัว คือ สหรัฐอเมริกาสหรัฐอเมริกา ขยายตัวร้อยละ ขยายตัวร้อยละ 9.659.65 และและ จีน ขยายจีน ขยายตัวร้อยละ ตัวร้อยละ 1.581.58

โครงสร้างการนำเข้าสินค้า

โครงสร้างการนำเข้าสินค้า

การนำเข้า

การนำเข้าสินค้าของไทยสินค้าของไทยไตรมาสที่ไตรมาสที่ 44 ปี 256ปี 25666 มีมูลค่า มีมูลค่า 722,109.01109.01 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายขยายตัวตัว ร้อยละ ร้อยละ 5.805.80 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) โดยโดยหมวดสินค้าหลักหมวดสินค้าหลักมีมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ สินค้าการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ สินค้าเชื้อเพลิงเชื้อเพลิง มีมูลค่าการนำเข้า มีมูลค่าการนำเข้า 1313,530.91 530.91 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายขยายตัวร้อยละ ตัวร้อยละ 4.724.72 (YOY) สินค้าทุนสินค้าทุน มีมูลค่าการนำเข้า มีมูลค่าการนำเข้า 188,160.14 160.14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายขยายตัวร้อยละ ตัวร้อยละ 15.6815.68 (YOY) สินค้าวัตถุดิบและสินค้าวัตถุดิบและ

12

กึ่งสำเร็จรูปมีมูลค่าการนำเข้า

กึ่งสำเร็จรูปมีมูลค่าการนำเข้า 2727,171.91 171.91 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดหดตัวร้อยละ ตัวร้อยละ 0.630.63 (YOY) สินค้าอุปโภคบริโภคสินค้าอุปโภคบริโภคมีมูลค่าการนำเข้า มีมูลค่าการนำเข้า 8,367.93367.93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัขยายตัวร้อยละ วร้อยละ 4.094.09 (YOY) ยานพาหนะและอุปกรณ์ยานพาหนะและอุปกรณ์ การขนส่งมีมูลค่าการนำเข้าการขนส่งมีมูลค่าการนำเข้า 33,910.87910.87 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายขยายตัวร้อยละ ตัวร้อยละ 20.2820.28 (YOY) และสินค้าหมวดและสินค้าหมวดอาวุธยุทธปัจจัยและสินค้าอื่น ๆ มีมูลค่าการนำเข้า อาวุธยุทธปัจจัยและสินค้าอื่น ๆ มีมูลค่าการนำเข้า 967.27967.27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายขยายตัวร้อยละ ตัวร้อยละ 7.287.28 (YOY)

ตลาด

ตลาดนำเข้านำเข้าสินค้าสินค้า

ไตรมาสที่

ไตรมาสที่ 44 ของปี 256ของปี 2566 ไทยมีสัดส่วนการนำเข้าสินค้าหลัก ไทยมีสัดส่วนการนำเข้าสินค้าหลัก รวมรวม 5 ตลาด5 ตลาด ได้แก่ได้แก่ จีนจีน อาเซียน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาอาเซียน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และและสหภาพสหภาพยุโรปยุโรป (27 ประเทศ)(27 ประเทศ) คิดเป็นคิดเป็นร้อยละ ร้อยละ 65.80 65.80 และการนำเข้าจากและการนำเข้าจาก ตลาดอื่น ๆ ตลาดอื่น ๆ คิดเป็นคิดเป็นร้อยละ ร้อยละ 34.2034.20 ของการนำเข้าทั้งหมดของการนำเข้าทั้งหมด มีรายละเอียด ดังนี้มีรายละเอียด ดังนี้

?

ไทยมีสัดส่วนการนำเข้าจากไทยมีสัดส่วนการนำเข้าจากจีน อาเซียจีน อาเซียนน ญี่ปุ่ญี่ปุ่นน สหรัฐอเมริกาสหรัฐอเมริกา และและสหภาพยุโรป (สหภาพยุโรป (27 ประเทศประเทศ)) มีสัดส่วนร้อยมีสัดส่วนร้อยละ 25.30ละ 25.30, 16.7016.70, 10.7010.70, 6.806.80 และและ 6.6.3030 ตามลำดับตามลำดับ

?

ไทยมีมูลค่าการนำเข้า ไทยมีมูลค่าการนำเข้า 722,109.01109.01 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวขยายตัวร้อยละ ร้อยละ 5.80 เมื่อเทียบกับ5.80 เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน ช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) โดย โดย สหรัฐอเมริกาสหรัฐอเมริกา ขยายตัวสูงสุด ร้อยละ 10.42ขยายตัวสูงสุด ร้อยละ 10.42 รองลงมา คือ รองลงมา คือ จีนจีนขยายตัวร้อยละ 9.39 ขยายตัวร้อยละ 9.39 ญี่ญี่ปุ่นปุ่น ขยายขยายตัวร้อยละ ตัวร้อยละ 3.43 และ3.43 และสหภาพยุโรป (27 ประเทศสหภาพยุโรป (27 ประเทศ)) ขยายขยายตัวตัว ร้อยละ ร้อยละ 3.01 ส่วนประเทศใน3.01 ส่วนประเทศในอาเซียนอาเซียน การนำเข้า การนำเข้า หดหดตัวตัวร้อยละร้อยละ 2.032.03

13

เศรษฐกิจโลก ไตรมาสที่

เศรษฐกิจโลก ไตรมาสที่ 44 ปี ปี 2566

เศรษฐกิจโลกไตรมาสที่ 4 ปี 2566

เศรษฐกิจโลกไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ตามการฟื้นตัวของปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ตามการฟื้นตัวของ อุปสงค์ภายในประเทศจากภาคบริการและภาคการผลิต รวมทั้งอุปสงค์ภายในประเทศจากภาคบริการและภาคการผลิต รวมทั้งเศรษฐกิจของประเทศหลักอย่างสหรัฐฯ กลับมาเศรษฐกิจของประเทศหลักอย่างสหรัฐฯ กลับมาขยายตัวได้ดี ขยายตัวได้ดี อัตราการว่างงานในประเทศที่สำคัญอย่างสหรัฐฯ และจีน ก็อยู่ในระดับต่ำอัตราการว่างงานในประเทศที่สำคัญอย่างสหรัฐฯ และจีน ก็อยู่ในระดับต่ำ อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกก็มีอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกก็มีแนวโน้มชะลอลงต่อเนื่องแนวโน้มชะลอลงต่อเนื่อง รวมทั้งธนาคารกลางส่วนใหญ่รวมทั้งธนาคารกลางส่วนใหญ่มีโอกาสยุติการขึ้นดอกเบี้ย มีโอกาสยุติการขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี แนวโน้มอย่างไรก็ดี แนวโน้ม เศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงที่ต้องเฝ้ที่ต้องเฝ้าระวังาระวังจากผลของนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางหลักจากผลของนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางหลักในช่วงในช่วง ที่ผ่านมาที่ผ่านมา และการค้าโลกที่อาจชะลอตัวมากกว่าและการค้าโลกที่อาจชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์โดยเฉพาะที่คาดการณ์โดยเฉพาะประเทศจีน รวมประเทศจีน รวมทั้งทั้งความขัดแย้งด้านความขัดแย้งด้าน ภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังยืดเยื้อภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังยืดเยื้อ

สรุปเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่สำคัญ ไตรมาสที่

สรุปเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่สำคัญ ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 25666

Quarterly Growth (%YoY)

GDP

Inflation

MPI

Export

Unemp. Rate

Policy Rate สหรัฐฯสหรัฐฯ ? 3.13.1 ? 3.3.2 ? -0.22 ? -1.3 3.3.5 5.255.25--5.505.50

จีน

จีน

? 5.25.2

? -0.3

? 6.0

? -11.2

5.1

3.4545 ญี่ปุ่นญี่ปุ่น ? 1.01.0 ? 2.9 ? --0.4 ? -0.7 2.4 -0.10

มาเลเซีย

มาเลเซีย

? 3.03.0

? 1.6

? 1.0

? -9.4

3.

3.3

3.0

3.0 เวียดนามเวียดนาม ? 6.76.7 ? 3.5 ? 5.3 ? 6.9 2.32.3 3.03.0

ไทย

ไทย

? 1.71.7

? -0.50.5

? -5.1

? 5.8

N.A.

2.5

2.5

ที่มา

ที่มา: ceicdata, https://www.nesdc.go.th, https://tradingeconomics.com

ไตรมาสที่ 4 ปี 2566

ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 สถานการณ์ทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกสถานการณ์ทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงเมื่อเทียบกับลดลงเมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อนช่วงเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุมาจาก มีสาเหตุมาจาก (1) การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันมัน ในตลาดโลกในตลาดโลก (2) (2) การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงของธนาคารกลางในประเทศเศรษฐกิจหลักการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงของธนาคารกลางในประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่ส่งผลต่องผลต่อ การชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (3) (3) ปริมาณน้ปริมาณน้ำมันดิบสมันดิบสำรองทางการค้าของสหรัฐฯรองทางการค้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

เศรษฐกิจโลกในปี

เศรษฐกิจโลกในปี 2567 7 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในอัตราชะลอลงจากปี มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในอัตราชะลอลงจากปี 2566 ตามตาม การชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศหลักทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯ การชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศหลักทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น และจีนและจีน โดยโดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลงตามอุปสงค์ภายในประเทศตัวลงตามอุปสงค์ภายในประเทศ การลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวลดลงการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวลดลง เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มชะลอตัวลงแนวโน้มชะลอตัวลง เนื่องจากเนื่องจากการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนลดลง ลดลง เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องท่ามกลางปัญหาหนี้สินเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องท่ามกลางปัญหาหนี้สิน ในภาคอสังหาริมทรัพย์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ สสำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อมีทิศทางผ่อนคลายลงต่อเนื่องตามการดหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อมีทิศทางผ่อนคลายลงต่อเนื่องตามการดำเนินนโยบายเนินนโยบาย การเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางในช่วงที่การเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางในช่วงที่ผ่านมาผ่านมา โดยโดยคาดว่าธนาคารกลางประเทศสคาดว่าธนาคารกลางประเทศสำคัญ ๆ คัญ ๆ เริ่มปรับลดอัตราเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งรวมทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งสถานการณ์ความขัดแย้งทางทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาคยังอยู่ภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาคยังอยู่ในวงจในวงจำกัดและไม่ยกระดับความรุนแรกัดและไม่ยกระดับความรุนแรงงจนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกจนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

14

ส่วนที่

ส่วนที่ 22 เศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยรายสาขาไตรมาสที่ เศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยรายสาขาไตรมาสที่ 44//2562566

และแนวโน้มไตรมาสที่

และแนวโน้มไตรมาสที่ 11//25625677

15

อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า

อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม

ที่มา :

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมสานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

ปริมาณการบริโภคในประเทศและมูลค่าการนำเข้า

ปริมาณการบริโภคในประเทศและมูลค่าการนำเข้า

ที่มา

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมและสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยสานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมและสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย

การผลิตการผลิต ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม มีค่า 76.3 ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม มีค่า 76.3 หดตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 10.1 (%หดตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 10.1 (%YoY) และหดตัวและหดตัว จากไตรมาสก่อนร้อยละ 8.9 (%จากไตรมาสก่อนร้อยละ 8.9 (%QoQ) โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันโดยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกัน ของปีก่อน การผลิตเหล็กทรงยาว หดตัวร้อยละ 10.6 ผลิตภัณฑ์ที่ของปีก่อน การผลิตเหล็กทรงยาว หดตัวร้อยละ 10.6 ผลิตภัณฑ์ที่ การผลิตหดตัวมากที่สุด คือ เหล็กเส้นกลม หดตัวร้อยละ 42.9 รองลงมา การผลิตหดตัวมากที่สุด คือ เหล็กเส้นกลม หดตัวร้อยละ 42.9 รองลงมา คือ เหคือ เหล็กลวด และเหล็กโครงสร้างรูปพรรณล็กลวด และเหล็กโครงสร้างรูปพรรณชนิดรีดเย็น หดตัวร้ชนิดรีดเย็น หดตัวร้อยละ 25.5 อยละ 25.5 และ 16.3 ตามลำดับ และ 16.3 ตามลำดับ การผลิตเหล็กทรงแบน หดตัวร้อยละ 8.5 ผลิตภัณฑ์การผลิตเหล็กทรงแบน หดตัวร้อยละ 8.5 ผลิตภัณฑ์ ที่การผลิตที่การผลิตหดตัวมากที่สุด คือ เหล็กแผ่นเคลือบดีบุก หดตัวร้อยละ 12.0 หดตัวมากที่สุด คือ เหล็กแผ่นเคลือบดีบุก หดตัวร้อยละ 12.0 รองลงมา คือ เหล็กรองลงมา คือ เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน และเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี แผ่นรีดร้อนชนิดม้วน และเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี หดตัวร้อยละ 11.0หดตัวร้อยละ 11.0 และ 10.7 ตามลำดับและ 10.7 ตามลำดับ

การบริโภคในประเทศการบริโภคในประเทศ ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 มีปริมาณ ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 มีปริมาณ 3.8 ล้านตัน ขยายตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 1.6 3.8 ล้านตัน ขยายตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 1.6 (%(%YoY) แต่หดตัวจากไตรมาสก่อนร้อยละ 7.3 (%แต่หดตัวจากไตรมาสก่อนร้อยละ 7.3 (%QoQ) โดยโดยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การบริโภคเหล็ก เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การบริโภคเหล็ก ทรงแบน ขยายตัวร้อยละ 3.3 จากการบริโภคทรงแบน ขยายตัวร้อยละ 3.3 จากการบริโภค เหล็กแผ่นเคลือบเหล็กแผ่นเคลือบชนิดอื่น ๆ ขยายตัวร้อยละ 22.4 รองลงมา คือ เหล็กแผ่นเคลือบชนิดอื่น ๆ ขยายตัวร้อยละ 22.4 รองลงมา คือ เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี และเหล็กแผ่นเคลือบดีสังกะสี และเหล็กแผ่นเคลือบดีบุก ขยายตัวร้อยละ 20.0 และ บุก ขยายตัวร้อยละ 20.0 และ 11.811.8 ตามลำดับ ส่วนการบริโภคเหล็กทรงยาว หดตัวร้อยละ 0.6ตามลำดับ ส่วนการบริโภคเหล็กทรงยาว หดตัวร้อยละ 0.6

การนำเข้าการนำเข้า ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 25666 มีมูลค่า มีมูลค่า 2.44 พันล้านพันล้านเหรียญสหรัฐเหรียญสหรัฐฯฯ หดตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ หดตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 9.5 ((%YoY)) และหดตัวจากไตรมาสก่อนร้อยละ และหดตัวจากไตรมาสก่อนร้อยละ 9.8 8 (%QoQ) โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนโดยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การนำเข้าเหล็กการนำเข้าเหล็ก ทรงยาว หดตัวร้อยละ ทรงยาว หดตัวร้อยละ 15.2 ผลิตภัณฑ์ที่การนำเข้าหดตัวผลิตภัณฑ์ที่การนำเข้าหดตัว มากที่สุด คือมากที่สุด คือ ท่อเหล็กไร้ตะเข็บ หดตัวร้อยละ ท่อเหล็กไร้ตะเข็บ หดตัวร้อยละ 48.9 (ประเทศ(ประเทศหลักที่ไทยนำเข้าลดลง คือ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) รองลงมา หลักที่ไทยนำเข้าลดลง คือ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) รองลงมา คือ เหล็กโครงสร้างรีดร้อน ประเภท คือ เหล็กโครงสร้างรีดร้อน ประเภท Stainless Steel และ และ เหล็กเส้น ประเภท เหล็กเส้น ประเภท Alloy Steel หดตัวร้อยละ หดตัวร้อยละ 43.0 และ และ 21.3 ตามลำดับตามลำดับ และเหล็กทรงแบนและเหล็กทรงแบน หดตัวร้อยละ หดตัวร้อยละ 6.8 ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภัณฑ์ที่ การนำเข้าหดตัวมากที่สุด คือการนำเข้าหดตัวมากที่สุด คือ เหล็กแผ่นเคลือบโครเมี่ยม หดตัวเหล็กแผ่นเคลือบโครเมี่ยม หดตัวร้อยละ ร้อยละ 48.2 (ประเทศหลักที่ไทยนำเข้าลดลง คือ จีน ญี่ปุ่น และ(ประเทศหลักที่ไทยนำเข้าลดลง คือ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้)เกาหลีใต้) รองลงมา คือ เหล็กแผ่นหนารีดร้อน ประเภท รองลงมา คือ เหล็กแผ่นหนารีดร้อน ประเภท Carbon Steel และท่และท่อเหล็กมีตะเข็บ หดตัวร้อยละ อเหล็กมีตะเข็บ หดตัวร้อยละ 39.1 และ และ 27.2 ตามลำดับตามลำดับ

แนวโน้มอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าไตรมาสที่

แนวโน้มอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าไตรมาสที่ 1 ของปีของปี 25667

แนวโน้มอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าไตรมาสที่

แนวโน้มอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าไตรมาสที่ 1 ปี ปี 2567 คาดการณ์ว่าจะหดตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันคาดการณ์ว่าจะหดตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาเหล็กในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับของปีก่อน เนื่องจากราคาเหล็กในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับ ตัวลดลง ทำให้ผู้บริโภคชะลอการสั่งซื้อเพื่อดูทิศทางราคา และตัวลดลง ทำให้ผู้บริโภคชะลอการสั่งซื้อเพื่อดูทิศทางราคา และอาจส่งผลต่อความต้องการใช้เหล็ก อย่างไรก็ตามอาจส่งผลต่อความต้องการใช้เหล็ก อย่างไรก็ตาม การเร่งการเร่งก่อสร้างโครงการภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนตามก่อสร้างโครงการภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนตาม การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว คาดว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว คาดว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศการขยายตัวของอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเหล็กไตรมาสที่ 4 ปี 2566 หดตัวเมื่อเทียบกับช่

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเหล็กไตรมาสที่ 4 ปี 2566 หดตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 วงเดียวกันของปี 2565 จากการผลิตผลิตภัณฑ์เหล็ก เช่น จากการผลิตผลิตภัณฑ์เหล็ก เช่น เหล็กเส้นกลม เหล็กลวด เหล็กเส้นกลม เหล็กลวด เหล็กแผ่นเคลือบดีบุเหล็กแผ่นเคลือบดีบุก และเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน ก และเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน การบริโภคในประเทศ ขยายตัวร้อยละ 1.8 จากการบริโภคเหล็ก การบริโภคในประเทศ ขยายตัวร้อยละ 1.8 จากการบริโภคเหล็ก เช่น แผ่นเคลือบสังกะสี และเหล็กแผ่นเคลือบดีบุกเช่น แผ่นเคลือบสังกะสี และเหล็กแผ่นเคลือบดีบุก

16

อุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมไฟฟ้าไฟฟ้า

ดัชนีผลผลิต มูลค่าการนำเข้า และมูลค่าการส่งออก

ดัชนีผลผลิต มูลค่าการนำเข้า และมูลค่าการส่งออก การจำหน่ายในประเทศ ของเครื่องใช้ไฟฟ้าการจำหน่ายในประเทศ ของเครื่องใช้ไฟฟ้า

ที่มา

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ และสถาบันไฟฟ้าและและสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อิเล็กทรอนิกส์

การการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ไตรมาส ไตรมาส 44 ปี ปี 2566 ดัชนีดัชนีผลผลิตอยู่ที่ ผลผลิตอยู่ที่ 83.783.7 โดโดยลดลงยลดลงจากไตรมาสที่แล้วร้อยละ จากไตรมาสที่แล้วร้อยละ 2.82.8 (%(%QoQ) และและลดลงลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละร้อยละ 6.8 ((%%YoY) โดยสินค้าโดยสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปรับตัวที่ปรับตัวลดลงลดลง ได้แก่ ได้แก่ กระติกน้ำร้อน คอมเพรสเซอร์กระติกน้ำร้อน คอมเพรสเซอร์ หม้อแปลงไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้า หม้อหม้อหุงข้าว มอเตอร์ไฟฟ้า หุงข้าว มอเตอร์ไฟฟ้า เตาอบไมโครเวฟเตาอบไมโครเวฟ แครื่องปรับอากาศครื่องปรับอากาศ และและสายเคเบิ้ล สายเคเบิ้ล ลดลงลดลงร้อยละ ร้อยละ 53.7, 36.9, 27.1, 26.4, 19.8, 53.7, 36.9, 27.1, 26.4, 19.8, 17.1, 10.6 และ 0.6 17.1, 10.6 และ 0.6 ตามลำดับตามลำดับ เนื่องจากความต้องการเนื่องจากความต้องการตลาดโลกลดลงและเศรษฐกิจโลกตลาดโลกลดลงและเศรษฐกิจโลกชะลอตัวชะลอตัว ในขณะที่สินค้าในขณะที่สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ได้แก่ สายไฟฟ้าสายไฟฟ้า ตู้เย็นตู้เย็น เครื่องเครื่องซักผ้า ซักผ้า และและพัดลมตามบ้าน เพิ่มขึ้นร้อยละ 67.6, 23.3,พัดลมตามบ้าน เพิ่มขึ้นร้อยละ 67.6, 23.3, 15.4 15.4 และ 10.2 ตามลำดับและ 10.2 ตามลำดับ

การจำหน่ายในประเทศการจำหน่ายในประเทศ ไตรมาส ไตรมาส 44 ปี ปี 2566 สินค้าที่สินค้าที่ มีการปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีการปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ได้แก่ เตาอบไมโครเวฟ เตาอบไมโครเวฟ กระติกน้ำร้อนกระติกน้ำร้อน หม้อหุงข้าวหม้อหุงข้าว คอมเพรสเซอร์คอมเพรสเซอร์ ตู้เย็นตู้เย็น และและเครื่องซักผ้า เครื่องซักผ้า ลดลงร้อยละ 69.4ลดลงร้อยละ 69.4, 50.9, 30.0, 8.7, 5.8 และ, 30.0, 8.7, 5.8 และ 0.30.3 ตามลำดับ ในขณะที่ตามลำดับ ในขณะที่เครื่องปรับอากาศเครื่องปรับอากาศ และพัดลม เพิ่มขึ้นและพัดลม เพิ่มขึ้นร้อยละร้อยละ 20.9 และและ 9.29.2 ตามลำดับตามลำดับ

การนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าการนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 44 ปี ปี 2566 มีมูลค่า มีมูลค่า 5,550.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้วร้อยละจากไตรมาสที่แล้วร้อยละ 25.525.5 (%QoQ) และและเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละร้อยละ 19.5 (%YoY) โดยสินค้าหลักที่มีการนำเข้โดยสินค้าหลักที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นาเพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องปรับอากาศได้แก่ เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้าเครื่องซักผ้า ตู้เย็นตู้เย็น และพัดลม เพิ่มขึ้นและพัดลม เพิ่มขึ้น ร้อยละ 62.0, 27.2, 21.5 และ 17.4 ตามลำดับร้อยละ 62.0, 27.2, 21.5 และ 17.4 ตามลำดับ

การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า ไตรมาส ไตรมาส 44 ปี ปี 2566 มีมูลค่ามีมูลค่า การส่งออกการส่งออก 6,477.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงลดลงจากไตรมาสจากไตรมาส ที่แล้วร้อยละ ที่แล้วร้อยละ 8.48.4 (%QoQ) และและลดลงลดลงจากไตรมาสเดียวกันจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ ของปีก่อนร้อยละ 6.36.3 (%YoY) โดยส่งออกโดยส่งออกลดลงลดลงในตลาดในตลาดยุโรปยุโรป และอาเซียนและอาเซียน ลดลงลดลงร้อยร้อยละ 13.7 ละ 13.7 และ และ 5.75.7 ตามลำดับ ตามลำดับ ทั้งนี้ สินค้าที่ปรับตัวลดลงได้แก่ หม้อแปลงไฟฟ้าทั้งนี้ สินค้าที่ปรับตัวลดลงได้แก่ หม้อแปลงไฟฟ้า หม้อหม้อ หุงข้าว เตาอบไมโครเวฟ หุงข้าว เตาอบไมโครเวฟ เครื่องเครื่องปรับอากาศปรับอากาศ และพัดลม และพัดลม ลดลงลดลงร้อยละ ร้อยละ 49.7, 47.2, 33.849.7, 47.2, 33.8, 29.8 และ 4.6 ตามลำดับและ 4.6 ตามลำดับ จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

แนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ไตรมาสที่

แนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ไตรมาสที่ 1 ของปีของปี 2567

อุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมเครื่องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาสที่ ไฟฟ้าในไตรมาสที่ 11 ของปี 256ของปี 25677 คาดว่าคาดว่าดัชนีผลผลิตดัชนีผลผลิตจะมีการหดตัวประมาณจะมีการหดตัวประมาณร้อยละ ร้อยละ 3.03.0--6.06.0 เนื่องจากเนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของสสถานการณ์ความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจโลกภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัว และที่ยังคงชะลอตัว และอัตราเงินเฟ้อกับราคาปัจจัยการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นตามสภาวะอัตราเงินเฟ้อกับราคาปัจจัยการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นตามสภาวะเงินเฟ้อเงินเฟ้อ อาจจะส่งผลต่อการผลิตในอุตสาหกรรมชะลอตัวลงอาจจะส่งผลต่อการผลิตในอุตสาหกรรมชะลอตัวลง ในขณะที่ในขณะที่มูลค่าการส่งออกมูลค่าการส่งออกคาดว่าจะมีการขยายตัวประมาณร้คาดว่าจะมีการขยายตัวประมาณร้อยละ อยละ 1.01.0--3.0 3.0 เนื่องจากแนวโน้มการขยายตัวของ เนื่องจากแนวโน้มการขยายตัวของ Smart City จากการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ จากการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ Smart Electronics 109.3 107.8 98.1 89.8 100.4 105.1

86.1 83.7

0

20

40

60

80

100

120

140

Q1-2565 Q2-2565 Q3-2565 Q4-2565 Q1-2566 Q2-2566 Q3-2566 Q4-2566

ดัชนีผลผลิต

อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า

ดัชนีผลผลิต

681.6

1,668.2 1,496.9

930.4

823.6

1,287.7

1,462.0

1,329.9

973.8

1,175.9

2,333.0 2,299.5

2,924.3

2,146.2

2,548.6

329.0 388.4 380.8

366.5

328.2

5.9 5.7

3.8 1.7 1.8

351.8

422.6 449.6

384.9

331.3

194.3 225.4 115.5 132.3

95.4

792.1

669.9

454.9 553.9

554.8

0.0

500.0

1,000.0

1,500.0

2,000.0

2,500.0

3,000.0

Q4-65 Q1-66 Q2-66 Q3-66 Q4-66

ปริมาณการจาหน่ายในประเทศ (พันเครื่อง)

เครื่องปรับอากาศ คอมเพรสเซอร์ พัดลม เครื่องซักผ้า

เตาไมโครเวฟ ตู้เย็น กระติกน้าร้อน หม้อหุงข้าว

4,640.1 4,471.7 4,465.9 4,518.9 4,644.4 4,868.9

4,408.3 4,432.1

5,550.3

7,237.2 7,582.3 7,211.4

7,709.7

6,915.3

8,194.4

7,710.9

7,069.7

6,477.7

0

2,000

4,000

6,000

8,000

Q4-2564Q1-2565Q2-2565Q3-2565Q4-2565Q1-2566Q2-2566Q3-2566Q4-2566

ล้านเหรียญสหรัฐฯ

มูลค่าการนาเข้า มูลค่าการส่งออก

การผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาสที่

การผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาสที่ 44 ปี ปี 2566 ลดลงลดลงร้อยละ ร้อยละ 6.86.8 เมื่อเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันเทียบกับไตรมาสเดียวกันของของปีก่อน ปีก่อน เนื่องจากความต้องการเนื่องจากความต้องการตลาดโลกลดลงและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยสินค้าที่มีการตลาดโลกลดลงและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยสินค้าที่มีการผลิตผลิตปรับตัวลดลง ได้แก่ กระติกน้ำร้อน คอมเพรสเซอร์ หม้อแปลงไฟฟ้า ปรับตัวลดลง ได้แก่ กระติกน้ำร้อน คอมเพรสเซอร์ หม้อแปลงไฟฟ้า หม้อหุงข้าว มอเตอร์ไฟฟ้า เตาอบไมโครเวฟ หม้อหุงข้าว มอเตอร์ไฟฟ้า เตาอบไมโครเวฟ แครื่องปรับอากาศ และสายเคเบิ้ลครื่องปรับอากาศ และสายเคเบิ้ล และมีการส่งออกลดลงในตลาดยุโรป และอาเซียนและมีการส่งออกลดลงในตลาดยุโรป และอาเซียน

17

อุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อิเล็กทรอนิกส์

ดัชนีผลผลิต มูลค่าการนำเข้า

ดัชนีผลผลิต มูลค่าการนำเข้า และมูลค่าการส่งออก และมูลค่าการส่งออก อิเล็กทรอนิกส์อิเล็กทรอนิกส์

ที่มา

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ และสถาบันไฟฟ้าและและสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อิเล็กทรอนิกส์

การผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์การผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ในไตรมาสที่ ในไตรมาสที่ 44 ปี ปี 2566 มีดัชนีผลผลิตอยู่ที่ มีดัชนีผลผลิตอยู่ที่ 69.8 69.8 โดโดยลดลงยลดลงจากไตรมาสที่แล้วร้อยละ จากไตรมาสที่แล้วร้อยละ 7.37.3 (%QoQ) และ) และลดลงลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของ ปีก่อนร้อยละ ปีก่อนร้อยละ 21.4 21.4 (%YoY) โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ที่มีมีการปรับตัวการปรับตัวลดลงลดลง ได้แก่ได้แก่ Semiconductor devices transistor, วงจรพิมพ์ (วงจรพิมพ์ (PCBA), Printer, วงจรรวม (วงจรรวม (IC), HDD, และและแผงวงจรแผงวงจร ((PWB) โดยปรับตัวโดยปรับตัวลดลงลดลงร้อยละ ร้อยละ 30.0, 30.0, 30.0, 23.7, 20.4, 18.030.0, 23.7, 20.4, 18.0 และ และ 6.56.5 ตามลำดับตามลำดับ โดยสาเหตุที่มีโดยสาเหตุที่มีการปรับตัวลดลง เนื่องจากการปรับตัวลดลง เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และวัตถุดิบที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดโลกวัตถุดิบที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดโลก

การนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์การนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ในไตรมาสที่ ในไตรมาสที่ 44 ปี ปี 2566 มีมูลค่าการนำเข้ามีมูลค่าการนำเข้า 12,644.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้วร้อยละ จากไตรมาสที่แล้วร้อยละ 10.7 (%QoQ) และและเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นร้อยร้อยละละ 17.8 (%YoY) จากจากไตรมาสเดียวกันของไตรมาสเดียวกันของ ปีก่อน โดยสินค้าหลักที่มีการปรับตัวปีก่อน โดยสินค้าหลักที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น ได้แก่ ได้แก่ ไดโอดไดโอดทรานซิสเตอร์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ และส่วนประกอบทรานซิสเตอร์ อุปกรณ์กึ่งตัวนา และส่วนประกอบ และและวงจรรวมวงจรรวม ปรับตัปรับตัวเพิ่มขึ้นวเพิ่มขึ้นร้อยละ ร้อยละ 77.9 และและ 12.2 ตามลำดับตามลำดับ

การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ไตรมาสที่ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 มีมูลค่าการส่งออกมีมูลค่าการส่งออก 12,004.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงลดลงจากไตรมาสที่แล้วจากไตรมาสที่แล้วเล็กน้อยเล็กน้อยร้อยละ ร้อยละ 0.2 0.2 (%QoQ) และและเพิ่มขึ้นร้เพิ่มขึ้นร้อยละอยละ 5.75.7 (%YoY) จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยโดยส่งออกส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดจีน และสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นในตลาดจีน และสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.7 และ 2.6 ตามลำดับ ทั้งนี้ ร้อยละ 8.7 และ 2.6 ตามลำดับ ทั้งนี้ สินค้าหลักที่มีการสินค้าหลักที่มีการปรับตัวปรับตัวเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น ได้แก่ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 66.5ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 66.5

แนวโน้มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ไตรมาสที่

แนวโน้มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ไตรมาสที่ 11 ของปี 256ของปี 25677

สำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาสที่ สำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาสที่ 1 1 ของปี ของปี 2567 คาดว่าดัชนีผลผลิตคาดว่าดัชนีผลผลิตจะหดตัวเล็กน้อยประมาณจะหดตัวเล็กน้อยประมาณร้อยละ ร้อยละ 1.01.0--3.0 3.0 เนื่องจากเนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูงต้นทุนการผลิตที่สูง อาจส่งผลต่อความสามารถในการผลิตของผู้ประกอบการไทย และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลต่อความสามารถในการผลิตของผู้ประกอบการไทย และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้า เช่น จีน และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามนโยบายการสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม และประเทศคู่ค้า เช่น จีน และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามนโยบายการสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม Smart Electronics อาจจะส่งผลดีต่อการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของไทย ในขณะที่อาจจะส่งผลดีต่อการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของไทย ในขณะที่มูลค่าการส่งออกมูลค่าการส่งออกจะยังขยายตัวได้ต่อเนื่องจะยังขยายตัวได้ต่อเนื่องประมาณประมาณร้อยละ ร้อยละ 33.0-5.0 เนื่องจากเนื่องจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ตามความต้องการของตลาดโลกและตามความต้องการของตลาดโลกและเทคโนโลยีเทคโนโลยีดิจิทัลดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็วที่มีการเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว รวมทั้ง ความต้องการอุปกรณ์นวัตกรรมใหม่ ๆ ของผู้บริรวมทั้ง ความต้องการอุปกรณ์นวัตกรรมใหม่ ๆ ของผู้บริโภคโภค 100.0

94.0 93.8 88.7 83.0 77.9 75.3 69.8

0

20

40

60

80

100

120

140

Q1-2565 Q2-2565 Q3-2565 Q4-2565 Q1-2566 Q2-2566 Q3-2566 Q4-2566

ดัชนีผลผลิต

อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

ดัชนีผลผลิต

12,217.4 11,754.0 11,552.9

11,923.4

10,732.2

11,347.3 10,809.1 11,421.2

12,644.6

11,364.7 11,017.6

10,796.7

11,684.4

11,358.1

10,776.7 10,876.1

12,027.3

12,004.4

0

2,000

4,000

6,000

8,000

10,000

12,000

14,000

Q4-2564 Q1-2565 Q2-2565 Q3-2565 Q4-2565 Q1-2566 Q2-2566 Q3-2566 Q4-2566

ล้านเหรียญสหรัฐฯ

มูลค่าการนาเข้า มูลค่าการส่งออก

การผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาสที่

การผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาสที่ 44 ปี ปี 2566 ปรับตัวลดลงร้อยละ ปรับตัวลดลงร้อยละ 21.421.4 เมื่อเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และวัตถุดิบที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดโลกโดยสินค้าที่มีการผลิตปรับตัวลดลง ได้แก่ เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และวัตถุดิบที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดโลกโดยสินค้าที่มีการผลิตปรับตัวลดลง ได้แก่ Semiconductor devices transistor, วงจรพิมพ์ (วงจรพิมพ์ (PCBA), Printer, วงจรรวม (วงจรรวม (IC), HDD, และแผงวงจร (และแผงวงจร (PWB) ในขณะที่ในขณะที่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดจีน และสหรัฐอเมริกาเครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดจีน และสหรัฐอเมริกา

18

อุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์

อุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์

ที่มา

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม รวบรวมสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม รวบรวมจากจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

ที่มา

ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากรโดยความร่วมมือของกรมศุลกากร

แนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ ไตรมาสที่

แนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ ไตรมาสที่ 11 ของปี ของปี 25677

จากการคาดการณ์โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประมาณการจากการคาดการณ์โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประมาณการ ในไตรมาสที่ในไตรมาสที่ 11 ปี 256ปี 25677 จะมีกาจะมีการรผลิตรถยนต์กว่า ผลิตรถยนต์กว่า 47575,000000 คัน โดยแบ่งเป็นคัน โดยแบ่งเป็น การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศร้อยละ การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศร้อยละ 4545--50 50 และการผลิตเพื่อส่งออกร้อยละ และการผลิตเพื่อส่งออกร้อยละ 5050--5555

?

การผลิตรถยนต์การผลิตรถยนต์ ในในไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 4 ปีปี 25666 มีจำนวมีจำนวนน 455,,692 คันคัน ลดลงลดลงจากไตรมาสที่ จากไตรมาสที่ 3 ปีปี 25666 ร้อยละร้อยละ 1.891.89 (%QoQ) และลดลงจากและลดลงจากไตรมาสเดียวกันไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน ร้อยละ กับปีก่อน ร้อยละ 12.28 (%YoY) โดยโดยมีสัดส่วนมีสัดส่วนแบ่งเป็นแบ่งเป็น การผลิตรถยนต์นั่ง ร้อยละการผลิตรถยนต์นั่ง ร้อยละ 36 รถกระบะ รถกระบะ 1 ตันและอนุพันธ์ ร้อยละ ตันและอนุพันธ์ ร้อยละ 61 และรถยนต์เพื่อและรถยนต์เพื่อ การพาณิชย์อื่นการพาณิชย์อื่น ๆ ร้อยละๆ ร้อยละ 33

การจำหน่ายรถยนต์ในประเทศการจำหน่ายรถยนต์ในประเทศ ในในไตรมาสที่ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 6 มีจำนวนมีจำนวน 188,910 คันคัน เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นจากไตรมาสจากไตรมาส ที่ ที่ 3 ปีปี 25666 ร้อยละร้อยละ 4.52 (%QoQ) แต่ลดลงแต่ลดลงจากจาก ไตรมาสเดียวกันขอไตรมาสเดียวกันของงปีก่อน ร้อยละ ปีก่อน ร้อยละ 12.42 (%YoY) โดยมีสัดส่วนแบ่งโดยมีสัดส่วนแบ่งเป็นเป็น การการจำหน่ายจำหน่ายรถยนต์นั่งรถยนต์นั่ง ร้อยละร้อยละ 57 57 รรถกระบะ ถกระบะ 1 ตันตันและอนุพันธ์ และอนุพันธ์ ร้อยละ 37 ร้อยละ 37 และรถยนต์และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์อื่นเพื่อการพาณิชย์อื่น ๆ ๆ ร้อยละ ร้อยละ 66

การส่งออกรถยนต์ การส่งออกรถยนต์ ในไตรมาสที่ ในไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 6 มีจำนวน มีจำนวน 29295,,640 คันคัน เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ จากไตรมาสที่ 3 ปี ปี 2566 6 ร้อยละร้อยละ 0.870.87 (%QoQ) และเพิ่มขึ้นจากและเพิ่มขึ้นจาก ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 0.62 (%YoY) โดยโดย มีสัดส่วนแบ่งมีสัดส่วนแบ่งเป็นเป็น การการส่งออกส่งออกรถยนต์นั่งรถยนต์นั่ง ร้อยละร้อยละ 29 รรถกระบะ ถกระบะ 1 ตันตัน ร้อยละ ร้อยละ 58 และและรถ รถ PPV ร้อยละ ร้อยละ 13 มูลค่าการส่งออกของส่วนประกอบและอุปกรณ์มูลค่าการส่งออกของส่วนประกอบและอุปกรณ์รถยนต์รถยนต์ ในไตรมาสที่ ในไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 มีมีมูลค่ามูลค่า 2,2,518.4 .4 ล้านเหรียญสหรัฐล้านเหรียญสหรัฐฯฯ ลดลงลดลงจากไตรมาสที่จากไตรมาสที่ 3 ปี ปี 2566 ร้อยละร้อยละ 5.52 5.52 (%QoQ) แต่เพิ่มขึ้นแต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนของปีก่อน ร้อยละ ร้อยละ 7.45 7.45 (%YoY) โดยโดยตลาดส่งออกตลาดส่งออก ที่สำคัญของส่วนประกอบและอุปกรณ์รถยนต์ ได้แก่ที่สำคัญของส่วนประกอบและอุปกรณ์รถยนต์ ได้แก่ สหรัฐอเมริกาสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นญี่ปุ่น และและมาเลเซียมาเลเซีย

มูลค่าการนำเข้าของส่วนประกอบและอุปกรณ์มูลค่าการนำเข้าของส่วนประกอบและอุปกรณ์ ยานยนต์ยานยนต์ ในไตรมาสที่ในไตรมาสที่ 4 ปี ปี 25666 มีมีมูลค่ามูลค่า 2,071.502,071.50 ล้านเหรียญสหรัฐล้านเหรียญสหรัฐฯฯ ลดลงลดลงจากไตรมาสที่จากไตรมาสที่ 3 ปี ปี 2566 6 ร้อยละร้อยละ 2.582.58 (%QoQ) และลดลงและลดลงจากไตรมาสเดียวกันจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ ของปีก่อน ร้อยละ 0.170.17 (%YoY) โดยโดยตลาดตลาดนำเข้านำเข้า ที่สำคัญของส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ ได้แก่ ที่สำคัญของส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ ได้แก่ ญี่ปุ่นญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา จีน และสหรัฐอเมริกา 519,478 507,787

413,725

464,459 455,692

215,701 217,073

189,058 180,739 188,910

293,812 273,692 255,124

293,083 295,640

4Q 2565 1Q 2566 2Q 2566 3Q 2566 4Q 2566

การผลิต จาหน่าย และส่งออก รถยนต์ (คัน)

การผลิต การจาหน่าย การส่งออก

2,343.81

2,460.16 2,414.71

2,665.46

2,518.40

2,074.95 2,133.15 2,032.32 2,126.26 2,071.50

4Q 2565 1Q 2566 2Q 2566 3Q 2566 4Q 2566

มูลค่าการส่งออกและนาเข้าส่วนประกอบและอุปกรณ์

รถยนต์ (ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

มูลค่าการส่งออก มูลค่าการนาเข้า

ปริมาณการผลิตรถยนต์ในไตรมาสที่

ปริมาณการผลิตรถยนต์ในไตรมาสที่ 4 ปี 256ปี 25666 มีปริมาณการผลิตมีปริมาณการผลิตชะลอชะลอตัว เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันตัว เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกัน ของปีก่อน โดยเป็นการของปีก่อน โดยเป็นการลดลงของตลาดในประเทศ เนื่องจากความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน รวมทั้งลดลงของตลาดในประเทศ เนื่องจากความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ในส่วนของตลาดส่งออกขยายตัวในรถยนต์กระบะ 1 ตันและรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ในส่วนของตลาดส่งออกขยายตัวในรถยนต์กระบะ 1 ตันและรถยนต์ PPV

19

อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์

อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์

ที่มา

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม รวบรวมกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม รวบรวมกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

ที่มา

ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากรโดยความร่วมมือของกรมศุลกากร

แนวโน้มอุตสาหกรรมรถ

แนวโน้มอุตสาหกรรมรถจักรยานจักรยานยนต์ ไตรมาสที่ยนต์ ไตรมาสที่ 11 ของปี ของปี 25677

จากการคาดการณ์โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประมาณจากการคาดการณ์โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประมาณการในไตรมาสที่ การในไตรมาสที่ 1 ปี 256ปี 2567 จะมีการผลิตรถจะมีการผลิตรถจักรยานจักรยานยนต์กว่ายนต์กว่า 525525,000 คัน 000 คัน โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศโดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศร้อยลร้อยละ 80 80--85 และการผลิต85 และการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณร้อยละ 15เพื่อการส่งออกประมาณร้อยละ 15--2020

การผลิตรถการผลิตรถจักรยานจักรยานยนต์ยนต์ ในในไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 มีจำนวน มีจำนวน 482,687 คันคัน ลดลงลดลงจากไตรมาสที่ จากไตรมาสที่ 3 ปี ปี 2566 ร้อยร้อยละ ละ 2.19 (%QoQ) และลดลงและลดลงจากไตรมาจากไตรมาสสเดียวกันเดียวกันกับกับปีก่อน ร้อยปีก่อน ร้อยละ ละ 10.80 (%YoY)

การจำหน่ายรถการจำหน่ายรถจักรยานจักรยานยนต์ในประเทศยนต์ในประเทศ ในในไตรมาสไตรมาสที่ ที่ 4 ปี ปี 2566 มีจำนวน มีจำนวน 4410,,476 คัน คัน ลดลงลดลงจากจาก ไตรมาสที่ไตรมาสที่ 3 ปี ปี 2566 ร้อยละร้อยละ 9.26 (%(%QoQ) และลดลงและลดลงจากไตรมาสเดียวกันกับปีก่อนจากไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน ร้อยละ ร้อยละ 4.42 (%(%YoY)

การส่งออกรถจักรยานยนต์การส่งออกรถจักรยานยนต์ ในในไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 มีจำนวนมีจำนวน 220,857 คัน คัน (เป็นการส่งออก (เป็นการส่งออก CBU 118,926 คันคัน และ และ CKD 101,931 ชุด)ชุด) เพิ่มขึ้นจเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ากไตรมาสที่ 3 ปี ปี 2566 ร้อยละร้อยละ 15.95 (%QoQ) แต่ลดลงแต่ลดลงจากไตรมาสจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 18.99 (%YoY)

มูลค่าการส่งออกของส่วนประกอบมูลค่าการส่งออกของส่วนประกอบรถจักรยานยนต์รถจักรยานยนต์ ในในไตรมาสที่ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 มีมีมูลค่ามูลค่า 200.20 ล้านเหรียญล้านเหรียญสหรัฐสหรัฐฯฯ เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่จากไตรมาสที่ 3 ปี ปี 2566 ร้อยละ ร้อยละ 2.60 (%QoQ) แต่ลดลงแต่ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ ร้อยละ 9.859.85 (%YoY) โดยโดยตลาดส่งออกที่สำคัญของตลาดส่งออกที่สำคัญของส่วนประกอบรถส่วนประกอบรถจักรยานจักรยานยนต์ ได้แก่ยนต์ ได้แก่ กัมพูชา ญี่ปุ่นและกัมพูชา ญี่ปุ่นและบราซิลบราซิล

มูลค่าการนำเข้าของส่วนประกอบและอุปกรณ์มูลค่าการนำเข้าของส่วนประกอบและอุปกรณ์รถจักรยานยนต์และรถจักรรถจักรยานยนต์และรถจักรยานยาน ในในไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 มีมีมูลค่ามูลค่า 209.10 ล้านเหรียญสหรัฐล้านเหรียญสหรัฐฯฯ เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นจากจาก ไตรมาสที่ไตรมาสที่ 3 ปี ปี 2566 ร้อยละร้อยละ 1.38 (%QoQ) แต่ลดลงแต่ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละร้อยละ 18.79 (%YoY) โดยโดยตลาดตลาดนำเข้านำเข้าที่สำคัญของส่วนประกอบที่สำคัญของส่วนประกอบและอุปกรณ์และอุปกรณ์รถรถจักรยานจักรยานยนต์ ได้แก่ ยนต์ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และจีนสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และจีน

541,158

686,087

546,926

493,494 482,687

429,444

506,566 487,415 452,357

410,476

272,638 241,199

186,435 190,482 220,857

4Q 2565 1Q 2566 2Q 2566 3Q 2566 4Q 2566

การผลิต จาหน่าย และส่งออก รถจักรยานยนต์ (คัน)

การผลิต การจาหน่าย การส่งออก

222.08 213.57

191.36 195.13 200.20

257.47

294.18

241.90

206.26 209.10

4Q 2565 1Q 2566 2Q 2566 3Q 2566 4Q 2566

มูลค่าการส่งออกและนาเข้า ส่วนประกอบและอุปกรณ์

รถจักรยานยนต์ (ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

มูลค่าการส่งออก มูลค่าการนาเข้า

ปริมาณการผลิตรถจักรยานยนต์ในไตรมาสที่

ปริมาณการผลิตรถจักรยานยนต์ในไตรมาสที่ 4 ปี ปี 256666 มีปริมาณการผลิตมีปริมาณการผลิตชะลอตัว ชะลอตัว เมื่อเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยโดยเป็นการชะลอตัวของตลาดในประเทศ และตลาดส่งออก เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าเป็นการชะลอตัวของตลาดในประเทศ และตลาดส่งออก เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า

20

อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์

อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์

การตลาดและการจำหน่าย

การตลาดและการจำหน่าย

ที่มา

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

ที่มา

ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากรพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร

ดัชนีดัชนีผลผลิตผลผลิต ไตรมาส 4 ปี 2566 หดตัวร้อยละ 5.06 ไตรมาส 4 ปี 2566 หดตัวร้อยละ 5.06 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (%QoQ) และขยายตัวร้อยละ และขยายตัวร้อยละ 14.58 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 14.58 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (%YoY) ดัชนีผลผลิตที่ขยายตัว เช่น ปุ๋ยเคมี แป้งฝุ่น และน้ำยาดัชนีผลผลิตที่ขยายตัว เช่น ปุ๋ยเคมี แป้งฝุ่น และน้ำยา ล้างจาน ล้างจาน เป็นต้นเป็นต้น

ดัชนีการส่งสินค้า ดัชนีการส่งสินค้า ไตรมาส 4 ปี 2566 หดตัวร้อยละ ไตรมาส 4 ปี 2566 หดตัวร้อยละ 4.96 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (%4.96 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (%QoQ) และขยายตัวและขยายตัวร้อยละ 15.65 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 15.65 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (%(%YoY) ดัชนีการส่งสินค้าที่ขยายตัว เช่น ปุ๋ยเคมี น้ำยาดัชนีการส่งสินค้าที่ขยายตัว เช่น ปุ๋ยเคมี น้ำยา ล้างจาน และสีน้ำมัน เป็นต้นล้างจาน และสีน้ำมัน เป็นต้น

การส่งออกเคมีภัณฑ์การส่งออกเคมีภัณฑ์ ไตรมาส 4ไตรมาส 4 ปี ปี 2566 มีมูลค่ามีมูลค่า 2,,372.86 ล้านเหรียญสหรัฐล้านเหรียญสหรัฐฯฯ ขยายขยายตัวร้อยละ ตัวร้อยละ 1.421.42 เมื่อเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (%เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (%QoQ) และขยายตัวและขยายตัวร้อยละร้อยละ 0.76 0.76 เมื่อเทียบกับเมื่อเทียบกับไตรมาสไตรมาสเดียวกันของปีเดียวกันของปีก่อน ก่อน (%YoY) โดยโดยผลิตภัณฑ์หลักที่ผลิตภัณฑ์หลักที่ส่งส่งผลให้มูลค่าการส่งออกผลให้มูลค่าการส่งออกขยายตัวขยายตัว เช่นเช่น ปุ๋ยเคมี เครื่องสำอางและเคมีภัณฑ์อินทรีย์ เป็นต้นปุ๋ยเคมี เครื่องสำอางและเคมีภัณฑ์อินทรีย์ เป็นต้น

การนำเข้าเคมีภัณฑ์การนำเข้าเคมีภัณฑ์ ไตรมาส 4ไตรมาส 4 ปี ปี 2566 มีมูลค่ารวม มีมูลค่ารวม 4,233.70 ล้านเหรียญสหรัฐล้านเหรียญสหรัฐฯฯ หดตัวหดตัวร้อยละร้อยละ 4.92 เมื่อเทียบเมื่อเทียบกับไตรมาสกับไตรมาสก่อนหน้า ก่อนหน้า (%QoQ) และและหดตัวหดตัวร้อยละ ร้อยละ 6.83 เมื่อเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (%YoY) โดยผลิตภัณฑ์โดยผลิตภัณฑ์หลักที่ส่งผลให้มูลค่าการหลักที่ส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าหดนำเข้าหดตัวตัว เช่น เคมีภัณฑ์เบ็ดเตล็ด เช่น เคมีภัณฑ์เบ็ดเตล็ด เคมีภัณฑ์อินทรีย์ และสารลดแรงตึงผิว เป็นต้นเคมีภัณฑ์อินทรีย์ และสารลดแรงตึงผิว เป็นต้น

แนวโน้มอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ ไตรมาสที่

แนวโน้มอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ ไตรมาสที่ 11 ของปีของปี 256677

แนวโน้ม

แนวโน้มอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ไตรมาสที่ 1 ปี 25ไตรมาสที่ 1 ปี 2567 คาดว่าการผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของคาดว่าการผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์ปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์การบริโภคในประเทศการบริโภคในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การผลิตสินค้าเคมีภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องเพิ่มมากขึ้น มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การผลิตสินค้าเคมีภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องเพิ่มมากขึ้น การส่งออกเคมีภัณฑ์มีแนวโน้มขยายตัวเมื่อเทียบกับการส่งออกเคมีภัณฑ์มีแนวโน้มขยายตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการสินค้าจากตลาดหลัก เนื่องจากความต้องการสินค้าจากตลาดหลัก เช่น จีน เช่น จีน อินเดีย เวียดนาม อินเดีย เวียดนาม และและสหรัฐอเมริกา สหรัฐอเมริกา

อุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ไตรมาสที่ เคมีภัณฑ์ไตรมาสที่ 44 ปี 2566 ปี 2566 มูลค่าการส่งออกขยายตัว เมื่อเทียบมูลค่าการส่งออกขยายตัว เมื่อเทียบกับกับไตรมาสไตรมาสเดียวกันของเดียวกันของ ปีปีก่อนก่อน เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์บางชนิดที่เกี่ยวข้องมีการผลิตเพิ่มตามเนื่องจากการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์บางชนิดที่เกี่ยวข้องมีการผลิตเพิ่มตามความต้องการของผู้บริโภค การส่งออกในไตรมาสนี้ความต้องการของผู้บริโภค การส่งออกในไตรมาสนี้ ขยายขยายตัวจากตลาดหลัก เช่น ตัวจากตลาดหลัก เช่น จีน จีน เป็นต้นเป็นต้น

มูลค่า

มูลค่าการส่งออกและการส่งออกและการนำเข้าเคมีภัณฑ์การนำเข้าเคมีภัณฑ์

(ล้านเหรียญสหรัฐ

(ล้านเหรียญสหรัฐฯฯ))

ดัชนีผลผลิตและดัชนีการส่งสินค้า

ดัชนีผลผลิตและดัชนีการส่งสินค้า

21

อุตสาหกรรมพลาสติกอุตสาหกรรมพลาสติก

?

การ

การผลิต และการตลาดผลิต และการตลาด

ดัชนีผลผลิต

ดัชนีผลผลิต ?? ดัชนีการส่งสินค้าดัชนีการส่งสินค้า

ดัชนีผลผลิตดัชนีผลผลิต ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 4 ปี 2566ปี 2566 หดตัวหดตัวร้อยละ ร้อยละ 0.41 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ((%QoQ) และ) และขยายตัวขยายตัวร้อยละร้อยละ 1.47 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกัน ของปีก่อนของปีก่อน (%YoY) ซึ่งดัชนีผลผลิตที่ซึ่งดัชนีผลผลิตที่ขยายตัวขยายตัวมากมากที่สุด ที่สุด ได้แก่ได้แก่ แผ่นฟิล์มพลาสติก แผ่นฟิล์มพลาสติก เครื่องใช้ประจำโต๊ะเครื่องใช้ประจำโต๊ะอาหาร ครัวอาหาร ครัวและและห้องน้ำห้องน้ำ และพลาสติกแผ่น เป็นต้นและพลาสติกแผ่น เป็นต้น

ดัชนีการส่งสินค้าดัชนีการส่งสินค้า ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 4 ปี 2566ปี 2566 ขยายตัวขยายตัวร้อยละ ร้อยละ 2.42 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ((%QoQ) ) และหดตัวและหดตัวร้อยละ ร้อยละ 1.08 เมื่อเทียบกับเมื่อเทียบกับ ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (%YoY)) ซึ่งดัชนีการส่งซึ่งดัชนีการส่งสินค้าที่สินค้าที่หดตัวหดตัวมากที่สุด มากที่สุด ได้แก่ ได้แก่ กระสอบพลาสติก กระสอบพลาสติก บรรจุภัณฑ์พลาสติกอื่น ๆ บรรจุภัณฑ์พลาสติกอื่น ๆ และท่อและข้อต่อและท่อและข้อต่อพลาสติก พลาสติก เป็นต้นเป็นต้น

มูลค่ามูลค่าการการส่งออกส่งออก ไตรมาสที่ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 มีปี 2566 มีมูลค่ามูลค่า 11,086.78 ล้านเหรียญสหรัฐฯล้านเหรียญสหรัฐฯ หดหดตัวร้อยละตัวร้อยละ 5.01 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (%เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (%QoQ) และและขยายขยายตัวร้อยละ ตัวร้อยละ 7.46 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (%ของปีก่อน (%YoY) ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการส่งออกส่งออกขยายตัวขยายตัวสูงสุด สูงสุด คือคือ กลุ่มผลิตภัณฑ์กลุ่มผลิตภัณฑ์พลาสติกปูพื้นพลาสติกปูพื้น

มูลค่ามูลค่าการนำเข้าการนำเข้า ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ปี 2566 หดหดตัวตัวร้อยละ ร้อยละ 3.14 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (%(%QoQ) และและขยายขยายตัวร้อยละ ตัวร้อยละ 2.08 เมื่อเทียบกับเมื่อเทียบกับ ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (%ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (%YoY) ซึ่งซึ่งกลุ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการนำเข้าขยายตัวสูงผลิตภัณฑ์ที่มีการนำเข้าขยายตัวสูงสุด สุด คือคือกลุ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ใยยาวเดี่ยวใยยาวเดี่ยว

ที่มา

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

ปริมาณการส่งออก

ปริมาณการส่งออก ?? การนำเข้าการนำเข้า (ตัน)(ตัน)

ที่มา

ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ พาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากรโดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร

แนวโน้มอุตสาหกรรมพลาสติก ไตรมาสที่

แนวโน้มอุตสาหกรรมพลาสติก ไตรมาสที่ 11 ของปี ของปี 25677

ในไตรมาสที่ ในไตรมาสที่ 1 ปี 256ปี 2567 คาดว่าการคาดว่าการผลิตจะขยายตัว เนื่องจากสถานการณ์การบริโภคสินค้าภายในประเทศผลิตจะขยายตัว เนื่องจากสถานการณ์การบริโภคสินค้าภายในประเทศเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกที่เกี่ยวข้องส่งผลให้การผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกที่เกี่ยวข้องขยายตัวขยายตัวตามความต้องการของผู้บริโภค ตามความต้องการของผู้บริโภค การส่งออกการส่งออกคาดว่าขยายคาดว่าขยายตัวตามตัวตามความต้องการปลายทางที่เพิ่มขึ้น และผู้ซื้อส่วนใหญ่มีการจับจ่ายสินค้าช่วงต้นปีความต้องการปลายทางที่เพิ่มขึ้น และผู้ซื้อส่วนใหญ่มีการจับจ่ายสินค้าช่วงต้นปี ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลมากยิ่งขึ้นซึ่งเป็นช่วงเทศกาลมากยิ่งขึ้น

อุตสาหกรรมพลาสติกไตรมาสที่

อุตสาหกรรมพลาสติกไตรมาสที่ 44 ปี ปี 2566 การผลิตขยายตัวเมื่อเทียบจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากการผลิตขยายตัวเมื่อเทียบจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากการการบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น บริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น และการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มมากขึ้นจากตลาดหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เวียดนาม และการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มมากขึ้นจากตลาดหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เวียดนาม จีน และมาเลเซียจีน และมาเลเซีย

22

อุตสาหกรรมปิโตรเคมี

อุตสาหกรรมปิโตรเคมี

ที่มา : กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง

ที่มา : กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง หมายเหตุ * คาดการณ์โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมหมายเหตุ * คาดการณ์โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

ดัชนีผลผลิตดัชนีผลผลิต ไตรมาสที่ไตรมาสที่ 44 ปี ปี 2566 อยู่ที่ระดับ อยู่ที่ระดับ 93.0693.06 เพิ่มขึ้นจาเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละกไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 4.304.30 โดยสินค้าที่ส่งผลโดยสินค้าที่ส่งผล ให้ดัชนีผลผลิตให้ดัชนีผลผลิตเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ของกลุ่มปิโตรเคมีขั้นพื้นฐาน คือ ในไตรมาสนี้ของกลุ่มปิโตรเคมีขั้นพื้นฐาน คือ Ethylene ส่วนกลุ่มปิโตรเคมีขั้นปลาย คือ ส่วนกลุ่มปิโตรเคมีขั้นปลาย คือ PP และ และ PE resin ส่วนหนึ่งมาจากการกลับมาผลิตหลังหยุดซ่อมบำรุงของโรงงานผลิต ปิโตรเคมีขั้นต้น และการชะลอการผลิตจากการระบายสินค้าส่วนหนึ่งมาจากการกลับมาผลิตหลังหยุดซ่อมบำรุงของโรงงานผลิต ปิโตรเคมีขั้นต้น และการชะลอการผลิตจากการระบายสินค้า คงคลังคงคลัง

ดัชนีการส่งสินค้าดัชนีการส่งสินค้า ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 44 ปี ปี 2566 อยู่ที่ระดับ อยู่ที่ระดับ 88.5088.50 ลดลงลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 0.330.33 โดยสินค้าที่ส่งผลให้โดยสินค้าที่ส่งผลให้ดัชนีส่งสินค้าดัชนีส่งสินค้าลดลงลดลงในไตรมาสนี้ของกลุ่มปิโตรเคมีขั้นพื้นฐาน ได้แก่ ในไตรมาสนี้ของกลุ่มปิโตรเคมีขั้นพื้นฐาน ได้แก่ Ethylene ส่วนกลุ่มปิโตรเคมีขั้นปลาย ได้แก่ ส่วนกลุ่มปิโตรเคมีขั้นปลาย ได้แก่ PP และ และ PE resin

การส่งออกปิโตรเคมีการส่งออกปิโตรเคมี ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 44 ปี ปี 2566 มีมูลค่า มีมูลค่า 22,,467.14 ล้านเหรียญสหรัฐ ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ ร้อยละ 2.46 โดยมีการส่งออกปิโตรเคมีไปยังประเทศที่สำคัญ เช่น จีน เวียดนาม และญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่โดยมีการส่งออกปิโตรเคมีไปยังประเทศที่สำคัญ เช่น จีน เวียดนาม และญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่งสินค้าที่ส่งผลให้การงสินค้าที่ส่งผลให้การส่งออกของส่งออกของกลุ่มปิโตรเคมีขั้นปลายกลุ่มปิโตรเคมีขั้นปลาย เช่น เช่น PC resin และ และ PE resin และละลดลงในลดลงในกลุ่มปิโตรเคมีขั้นพื้นฐานกลุ่มปิโตรเคมีขั้นพื้นฐาน เช่น เช่น Propylene, Toluene เป็นต้นเป็นต้น

การนำเข้าปิโตรเคมีการนำเข้าปิโตรเคมี ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 44 ปี ปี 2566 มีมูลค่า มีมูลค่า 11,,33337.42 ล้านเหรียญสหรัฐ ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 8.638.63 โดยมีการนำเข้าปิโตรเคมีจากประเทศที่สำคัญ เช่น ญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ซึ่งสินค้าที่ส่งผลให้การนำเข้าโดยมีการนำเข้าปิโตรเคมีจากประเทศที่สำคัญ เช่น ญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ซึ่งสินค้าที่ส่งผลให้การนำเข้าลดลงลดลงของกลุ่มของกลุ่ม ปิโตรเคมีขั้นพื้นฐาน เช่นปิโตรเคมีขั้นพื้นฐาน เช่น Propylene และและ Ethylene เป็นต้น และกลุ่มปิโตรเคมีขั้นปลายเป็นต้น และกลุ่มปิโตรเคมีขั้นปลายลดลงลดลง เช่น เช่น PE resin และและ PET resin เป็นต้น เป็นต้น ส่วนหนึ่งจากการเพิ่มการรีไซเคิลพลาสติกในประเทศหลังมีการอนุมัติให้ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิลสัมผัสอาหารส่วนหนึ่งจากการเพิ่มการรีไซเคิลพลาสติกในประเทศหลังมีการอนุมัติให้ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิลสัมผัสอาหารได้ได้

แนวโน้มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีไตรมาสที่

แนวโน้มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีไตรมาสที่ 11 ปีปี 25677

ภาวะอุตสาหกรรมปิโตรเคมีไตรมาสที่ 1

ภาวะอุตสาหกรรมปิโตรเคมีไตรมาสที่ 1 ปี ปี 2567 7 คาดว่าในภาพรวมของอุตสาหกรรมมีแนวโน้มหดตัวตามจากสถานการณ์เงินเฟ้อทั่วโลกคาดว่าในภาพรวมของอุตสาหกรรมมีแนวโน้มหดตัวตามจากสถานการณ์เงินเฟ้อทั่วโลก ที่ผลกระทบจากความยืดเยื้อของความขัดแย้งในหลายภูมิรัฐศาสตร์ ที่ทำให้ราคาพลังงานโลกเพิ่มขึ้น ประกอบกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ผลกระทบจากความยืดเยื้อของความขัดแย้งในหลายภูมิรัฐศาสตร์ ที่ทำให้ราคาพลังงานโลกเพิ่มขึ้น ประกอบกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ หลายประเทศ ทั้งนี้ต้องติดตามการประกาศตัวเลขของภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และการเติบโตในระดับต่ำของประเทศของจีน จะส่งผลต่อแนวโน้มหลายประเทศ ทั้งนี้ต้องติดตามการประกาศตัวเลขของภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และการเติบโตในระดับต่ำของประเทศของจีน จะส่งผลต่อแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ปี ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ปี 2566 คาดว่าอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในไตรมาสนี้มีแนวโน้มทรงตัว โดยทั้งการผลิต 6 คาดว่าอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในไตรมาสนี้มีแนวโน้มทรงตัว โดยทั้งการผลิต การส่งสินค้า และการส่งออก จะปรับชะลอตัวลง จากการชะลอคำสั่งซื้อจากระดับราคาที่การส่งสินค้า และการส่งออก จะปรับชะลอตัวลง จากการชะลอคำสั่งซื้อจากระดับราคาที่มีชะลอตัวตามความต้องการใช้ที่ปรับตัวลดลงมีชะลอตัวตามความต้องการใช้ที่ปรับตัวลดลง

อุตสาหกรรมปิโตรเคมี

อุตสาหกรรมปิโตรเคมีไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 44 ปี ปี 2566 ดัชนีผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ ดัชนีผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.30 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ดัชนีการส่งสินค้าปรับตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ดัชนีการส่งสินค้าปรับตัวลดลงร้อยละ 0.33 (ลดลงร้อยละ 0.33 (%%YoY) ) การนำเข้าและการส่งออกปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนการนำเข้าและการส่งออกปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 8.63 และ 2.46 (ร้อยละ 8.63 และ 2.46 (%%YoY) ) ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นที่ส่งผลกระทบต่อการค้าและการขนส่งทั่วโลก ประกอบกับค่าเงินสหรัฐที่แข็งค่าขึ้น และสถานการณ์ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นที่ส่งผลกระทบต่อการค้าและการขนส่งทั่วโลก ประกอบกับค่าเงินสหรัฐที่แข็งค่าขึ้น และสถานการณ์เงินเฟ้อทั่วโลก ส่งผลให้การส่งออกปิโตรเคมีในไตรมาสนี้ปรับตัวลดลง เงินเฟ้อทั่วโลก ส่งผลให้การส่งออกปิโตรเคมีในไตรมาสนี้ปรับตัวลดลง

23

อุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ กระดาษ และสิ่งพิมพ์

?

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ และกระดาษ

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

การส่งออก-นำเข้าเยื่อกระดาษ กระดาษและสิ่งพิมพ์

ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพาณิชย์

การผลิต ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 การผลิตกระดาษและผลิตภัณฑ์

กระดาษในภาพรวมเมื่อเทียบ (%QoQ) ดัชนี ฯ ปรับลดลงเล็กน้อย

(-0.23%) ในกลุ่มผลิตภัณฑ์กระดาษ ได้แก่ กระดาษแข็ง กระดาษลูกฟูก

และกล่องกระดาษ ในขณะที่กระดาษคราฟต์ และกระดาษ พิมพ์เขียน

ขยายตัวได้ (+5.44%) และ (+5.78%) ตามลำดับ และเมื่อเปรียบเทียบ

(%YoY) ภาพรวมขยายตัวได้ ร้อยละ (+2.83%) ในกลุ่มเยื่อกระดาษ

กระดาษแข็ง และกระดาษคราฟต์ ร้อยละ (+20.30%) (+8.71%) และ

(+18.36%) ตามลำดับ โดยขยายตัวต่อเนื่องทั้งในประเทศและส่งออก

ซึ่งมีคำสั่งซื้อหลักจากประเทศจีน และประเทศในอาเซียน

การส่งออก การส่งออกเยื่อกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษใน

ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 มีมูลค่ารวม 696.32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว

(+6.63%) เมื่อเทียบ (%QoQ) เพิ่มขึ้นจากกลุ่มเยื่อกระดาษ(+7.21%)

กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ (+7.06%) และเมื่อเทียบ (%YoY)

มูลค่าการส่งออกรวมขยายตัว ร้อยละ (+15.26%) จากกลุ่ม

เยื่อกระดาษ (+28.02%) กว่าร้อยละ 98.0 ส่งออกไปประเทศจีน

สำหรับกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ (+11.43%) มีตลาดส่งออก

หลัก ได้แก่ เวียดนาม อินเดีย และอินโดนีเซีย ในขณะที่กลุ่มหนังสือ

และสิ่งพิมพ์ ส่งออกลดลง เมื่อ เทียบ (%QoQ) และ (%YoY)

มีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ ฮ่องกง เมียนมา และสหรัฐอเมริกา

การนำเข้า การนำเข้าเยื่อกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษใน

ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 มีมูลค่ารวม 782.98 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง

เมื่อเทียบ (%QoQ) และ (%YOY) ร้อยละ (-1.97%) และ (-1.91%)

ตามลำดับ เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศลดลงจากภาวะเศรษฐกิจและ

ต้นทุนสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับการผลิตในประเทศมีการผลิต

มากขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการใช้ในประเทศ ส่งผลให้ต้องลดการนำเข้า

โดยเฉพาะกระดาษหรือกระดาษแข็งที่นำกลับมาใช้ได้อีก ในขณะที่

กระดาษอนามัย บรรจุภัณฑ์กระดาษ และผลิตภัณฑ์กระดาษ

มีการนำเข้าเพิ่มขึ้น

`

แนวโน้มอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ กระดาษ และสิ่งพิมพ์ ไตรมาสที่ 1 ปี 2567

แนวโน้มในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 คาดว่า เยื่อกระดาษ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษที่ใช้ผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์จะขยายตัวตาม

การบริโภคในประเทศ และจะขยายตัวได้ทั้ง supply chain สำหรับการส่งออกเยื่อกระดาษไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลัก

มีการขยายตัวต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ในขณะที่กลุ่มหนังสือและสิ่งพิมพ์ คาดว่า จะชะลอตัวต่อเนื่องจากความต้องการที่ลดลงของตลาดนำเข้า

เช่น ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา

นโยบายภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

สินค้าควบคุมมาตรฐานที่จะบังคับใช้ภายในปี 2567 โดย สมอ. สำหรับกระดาษสัมผัสอาหารที่ปรุงอาหารด้วยความร้อน

ครอบคลุมถึงกระดาษที่ใช้ในการทำอาหารที่ต้องผ่านความร้อน เช่น กระดาษที่ใช้กับหม้ออบลมร้อน ถุงชา กระดาษกรองกาแฟ กระดาษ

รองเบเกอรี่ในเตาอบ เป็นต้น โดยกำหนดให้กระดาษต้องทำจากเยื่อบริสุทธิ์หรือเยื่อบริสุทธิ์ผสมเส้นใยสังเคราะห์ที่ไม่ใส่สีในเนื้อกระดาษ

ใช้เพื่อกรองของเหลวร้อน อุ่นอาหาร หรือปรุงอาหาร ที่อุณหภูมิไม่เกิน 220 องศาเซลเซียส โดยในมาตรฐานมีข้อกำหนดในการควบคุมการ

ปนเปื้อนของสารโลหะหนักที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น ตะกั่ว แคดเมียม โครเมียม ปรอท ฯลฯ เมื่อกระดาษโดนความร้อนต้องมีการ

ปนเปื้อนไม่เกินเกณฑ์ที่มาตรฐานกำหนด และต้องไม่มีสารฟอกนวลและสารต้านจุลินทรีย์ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

55

65

75

85

95

105

115

125

135

145

Q4-65 Q1-66 Q2-66 Q3-66 Q4-66

798.26

836.83 859.14

798.73 782.98

604.12

650.04

622.13

653.05

696.32

0

100

200

300

400

500

600

700

800

900

1000

Q4-65 Q1-66 Q2-66 Q3-66 Q4-66

อุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ กระดาษ และสิ่งพิมพ์ ในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมรวม เมื่อเทียบ (%QoQ) ชะลอตัว

เล็กน้อย (-0.23%) และเมื่อเปรียบเทียบ (%YoY) ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น (+2.83%) สำหรับภาพรวมในการส่งออกเมื่อเทียบ (%QoQ) และ

(%YoY) มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น (+6.63%) และ (+15.26%) ตามลำดับ ในส่วนภาพรวมการนำเข้าเมื่อเทียบ (%QoQ) และ (%YoY) มีมูลค่า

การนำเข้าลดลง (-1.97%) และ (-1.91%) ตามลำดับ และคาดว่าในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 จะปรับตัวเป็นบวกได้ ตามการใช้จ่ายในประเทศ และ

ภาคส่วนต่าง ๆ จะได้รับการกระตุ้นตลาดช่วงต้นปี

24

อุตสาหกรรมเซรามิก

อุตสาหกรรมเซรามิก

การผลิต จำหน่าย และส่งออกเซรามิก

การผลิต จำหน่าย และส่งออกเซรามิก

ที่มา : 1. ปริมาณการผลิตและจำหน่ายภายในประเทศ : กองสารสนเทศและดัชนี

ที่มา : 1. ปริมาณการผลิตและจำหน่ายภายในประเทศ : กองสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

2.

2. มูลค่าการส่งออก : มูลค่าการส่งออก : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัด กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์

การผลิต การผลิต ในไตรมาสที่ ในไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 กระเบื้องปูพื้นกระเบื้องปูพื้น บุผนัง บุผนัง มีปริมาณการผลิต มีปริมาณการผลิต 27.15 ล้านตารางเมตร ล้านตารางเมตร หดตัวร้อยละ หดตัวร้อยละ 1.95 (%(%YoY)) จากการชะลอตัวจากการชะลอตัวของตลาดภายในประเทศของตลาดภายในประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพและที่ได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพและคำคำสั่สั่งซื้อที่ลดลงจากงซื้อที่ลดลงจาก ตลาดส่งออกสำคัญ ส่วนตลาดส่งออกสำคัญ ส่วนเครื่องสุขภัณฑ์เครื่องสุขภัณฑ์ มีปริมาณการผลิต มีปริมาณการผลิต 1.48 ล้านชิ้น ล้านชิ้น ขยายตัวขยายตัวร้อยละ ร้อยละ 9.17 (%(%YoY)) จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากตลาดภายในประเทศเป็นหลักจากตลาดภายในประเทศเป็นหลัก

การจำหน่าย การจำหน่าย ในไตรมาสที่ ในไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 กระเบื้องกระเบื้องปูปูพื้นพื้น บุผนัง บุผนัง มีปริมาณการจำหน่าย มีปริมาณการจำหน่าย 34.35 ล้านตารางเมตร ล้านตารางเมตร หดตัวหดตัวร้อยละ ร้อยละ 6.01 (%(%YoY)) จากกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ตามภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับจากกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ตามภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น หลายปัจจัย เช่น การการปรับปรับขึ้นราคาของสินค้าขึ้นราคาของสินค้า โดยเฉพาะค่าวัสดุและค่าแรงการก่อสร้าง ส่วนโดยเฉพาะค่าวัสดุและค่าแรงการก่อสร้าง ส่วนเครื่องสุขภัณฑ์เครื่องสุขภัณฑ์ มีมีปริมาณการจำหน่ายปริมาณการจำหน่าย 0.81 ล้านชิ้น ล้านชิ้น ขยายตัวร้อยละ ขยายตัวร้อยละ 1.95 (%(%YoY)) จากความต้องการในกลุ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัยและคอนโดมิเนียมจากความต้องการในกลุ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัยและคอนโดมิเนียม

การส่งออก การส่งออก ในไตรมาสที่ ในไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 กระเบื้องปูพื้น กระเบื้องปูพื้น บุผนังบุผนัง มีมูลค่ามีมูลค่าการส่งออกการส่งออก 23.77 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวขยายตัวร้อยละ ร้อยละ 0.58 (%(%YoY) ) และและเครื่องสุขภัณฑ์เครื่องสุขภัณฑ์ มีมูลค่า มีมูลค่า 45.40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวขยายตัวร้อยละร้อยละ 13.82 (%YoY) จากจากคำสั่งซื้อที่คำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นจากจากตลาดหลัก ได้แก่ ตลาดหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และกลุ่มประเทศ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และกลุ่มประเทศ CLMV

แนวโน้มอุตสาหกรรมเซรามิก ไตรมาส

แนวโน้มอุตสาหกรรมเซรามิก ไตรมาสที่ที่ 11 ของปี ของปี 25677

การผลิตและการจำหน่ายเซรามิกภายในประเทศ ไตรมาส

การผลิตและการจำหน่ายเซรามิกภายในประเทศ ไตรมาสที่ ที่ 1 ปี ปี 2567 คาดว่าคาดว่า จะมีแนวโน้มจะมีแนวโน้มทรงตัว ทรงตัว ตามภาวะตามภาวะเศรษฐกิจเศรษฐกิจภายในภายในที่ได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น การปรับขึ้นราคาของสินค้าทุกชนิด การแข่งขันด้านการตลาดที่ได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น การปรับขึ้นราคาของสินค้าทุกชนิด การแข่งขันด้านการตลาด ของภาคเอกชน ของภาคเอกชน และและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ในส่วนในส่วนการส่งออกการส่งออกมีแนวโน้มทรงตัวจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก มีแนวโน้มทรงตัวจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และการนำเข้าสินค้าราคาถูกจากตลาดจีน โดยตลาดหลักสำหรับการส่งออก ได้แก่ และการนำเข้าสินค้าราคาถูกจากตลาดจีน โดยตลาดหลักสำหรับการส่งออก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และกลุ่มประเทศ มาเลเซีย และกลุ่มประเทศ CLMV แต่ยังมีแต่ยังมีปัจจัยสำคัญที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือคือ ราคาพลังงาน วัตถุดิบราคาพลังงาน วัตถุดิบ อัตราเงินเฟ้อ อัตราเงินเฟ้อ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และค่าครองชีพค่าครองชีพที่ที่ปรับตัวสูงขึ้นปรับตัวสูงขึ้นที่อาจจะส่งผลต่อการผลิตและการจำหน่ายภายในประเทศที่อาจจะส่งผลต่อการผลิตและการจำหน่ายภายในประเทศ

ปริมาณการผลิต

ปริมาณการผลิต และการจำหน่ายและการจำหน่ายกระเบื้องปูพื้น บุผนังกระเบื้องปูพื้น บุผนัง ในไตรมาสที่ ในไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 หดตัวจากหดตัวจากการชะลอตัวการชะลอตัวของของเศรษฐกิจในประเทศเศรษฐกิจในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นที่สูงขึ้น ส่วนเครื่องสุขภัณฑ์ ส่วนเครื่องสุขภัณฑ์ ปริมาณการผลิตปริมาณการผลิต การจำหน่ายการจำหน่าย และการส่งออกและการส่งออก ขยายตัวขยายตัวจากความต้องจากความต้องการภายในประเทศของการภายในประเทศของกลุ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัยและคอนโดมิเนียมกลุ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัยและคอนโดมิเนียม และและ คำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากตลาดหลักคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากตลาดหลัก ได้แก่ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน สหรัฐอเมริกา จีน และและญี่ปุ่น ญี่ปุ่น

25

อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์

อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์

ที่มา :

ที่มา : 1. ปริมาณการผลิตและจำหน่ายภายในประเทศ . ปริมาณการผลิตและจำหน่ายภายในประเทศ : : กองสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจกองสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจอุตสาหกรรมอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

2. . มูลค่าการส่งออกมูลค่าการส่งออก--นำเข้า นำเข้า : : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

สำนักงานปลัดสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์กระทรวงพาณิชย์

การผลิตปูนซีเมนต์การผลิตปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) (ไม่รวมปูนเม็ด) ในไตรมาสในไตรมาส ที่ที่ 4 ปี ปี 2566 มีจำนวน มีจำนวน 9.80 ล้านตัน หดตัวเมื่อเทียบล้านตัน หดตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 3.083.08 (%(%YoY) ) จากความต้องการที่ลดลงของตลาดในประเทศและจากความต้องการที่ลดลงของตลาดในประเทศและประเทศคู่ค้าสำคัญประเทศคู่ค้าสำคัญ

การจำหน่ายการจำหน่ายปูนซีเมนต์ปูนซีเมนต์ในประเทศในประเทศ (ไม่รวม(ไม่รวม ปูนเม็ด) ปูนเม็ด) ไตรมาสที่ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 มีมีจำนวนจำนวน 8.51 ล้านตัล้านตันน หดตัวเมื่อเทียบกับหดตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละร้อยละ 4.47 (%(%YoY) จาก) จากการชะลอตัวของโครงการก่อสร้างภาครัฐการชะลอตัวของโครงการก่อสร้างภาครัฐ และอสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ภาคเอกชน ภาคเอกชน เช่น บ้านที่อยู่อาศัย เช่น บ้านที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียมคอนโดมิเนียม

การส่งออกการส่งออกปูนซีเมนต์ ปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) (ไม่รวมปูนเม็ด) ไตรมาสไตรมาส ที่ที่ 4 ปี ปี 2566 มีมูลค่ามีมูลค่าการการส่งออก ส่งออก 34.05 ล้านเหรียญล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสสหรัฐฯ หดตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันเดียวกันของของปีก่อนปีก่อน ร้อยละร้อยละ 11.771 (%(%YoY) ) จากการชะลอตัวของจากการชะลอตัวของ เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจโลก ส่งผลให้คำสั่งซื้อลดลงในตลาดหลักอย่างส่งผลให้คำสั่งซื้อลดลงในตลาดหลักอย่างกลุ่มประเทศ กลุ่มประเทศ CLMV และและ บังคลาเทศบังคลาเทศ

การนำเข้าปูนซีเมนต์ การนำเข้าปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 มีมูลค่า (ไม่รวมปูนเม็ด) ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 มีมูลค่า 18.39 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวเมื่อเทียบ18.39 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวเมื่อเทียบ กับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 3.32 โดยปรับตัวลดลงจากตลาด สปป.ลาว จีน และบังคลาเทศกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 3.32 โดยปรับตัวลดลงจากตลาด สปป.ลาว จีน และบังคลาเทศ

แนวโน้มอุตสาหกรรม

แนวโน้มอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ปูนซีเมนต์ ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 11 ของปี ของปี 256677

อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) ปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 1 ของปี ของปี 2567 เมื่อเทียบกับไตรมาสเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เดียวกันของปีก่อน ปริมาณการผลิตและการจำหน่าย ปริมาณการผลิตและการจำหน่าย คาดว่าคาดว่า จะขยายตัวได้จะขยายตัวได้ตามความต้องการตามความต้องการใช้ใช้ภายในประเทศภายในประเทศเป็นหลัก เป็นหลัก จากจาก ภาคก่อสร้างทั้งโครงสร้างพื้นฐานและโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงภาคก่อสร้างทั้งโครงสร้างพื้นฐานและโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยง กับพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กับพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และและโครงการที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าและเส้นทางคมนาคมโครงการที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าและเส้นทางคมนาคม สายใหม่ๆ สายใหม่ๆ รวมทั้งรวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลซึ่งจะเป็นปัจจัยที่สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลซึ่งจะเป็นปัจจัยที่สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน ส่วน การส่งออกมีแนวโน้มทรงตัว ตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญการส่งออกมีแนวโน้มทรงตัว ตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV สำหรัสำหรับบ การนำเข้ามีแนวโน้มขยายตัวจากความต้องการปูนซีเมนต์คุณภาพพิเศษจากเนเธอร์แลนด์การนำเข้ามีแนวโน้มขยายตัวจากความต้องการปูนซีเมนต์คุณภาพพิเศษจากเนเธอร์แลนด์

อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ไตรมาสที่

อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของของปีก่อน ปีก่อน ปริมาณปริมาณการผลิตการผลิต และการจำหน่ายในประเทศลดลงและการจำหน่ายในประเทศลดลงจากการชะลอตัวของโครงการก่อสร้างภาครัฐและอสังหาริมทรัพย์จากการชะลอตัวของโครงการก่อสร้างภาครัฐและอสังหาริมทรัพย์ ในส่วนการ ในส่วนการส่งออกปรับตัวลดลงตามส่งออกปรับตัวลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สำหรับสำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ไตรมาสที่ แนวโน้มอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ไตรมาสที่ 1 ของปี ของปี 2567 คาดว่าคาดว่า จะขยายตัวจากจะขยายตัวจากการการก่อสร้างก่อสร้างโโครงสร้างพื้นฐานครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐและอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชนของภาครัฐและอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชน

26

อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม

อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม

การผลิตการผลิต ดัชนีผลผลิตเส้นใยสิ่งทอดัชนีผลผลิตเส้นใยสิ่งทอ เมื่อเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันเทียบกับไตรมาสเดียวกัน ของปีก่อน (ของปีก่อน (YoY) ขยายขยายตัวร้อยละ ตัวร้อยละ 13.8713.87 จากจากการผลิตเส้นใยประดิษฐ์การผลิตเส้นใยประดิษฐ์ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เส้นใยโพลีเอสเตอร์ เส้นใยโพลีเอสเตอร์ และเส้นใยประดิษฐ์อื่น ๆและเส้นใยประดิษฐ์อื่น ๆ เช่น เช่น เส้นใยเรยอน เส้นใยเรยอน และการปั่นด้ายจากเส้นใยประดิษฐ์ และการปั่นด้ายจากเส้นใยประดิษฐ์ จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งในและต่างประเทศ เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มี ความหลากหลาย เนื่องจากเป็นเส้นใยและเส้นด้ายที่มีคุณสมบัติพิเศษ โดยความหลากหลาย เนื่องจากเป็นเส้นใยและเส้นด้ายที่มีคุณสมบัติพิเศษ โดยนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเสื้อผ้ากีฬา สิ่งทอภายในบ้าน ชิ้นส่วนนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเสื้อผ้ากีฬา สิ่งทอภายในบ้าน ชิ้นส่วน ยานยนต์ เป็นต้นยานยนต์ เป็นต้น สำหรับผ้าผืนสำหรับผ้าผืนหดตัวร้อยละ หดตัวร้อยละ 14.4114.41 ในขณะที่ในขณะที่เสื้อผ้าเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายหดตัวร้อยละ เครื่องแต่งกายหดตัวร้อยละ 21.6121.61 จากการผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย และจากการผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย และเครื่องแต่งกายจากผ้าถักนิตและโครเชต์เครื่องแต่งกายจากผ้าถักนิตและโครเชต์ เป็นผลมาจากคำสั่งซื้อที่ลดลงเป็นผลมาจากคำสั่งซื้อที่ลดลง ของของประเทศคู่ค้า ทั้ประเทศคู่ค้า ทั้งนี้ หากเทียบกับช่วงไตรมาสที่ งนี้ หากเทียบกับช่วงไตรมาสที่ 33 ปี 2566 (ปี 2566 (QoQ) พบว่าพบว่าเส้นใยสิ่งทอขยายตัวร้อยละ เส้นใยสิ่งทอขยายตัวร้อยละ 4.624.62 ทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ จากความต้องการทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ จากความต้องการ ที่เที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ

การจำหน่ายในประเทศการจำหน่ายในประเทศ เส้นใยสิ่งทอเส้นใยสิ่งทอ เมื่อเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ((YoY) ขยายตัวขยายตัวตัวร้อยละตัวร้อยละ 2.52 ทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ได้แก่ เส้นใยโพลีเอสเตอร์ 2.52 ทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ได้แก่ เส้นใยโพลีเอสเตอร์ เส้นใยประดิษฐ์อื่น ๆ เส้นด้ายฝ้าย และเส้นด้ายจากเส้นใยประดิษฐ์ในส่วนของเส้นใยประดิษฐ์อื่น ๆ เส้นด้ายฝ้าย และเส้นด้ายจากเส้นใยประดิษฐ์ในส่วนของ ผ้าผืนหดตัวร้อยละ 11.56ผ้าผืนหดตัวร้อยละ 11.56 จากกลุ่มผ้าทอ (ฝ้าย) ผ้าทอ (ใยสังเคราะห์) และผ้าขนหนู จากกลุ่มผ้าทอ (ฝ้าย) ผ้าทอ (ใยสังเคราะห์) และผ้าขนหนู สำหรับสำหรับเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายหดตัวร้อยละหดตัวร้อยละ 17.5517.55 เป็นผลจากการปรับลดกำลังเป็นผลจากการปรับลดกำลัง การผลิต ประกอบกับความต้องการของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง และปรับเปลี่ยนการผลิต ประกอบกับความต้องการของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยเลือกซื้อสินค้าราคาถูกจากจีนมากขึ้นพฤติกรรมโดยเลือกซื้อสินค้าราคาถูกจากจีนมากขึ้น

การส่งออกการส่งออก--นำเข้านำเข้า

การส่งออกการส่งออก สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มภาพรวมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มภาพรวม เมื่อเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) มีมูลค่า มีมูลค่า 1,490.58 1,490.58 ล้านเหรียญสหรัฐฯล้านเหรียญสหรัฐฯ หดหดตัวร้อยละ ตัวร้อยละ 3.663.66 อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจาอย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มผลิตภัณฑ์ พบว่า รณาเป็นรายกลุ่มผลิตภัณฑ์ พบว่า กลุ่มกลุ่มสิ่งทอมีมูลสิ่งทอมีมูลค่าการส่งออก 982.63 ล้านค่าการส่งออก 982.63 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เหรียญสหรัฐฯ โดยขยายโดยขยายตัวร้อยละตัวร้อยละ 0.66 ในผลิตภัณฑ์0.66 ในผลิตภัณฑ์ เส้นใยประดิษฐ์ จากการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ จีน เส้นใยประดิษฐ์ จากการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกาสหรัฐอเมริกา และและอินโดนีเซียอินโดนีเซีย กลุ่มเครื่องนุ่งห่มมีมูลค่ากลุ่มเครื่องนุ่งห่มมีมูลค่า 507.95507.95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดหดตัวตัว ร้อยละ ร้อยละ 11.04 11.04 เนื่องจากคำสั่งซื้อที่ลดลงของประเทศคู่ค้าสำคัญ เนื่องจากคำสั่งซื้อที่ลดลงของประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น เช่น สหรัฐอเมริกาสหรัฐอเมริกา และและญี่ปุ่นญี่ปุ่น รวมถึงสรวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัวจากกถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัวจากการใช้นโยบายารใช้นโยบายการเงินเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อในหลาย ๆ ประเทศ ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของผู้บริโภคการเงินเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อในหลาย ๆ ประเทศ ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของผู้บริโภค

การนำเข้าการนำเข้า สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มภาพรวมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มภาพรวม เมื่อเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) มีมูลค่า มีมูลค่า 1,275.20 1,275.20 ล้านเหรียญสหรัฐฯล้านเหรียญสหรัฐฯ หดหดตัวร้อยละ ตัวร้อยละ 1.531.53 เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มผลิตภัณฑ์พบว่า เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มผลิตภัณฑ์พบว่า กลุ่มสิ่งทอมีมูลค่ากลุ่มสิ่งทอมีมูลค่าการนำเข้าการนำเข้า 911.70911.70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 5.87 5.87 ในกลุ่มด้ายและเส้นใย และในกลุ่มด้ายและเส้นใย และผ้าผืน ผ้าผืน กลุ่มเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่าการนำเข้า 354.57 กลุ่มเครื่องนุ่งห่ม มีมูลค่าการนำเข้า 354.57 ล้านเหรียญสหรัฐฯล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 14.97 ขยายตัวร้อยละ 14.97 โดยมีการนำเข้าสินค้าราคาถูกถึงราคาปานกลางจำนวนมากจากจีนโดยมีการนำเข้าสินค้าราคาถูกถึงราคาปานกลางจำนวนมากจากจีนเข้ามาจำหน่ายของกลุ่มผู้ค้าสินค้าออนไลน์ เข้ามาจำหน่ายของกลุ่มผู้ค้าสินค้าออนไลน์ ซึ่งซึ่งประชาชนได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และปรับตัวให้เข้ากับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยลดการซื้อของฟุ่มเฟือยประชาชนได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และปรับตัวให้เข้ากับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยลดการซื้อของฟุ่มเฟือย เพื่อลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพื่อลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

คาดการณ์แนวโน้มไตรมาสที่

คาดการณ์แนวโน้มไตรมาสที่ 11 ปี ปี 25677

ภาวะอุตสาหกรรมการผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม คาดว่าจะชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก

ภาวะอุตสาหกรรมการผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม คาดว่าจะชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม การผลิตเส้นใยสิ่งทอโดยเฉพาะอย่างไรก็ตาม การผลิตเส้นใยสิ่งทอโดยเฉพาะ เส้นใยประดิษฐ์มีแนวโน้มที่จะขยายตัวเล็กน้อยเพื่อรองรับการผลิตสิ่งทอที่มีคุณสมบัติพิเศษ มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เส้นใยประดิษฐ์มีแนวโน้มที่จะขยายตัวเล็กน้อยเพื่อรองรับการผลิตสิ่งทอที่มีคุณสมบัติพิเศษ มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ตามตามโครงสร้างโครงสร้างภาคอุตสาหกรรมภาคอุตสาหกรรมของตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ ทั้งนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์ในทะเลแดงอาจส่งผลกระทบต่อการนำเข้ายังต้องติดตามสถานการณ์ในทะเลแดงอาจส่งผลกระทบต่อการนำเข้า--ส่งออกสินค้าจากส่งออกสินค้าจาก โซนยุโรป โดยเฉพาะเครื่องนุ่งห่มจากประเทศคู่ค้าสำคัญ รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงยืดเยื้อ อาจเป็นปัจจัยกโซนยุโรป โดยเฉพาะเครื่องนุ่งห่มจากประเทศคู่ค้าสำคัญ รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงยืดเยื้อ อาจเป็นปัจจัยกดดันดดัน ที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าชะลอตัว นอกจากนี้ ภาวะต้นทุนการผลิตที่ยังอยู่ในระดับสูง เงื่อนไขทางการเงินที่เข้มงวด ยังคงส่งผที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าชะลอตัว นอกจากนี้ ภาวะต้นทุนการผลิตที่ยังอยู่ในระดับสูง เงื่อนไขทางการเงินที่เข้มงวด ยังคงส่งผลกระทบต่ลกระทบต่ออ ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย ซึ่งผู้ประกอบการสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย ซึ่งผู้ประกอบการสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงและปรับตัว เพื่อรองรับสถานการณ์ความไม่แน่นอนดังกล่าวที่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเพื่อรองรับสถานการณ์ความไม่แน่นอนดังกล่าวที่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม

ไตรมาสที่ 4 ปี

ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ดัชนีการผลิตเส้นใยสิ่งทอเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวจากการผลิตเส้นใยประดิษฐ์ (เส้นใยโพลีดัชนีการผลิตเส้นใยสิ่งทอเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวจากการผลิตเส้นใยประดิษฐ์ (เส้นใยโพลี เอสเตอร์ และเส้นใยอื่น ๆ) เอสเตอร์ และเส้นใยอื่น ๆ) ในขณะเดียวกันในขณะเดียวกันหากหากเทียบกับไตรมาสก่อนเทียบกับไตรมาสก่อน พบว่าดัชนีผลผลิตเส้นใยสิ่งทอขยายตัวเช่นกัน จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นทั้งในและพบว่าดัชนีผลผลิตเส้นใยสิ่งทอขยายตัวเช่นกัน จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย และมีคุณสมบัติพิเศษ ในขณะที่ดัชนีการผลิตผ้าผืนและเสื้อผ้าเคต่างประเทศเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย และมีคุณสมบัติพิเศษ ในขณะที่ดัชนีการผลิตผ้าผืนและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายรื่องแต่งกายยังคงหดตัวจากคำสั่งซื้อที่ลดลงจากประเทศคู่ยังคงหดตัวจากคำสั่งซื้อที่ลดลงจากประเทศคู่ค้าค้า

87.75 84.13

89.22

95.51

99.92

45.86 44.98 39.11 39.75

39.25

64.56 56.87 50.94 49.99 50.61

20

40

60

80

100

120

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม

ผลิตภัณฑ์เส้นใยสิ่งทอ ผ้าผืน เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย

-

200.00

400.00

600.00

800.00

1,000.00

1,200.00

150

350

550

750

950

1150

ล้านเหรียญฯ

มูลค่าการส่งออก นาเข้า อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม

ส่งออกลุ่มสิ่งทอ (MUSD) ส่งออกกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม (MUSD)

นาเข้ากลุ่มสิ่งทอ (MUSD) นาเข้ากลุ่มเครื่องนุ่งห่ม (MUSD)

27

อุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือน

อุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือน

ปริมาณการผลิตและจำหน่ายเครื่องเรือนทำด้วยไม้

ปริมาณการผลิตและจำหน่ายเครื่องเรือนทำด้วยไม้ในในประเทศ (ล้านชิ้น)ประเทศ (ล้านชิ้น)

ที่มา

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

มูลค่าการส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้

มูลค่าการส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้

(ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

(ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

ที่มา

ที่มา : สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์

การผลิตเครื่องเรือนทำด้วยไม้การผลิตเครื่องเรือนทำด้วยไม้ ไตรมาสไตรมาสที่ ที่ 4 ปีปี 2566 มีจำนวนมีจำนวน 1.56 ล้านชิ้น ล้านชิ้น ขยายตัวร้อยละ ขยายตัวร้อยละ 22.83 และ และ 1.30 จากไตรมาสที่ผ่านมาและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากไตรมาสที่ผ่านมาและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ เป็นผลจากการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการตามลำดับ เป็นผลจากการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศเป็นหลักของตลาดในประเทศเป็นหลัก

?

การจำหน่ายเครื่องเรือนทำด้วยไม้ในประเทศการจำหน่ายเครื่องเรือนทำด้วยไม้ในประเทศ ไตรมาสไตรมาสที่ ที่ 4 ปีปี 2566 มีจำนวน มีจำนวน 0.23 ล้านชิ้นล้านชิ้น ขยายตัวขยายตัว ร้อยละ ร้อยละ 35.29 และ และ 43.75 จากไตรมาสที่ผ่านมาและจากไตรมาสที่ผ่านมาและ ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ เป็นผลไตรมาสเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ เป็นผลจากจากคำสั่งซื้อคำสั่งซื้อของร้านค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นของร้านค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น

การส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้การส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ไตรมาสไตรมาสที่ที่ 4 ปี ปี 2566 มีมูลค่ารวม มีมูลค่ารวม 1,128.74 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ ร้อยละ 3.93 และ และ 16.25 จากไตรมาสที่ผ่านมาจากไตรมาสที่ผ่านมาและไตรมาสเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ แบ่งเป็นและไตรมาสเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ แบ่งเป็น เครื่องเรือนและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ไม้ และไม้และเครื่องเรือนและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ไม้ และไม้และผลิตภัณฑ์แผ่นไม้ผลิตภัณฑ์แผ่นไม้ มีมูลค่า มีมูลค่า 258.23 37.31 และ และ 833.19ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับ โดยโดยหากหากเทียบกับไตรมาสเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเดียวกันของปีก่อน พบว่า พบว่า มูลค่าการส่งออกเครื่องเรือนมูลค่าการส่งออกเครื่องเรือน และชิ้นส่วนและชิ้นส่วนลดลงลดลงร้อยละร้อยละ 4.31 ขณะที่ขณะที่มูลค่าการส่งออกมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้ผลิตภัณฑ์ไม้ และและไม้และผลิตภัณฑ์แผ่นไม้ไม้และผลิตภัณฑ์แผ่นไม้เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นร้อยละร้อยละ 6.93 และ และ 25.06 ตามลำดับ ในภาพรวมมูลค่าตามลำดับ ในภาพรวมมูลค่าการส่งออกการส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 เป็นผลจากอุปสงค์ความต้องการสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เป็นผลจากอุปสงค์ความต้องการสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้ และไม้และผลิตภัณฑ์แผ่นไม้ ของประเทศไม้ และไม้และผลิตภัณฑ์แผ่นไม้ ของประเทศคู่ค้าสำคัญคู่ค้าสำคัญเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะความต้องการไม้แปรรูปในตลาดจีนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะความต้องการไม้แปรรูปในตลาดจีน

แนวโน้มอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือน ไตรมาสที่

แนวโน้มอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือน ไตรมาสที่ 11 ของปี ของปี 25677

ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 1 ปี ปี 2567 คาดการณ์ได้ว่าคาดการณ์ได้ว่า ปริมาณปริมาณการผลิตการผลิตและการจำหน่ายเละการจำหน่ายเครื่องเรือนทำด้วยไม้ครื่องเรือนทำด้วยไม้ในประเทศในประเทศ จะกลับมาขยายตัว จากแนวโน้มความต้องการเครื่องเรือนทำด้วยไม้ในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี จะกลับมาขยายตัว จากแนวโน้มความต้องการเครื่องเรือนทำด้วยไม้ในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 ในส่วนของการส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ในส่วนของการส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้คาดการณ์ได้ว่าคาดการณ์ได้ว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากอุปสงค์ความต้องการของจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากอุปสงค์ความต้องการของ ประเทศคู่ค้าสำคัญที่ขยายตัวโดยเฉพาะความต้องการสินค้าในกลุ่มประเทศคู่ค้าสำคัญที่ขยายตัวโดยเฉพาะความต้องการสินค้าในกลุ่มไม้และผลิตภัณฑ์แผ่นไม้ไม้และผลิตภัณฑ์แผ่นไม้

1.56

0.23

-

0.05

0.10

0.15

0.20

0.25

-

0.50

1.00

1.50

2.00

2.50

3.00

Q4 2022 Q1 2023 Q2 2023 Q3 2023 Q4 2023

การผลิต การจาหน่ายในประเทศ

970.98 1,067.69 1,063.34 1,086.08

1,128.74

0

200

400

600

800

1,000

1,200

1,400

Q4 2022 Q1 2023 Q2 2023 Q3 2023 Q4 2023

เครื่องเรือนและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ไม้

ไม้และผลิตภัณฑ์แผ่นไม้ มูลค่ารวม

เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การผลิตเครื่องเรือนทำด้วยไม้ไตรมาสที่

เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การผลิตเครื่องเรือนทำด้วยไม้ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 มีปริมาณมีปริมาณเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นจากจากการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศ ขณะที่มูลค่าการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศ ขณะที่มูลค่าการส่งออกไม้และการส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์แผ่นไม้ผลิตภัณฑ์แผ่นไม้ในภาพรวมในภาพรวมมีมูลค่ามีมูลค่าเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น จากความต้องการสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้ และไม้และจากความต้องการสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้ และไม้และผลิตภัณฑ์แผ่นไม้ ของประเทศคู่ค้าสำคัญที่เพิ่มขึ้นผลิตภัณฑ์แผ่นไม้ ของประเทศคู่ค้าสำคัญที่เพิ่มขึ้น

28

อุตสาหกรรมยา

อุตสาหกรรมยา

ปริมาณการผลิตและจำหน่ายยาในประเทศ (ตัน)

ปริมาณการผลิตและจำหน่ายยาในประเทศ (ตัน)

ที่มา

ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

หมายเหตุ: ปรับปรุงกรอบข้อมูลการสำรวจจากปี

หมายเหตุ: ปรับปรุงกรอบข้อมูลการสำรวจจากปี 25666

มูลค่าการส่งออก

มูลค่าการส่งออก--นำเข้ายา (ล้านเหรียญสหรัฐฯ)นำเข้ายา (ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

ที่มา

ที่มา: กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากรกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร

หมายเหตุ: ปรับเพิ่มฐานข้อมูลส่งออก

หมายเหตุ: ปรับเพิ่มฐานข้อมูลส่งออก--นำเข้า โดยใช้ นำเข้า โดยใช้ HS3001 3002 3003 30043001 3002 3003 3004

การผลิตยา การผลิตยา ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 44 ปี 2566 มีปริมาณปี 2566 มีปริมาณ 1111,064064..0202 ตัน ตัน ลดลงลดลง ร้อยละ ร้อยละ 1414..30 30 เมื่อเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากการจากการหดหดตัวของการผลิตตัวของการผลิตยาครีม ยาฉีด ยาผง ยาครีม ยาฉีด ยาผง ยาน้ำ ยาน้ำ และและยาเม็ดยาเม็ด ซึ่งมีปริมาณซึ่งมีปริมาณลดลงลดลง ร้อยละ ร้อยละ 29.13 26.31 16.99 16.3729.13 26.31 16.99 16.37 และ และ 9.029.02 ตามลำดับ ตามลำดับ ในขณะที่ในขณะที่การผลิตการผลิตยาแคปซูลยาแคปซูลมีปริมาณมีปริมาณเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น ร้อยละร้อยละ 6.02 ซึ่งเป็นไป6.02 ซึ่งเป็นไปตามตามปริมาณปริมาณคำสั่งซื้อจากร้านขายยาและคำสั่งซื้อจากร้านขายยาและโรงพยาบาลโรงพยาบาล

การจำหน่ายยาการจำหน่ายยาในประเทศในประเทศ ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 44 ปี 2566 มีปริมาณ ปี 2566 มีปริมาณ 9,926.469,926.46 ตัน ตัน ลดลงลดลง ร้อยละ ร้อยละ 99..0505 เมื่อเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากการของปีก่อน จากการหดหดตัวของการจำหน่ายตัวของการจำหน่ายยาผง ยาฉีด ยาผง ยาฉีด ยาครีม ยาครีม ยาเม็ดยาเม็ด และและยายาน้ำ ที่น้ำ ที่มีปริมาณมีปริมาณลดลงลดลง ร้อยละ ร้อยละ 26.07 24.05 13.81 26.07 24.05 13.81 10.41 และ 7.16 ตามลำดับ ในขณะที่การจำหน่ายยาแคปซูล 10.41 และ 7.16 ตามลำดับ ในขณะที่การจำหน่ายยาแคปซูล ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 28.16 ซึ่งเป็นไปปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 28.16 ซึ่งเป็นไปตามตามทิศทางทิศทางความต้องการความต้องการใช้ยาเพื่อรักษาโรคใช้ยาเพื่อรักษาโรค

การส่งออกยา การส่งออกยา ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 44 ปี 2566 มีมูลค่า 1ปี 2566 มีมูลค่า 12121..7070 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง ลดลง ร้อยละร้อยละ 55..1515 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ตามแนวโน้มความต้องการที่เดียวกันของปีก่อน ตามแนวโน้มความต้องการที่หดหดตัวของตัวของ ตลาดสำคัญ โดยเฉพาะประเทศตลาดสำคัญ โดยเฉพาะประเทศในในกลุ่มอาเซียนและสหรัฐอเมริกากลุ่มอาเซียนและสหรัฐอเมริกา

การนำเข้ายา การนำเข้ายา ไตไตรมาสที่ รมาสที่ 44 ปี 2566 มีมูลค่า ปี 2566 มีมูลค่า 701701..2323 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงลดลงร้อยละ ร้อยละ 99..77 77 เมื่อเมื่อเทียบกับไตรมาสเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเดียวกันของปีก่อน ตามความต้องการใช้ยาในประเทศที่ปรับตัวตามความต้องการใช้ยาในประเทศที่ปรับตัวลดลงลดลง โดยเป็นการโดยเป็นการหดหดตัวของการนำเข้ายาจากแหล่งประเทศตัวของการนำเข้ายาจากแหล่งประเทศ ในภูมิภาคเอเชียและในภูมิภาคเอเชียและยุโรป เช่น ยุโรป เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ไอร์แลนด์ สเปนสิงคโปร์ ญี่ปุ่น ไอร์แลนด์ สเปน

แนวโน้มอุตสาหกรรม

แนวโน้มอุตสาหกรรมยายา ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 11 ของปีของปี 25677

ในไตรมาสที่ ในไตรมาสที่ 11 ของปี 256ของปี 25677 คาดว่าปริมาณการผลิตและการจำหน่ายยาในประเทศ จะมีแนวโน้มคาดว่าปริมาณการผลิตและการจำหน่ายยาในประเทศ จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ตามเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ตามแนวโน้มคำสั่งซื้อและแนวโน้มคำสั่งซื้อและความต้องการใช้ยาเพื่อรักษาโรคความต้องการใช้ยาเพื่อรักษาโรคที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น ตามสถานการณ์โรคระบาดในฤดูหนาวและสถานการณ์ฝุ่น ตามสถานการณ์โรคระบาดในฤดูหนาวและสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งจะส่งผลให้โรคติดต่อทางเดินซึ่งจะส่งผลให้โรคติดต่อทางเดินหายใจ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ โรคโควิดหายใจ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ โรคโควิด--19 และโรคภูมิแพ้ มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น 19 และโรคภูมิแพ้ มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น สำหรับทิศทางการส่งออกคาดว่าจะมีแนวโน้มสำหรับทิศทางการส่งออกคาดว่าจะมีแนวโน้ม การขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากการขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังมียังมีความต้องการของตลาดหลัก ความต้องการของตลาดหลัก อาทิ สหรัฐอเมริกา ประเทศในกลุ่มอาเซียน เป็นต้นอาทิ สหรัฐอเมริกา ประเทศในกลุ่มอาเซียน เป็นต้น

ใน

ในไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 25666 ปริมาณการผลิตปริมาณการผลิตและการและการจำหน่ายยาในประเทศจำหน่ายยาในประเทศมีแนวโน้มลดลง เมื่อเทียบกับมีแนวโน้มลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันไตรมาสเดียวกัน ของปีก่อนของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามปริมาณซึ่งเป็นไปตามปริมาณคำสั่งซื้อและความต้องการใช้ยาเพื่อรักษาโรค คำสั่งซื้อและความต้องการใช้ยาเพื่อรักษาโรค สำหรับสำหรับการส่งออกการส่งออกที่ที่มีทิศทางมีทิศทางลดลง ส่วนหนึ่งลดลง ส่วนหนึ่ง เป็นผลเป็นผลมามาจากจากแนวโน้มความต้องการที่ลดลงของตลาดสำคัญ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียนและสหรัฐอเมริกาแนวโน้มความต้องการที่ลดลงของตลาดสำคัญ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียนและสหรัฐอเมริกา

29

อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง

อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง

ปริมาณการผลิต

ปริมาณการผลิตยางแปรรูปขั้นปฐม ยางแปรรูปขั้นปฐม ยายางรถยนต์ และงรถยนต์ และ ถุงมือยาง ถุงมือยาง

ที่มา

ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

มูลค่าการส่งออกยางแปรรูปขั้นปฐม ยางรถยนต์ และถุง

มูลค่าการส่งออกยางแปรรูปขั้นปฐม ยางรถยนต์ และถุงมือยาง (ล้านเหรียญสหรัฐฯ)มือยาง (ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

ที่มา

ที่มา: กระทรวงพาณิชย์กระทรวงพาณิชย์

การผลิตการผลิตยางแปรรูปขั้นปฐม ยางรถยนต์ และถุงมือยางยางแปรรูปขั้นปฐม ยางรถยนต์ และถุงมือยาง ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 มีจำนวน มีจำนวน 0.46 ล้านตัน ล้านตัน 15.59 ล้านเส้นล้านเส้น และ และ 8,046.69 ล้านชิ้น ตามลำดับ โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสล้านชิ้น ตามลำดับ โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การผลิตยางแปรรูปขั้นปฐมมีปริมาณเพิ่มขึ้น เดียวกันของปีก่อน การผลิตยางแปรรูปขั้นปฐมมีปริมาณเพิ่มขึ้น ร้อยละร้อยละ 1.2929 จากการเพิ่มขึ้นของการผลิตน้ำยางข้น การผลิตจากการเพิ่มขึ้นของการผลิตน้ำยางข้น การผลิตยางรถยนต์มีปริมาณลดลง ร้อยละ ยางรถยนต์มีปริมาณลดลง ร้อยละ 5.23 จากการลดลงของจากการลดลงของ การผลิตยางรถยนต์นั่ง ยางรถกระบะ ยางรถบรรทุกและการผลิตยางรถยนต์นั่ง ยางรถกระบะ ยางรถบรรทุกและ รถโดยสารรถโดยสาร และยางรถแทรกเตอร์และยางรถแทรกเตอร์ ขณะที่การผลิตถุงมือยางขณะที่การผลิตถุงมือยาง มีปริมาณเพิ่มขึ้นมีปริมาณเพิ่มขึ้น ร้อยละ ร้อยละ 23.46 จากความต้องการถุงมือยางจากความต้องการถุงมือยาง ในประเทศเป็นหลักในประเทศเป็นหลัก

การจำหน่ายการจำหน่ายยางแปรรูปขั้นปฐม ยางรถยนต์ และถุงมือยางยางแปรรูปขั้นปฐม ยางรถยนต์ และถุงมือยาง ในประเทศในประเทศ ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 มีจำนวน มีจำนวน 0.13 ล้านตัน ล้านตัน 5.99 ล้านเส้นล้านเส้น และ และ 692.41 ล้านชิ้น ตามลำดับล้านชิ้น ตามลำดับ โดยเมื่อเทียบกับโดยเมื่อเทียบกับ ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การจำหน่ายยางแปรรูปขั้นปฐมไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การจำหน่ายยางแปรรูปขั้นปฐม มีปริมาณเพิ่มขึ้น ร้อยละ มีปริมาณเพิ่มขึ้น ร้อยละ 17.52 จากความต้องการของจากความต้องการของอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่อุตสาหกรรมต่อเนื่องที่เพิ่มขึ้น การจำหน่ายยางรถยนต์เพิ่มขึ้น การจำหน่ายยางรถยนต์ มีปริมาณลดลงมีปริมาณลดลง ร้อยละ ร้อยละ 41.02 จากการชะลอตัวของจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ และตลาด อุตสาหกรรมรถยนต์ และตลาด REM (Replacement Equipment Manufacturing) ขณะที่การจำหน่ายถุงมือยางขณะที่การจำหน่ายถุงมือยาง มีปริมาณเพิ่มขึ้น ร้อยละ มีปริมาณเพิ่มขึ้น ร้อยละ 211.6969 จากความต้องการใช้ถุงมือยางจากความต้องการใช้ถุงมือยางทางการแพทย์ที่อยู่ในระดับสูงทางการแพทย์ที่อยู่ในระดับสูง

การส่งออกการส่งออกยางแปรรูปขั้นปฐม ยางรถยนต์ และถุงมือยางยางแปรรูปขั้นปฐม ยางรถยนต์ และถุงมือยาง ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 มีมีมูลค่ามูลค่า 1,005.99 1,860.34 และและ 298.73 ล้านเหรียญสหรัฐฯล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับ โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกัน ตามลำดับ โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกัน ของปีก่อน การส่งออกยางแปรรูปขั้นปฐมของปีก่อน การส่งออกยางแปรรูปขั้นปฐม และยางรถยนต์ และยางรถยนต์ เพิ่มขึ้นร้อยละ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.00 และ และ 24.26 จากการขยายตัวที่ดีจากการขยายตัวที่ดี ของการส่งออกไปตลาดสำคัญ ขณะที่การส่งออกถุงมือยางลดลง ของการส่งออกไปตลาดสำคัญ ขณะที่การส่งออกถุงมือยางลดลง ร้อยละ ร้อยละ 6.81 จากอุปสงค์ความต้องการของตลาดโลกที่ลดลงจากอุปสงค์ความต้องการของตลาดโลกที่ลดลงจากช่วงที่ผ่านมาจากช่วงที่ผ่านมา

แนวโน้มอุตสาหกรรม

แนวโน้มอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางยางและผลิตภัณฑ์ยาง ไตรมาสที่ไตรมาสที่ 1 ของปีของปี 2567

ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 1 ปี ปี 2567 คาดการณ์ได้ว่า ปริมาณการผลิตยางแปรรูปขั้นปฐมคาดการณ์ได้ว่า ปริมาณการผลิตยางแปรรูปขั้นปฐม (ยางแผ่น ยางแท่ง และน้ำยางข้นยางแผ่น ยางแท่ง และน้ำยางข้น) ยางรถยนต์ และยางรถยนต์ และถุงมือยาง จะขยายตัว ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ โดยยางแปรรูปขั้นปฐมจะขยายตัวจากความต้องการของอุตสาหกรรมต่อเนื่องทั้งในประเทศและถุงมือยาง จะขยายตัว ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ โดยยางแปรรูปขั้นปฐมจะขยายตัวจากความต้องการของอุตสาหกรรมต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยางรถยนต์จะขยายตัวจากแนวโน้มความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดสำคัญ อาทิ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ต่างประเทศ ยางรถยนต์จะขยายตัวจากแนวโน้มความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดสำคัญ อาทิ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ขณะที่ถุงมืขณะที่ถุงมือยางจะขยายตัวจากการผลิตเพื่อตอบสนองอุปสงค์ความต้องการของตลาดในประเทศเป็นหลัก อยางจะขยายตัวจากการผลิตเพื่อตอบสนองอุปสงค์ความต้องการของตลาดในประเทศเป็นหลัก

15.59

8.04

0.46

-

0.10

0.20

0.30

0.40

0.50

0.60

-

3.00

6.00

9.00

12.00

15.00

18.00

21.00

24.00

Q4 2022 Q1 2023 Q2 2023 Q3 2023 Q4 2023

ยางรถยนต์ (ล้านเส้น) ถุงมือยาง (พันล้านชิ้น)

ยางแปรรูปขั นปฐม (ลา นตนั )

1,005.99

1,860.34

298.73

0

500

1,000

1,500

2,000

Q4 2022 Q1 2023 Q2 2023 Q3 2023 Q4 2023

ลา นเหรียญสหรัฐฯ

ยางแปรรูปขั นปฐม ยางรถยนต ถุงมือยาง

ไตรมาสที่

ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 การผลิตยางแปรรูปขั้นปฐมมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากความต้องการของอุตสาหกรรมต่อเนื่องการผลิตยางแปรรูปขั้นปฐมมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากความต้องการของอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น การผลิตยางรถยนต์มีปริมาณลดลงจากการชะลอตัวของตลาดในประเทศเป็นหลัก ขณะที่ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น การผลิตยางรถยนต์มีปริมาณลดลงจากการชะลอตัวของตลาดในประเทศเป็นหลัก ขณะที่การผลิตถุงมือยางมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้ถุงมือยางทางการแพทย์ในประเทศที่อยู่ในระดับสูงการผลิตถุงมือยางมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้ถุงมือยางทางการแพทย์ในประเทศที่อยู่ในระดับสูง

30

อุ

อุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนัง

การผลิต การส่งออก การนำเข้า (ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

การผลิต การส่งออก การนำเข้า (ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

ที่มา

ที่มา : 1. ดัชนีผลผลิต , ดัชนีการส่งสินค้า ดัชนีผลผลิต , ดัชนีการส่งสินค้า ? สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

2. มูลค่าการส่งออก การนำเข้า มูลค่าการส่งออก การนำเข้า ? กระทรวงพาณิชย์กระทรวงพาณิชย์

การผลิตการผลิต ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 เมื่อไตรมาสที่ 4 ปี 2566 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (ของปีก่อน (YoY) การฟอกและตกแต่งหนังฟอก มีการผลิตลดลง) การฟอกและตกแต่งหนังฟอก มีการผลิตลดลงร้อยละ 16.94 จากความต้องการของตลาดต่างประเทศร้อยละ 16.94 จากความต้องการของตลาดต่างประเทศ ที่ลดลง ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ที่ลดลง ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและหลักคุณธรรมจริยธรรม โดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและหลักคุณธรรมจริยธรรม โดยหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ทางเลือกอื่น ๆ เพื่อทดแทนการใช้หนังสัตว์ โดยหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ทางเลือกอื่น ๆ เพื่อทดแทนการใช้หนังสัตว์ หรือวัสดุที่ใช้ทดแทนเครื่องหนังแบบดั้งเดิม เช่นเดียวกับการผลิตหรือวัสดุที่ใช้ทดแทนเครื่องหนังแบบดั้งเดิม เช่นเดียวกับการผลิตกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือ ลดลงร้อยละ 33.11 เนื่องจากกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือ ลดลงร้อยละ 33.11 เนื่องจาก การบริโภคภายในประเทศที่ลดลงจากปัญหาความไม่แน่นอนการบริโภคภายในประเทศที่ลดลงจากปัญหาความไม่แน่นอน ทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค ส่วนการผลิตทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค ส่วนการผลิตรองเท้ารองเท้า ลดลงร้อยละ 34.41 เป็นผลมาจากผู้บริโภคหันมาลดลงร้อยละ 34.41 เป็นผลมาจากผู้บริโภคหันมา ซื้อรองเท้านำเข้าจากจีนซึ่งมีราคาถูกกว่าการผลิตภายในประเทศซื้อรองเท้านำเข้าจากจีนซึ่งมีราคาถูกกว่าการผลิตภายในประเทศ

การส่งออกการส่งออก-นำเข้านำเข้า การส่งออกการส่งออก ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 เมื่อไตรมาสที่ 4 ปี 2566 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) มูลค่าการส่งออกหนัง) มูลค่าการส่งออกหนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ลดลงร้อยละ 2.27 เป็นผลและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัด ลดลงร้อยละ 2.27 เป็นผลจากความต้องการที่ลดลงของตลาดจีน อินเดีย และสหรัฐอเมริกา จากความต้องการที่ลดลงของตลาดจีน อินเดีย และสหรัฐอเมริกา การส่งออกรองเท้าและชิ้นส่วน ลดลงร้อยละ 16.88 จากการส่งออกรองเท้าและชิ้นส่วน ลดลงร้อยละ 16.88 จาก การส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศที่ลดลง อาทิ สหรัฐอเมริกา การส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศที่ลดลง อาทิ สหรัฐอเมริกา เมียนมา และอินเดีย สำหรับเครื่องใช้สำหรับเดินทาง เมียนมา และอินเดีย สำหรับเครื่องใช้สำหรับเดินทาง มีการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.45 จากคำสั่งซื้อของประเทศคู่ค้ามีการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.45 จากคำสั่งซื้อของประเทศคู่ค้า ที่เพิ่มขึ้น ที่เพิ่มขึ้น อย่างอย่างจีน สวิตเซอร์แลนด์ และญี่ปุ่นจีน สวิตเซอร์แลนด์ และญี่ปุ่น

การนำเข้าการนำเข้า ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 เมื่อไตรมาสที่ 4 ปี 2566 เมื่อเทียบกับไตรมาสเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (เดียวกันของปีก่อน (YoY) มูลค่าการนำเข้าหนังดิบและหนังฟอก ) มูลค่าการนำเข้าหนังดิบและหนังฟอก และกระเป๋า ลดลงร้อยละ 24.63 และ 4.99 ตามลำดับ และกระเป๋า ลดลงร้อยละ 24.63 และ 4.99 ตามลำดับ ส่วนมูลค่าการนำเข้ารองเท้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.61 จากพฤติกรรมส่วนมูลค่าการนำเข้ารองเท้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.61 จากพฤติกรรม ของผู้บริโภคภายในประเทศที่เปลี่ยนแปลงจากความไม่แน่นอนของผู้บริโภคภายในประเทศที่เปลี่ยนแปลงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทางเศรษฐกิจ จึงหันมาเลือกซื้อรองเท้าราคาถูกจึงหันมาเลือกซื้อรองเท้าราคาถูกที่ที่นำเข้าจากจีนนำเข้าจากจีน

ไตรมาส

ไตรมาสที่ 4ที่ 4 ปี 2566ปี 2566 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การฟอกและตกแต่งหนังฟอกเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การฟอกและตกแต่งหนังฟอก การผลิตกระเป๋าการผลิตกระเป๋าเดินทาง เดินทาง กระเป๋าถือ และการผลิตรองเท้ากระเป๋าถือ และการผลิตรองเท้า ปรับตัวปรับตัวลดลง เนื่องจากลดลง เนื่องจากความต้องการของตลาดต่างประเทศและการบริโภคภายในประเทศที่ความต้องการของตลาดต่างประเทศและการบริโภคภายในประเทศที่ลดลง ลดลง จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น อีกทั้ง อีกทั้ง ยังต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งยังต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ สร้างแรงกดดันต่อต้นทุนการผลิต รวมทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ส่งผลต่อทางภูมิรัฐศาสตร์ สร้างแรงกดดันต่อต้นทุนการผลิต รวมทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ส่งผลต่อการชะลอตัวการชะลอตัว ของของเศรษฐกิจทั่วโลกเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ลดลง

แนวโน้มอุตสาหก

แนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้า ไตรมาสรรมเครื่องหนังและรองเท้า ไตรมาส 11 ปีปี 25677

การผลิตเครื่องหนังและรองเท้า ไตรมาสที่

การผลิตเครื่องหนังและรองเท้า ไตรมาสที่ 11 ปี 256ปี 25677 เมื่อเมื่อเทียบกับเทียบกับไตรมาสเดียวกันของไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การฟอกและตกแต่งหนังฟอก ปีก่อน การฟอกและตกแต่งหนังฟอก การผลิตกระเป๋า และรองเท้า คาดว่าจะการผลิตกระเป๋า และรองเท้า คาดว่าจะปรับตัวลดลง เนื่องปรับตัวลดลง เนื่องจากการจากการส่งออกไปยังส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศตลาดต่างประเทศ และการจำหน่ายภายในประเทศที่และการจำหน่ายภายในประเทศที่ลดลง ลดลง ตามภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ฟื้นตัวช้า ตามภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ฟื้นตัวช้า อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งซึ่งสร้างแรงกดดันต่อต้นทุนสร้างแรงกดดันต่อต้นทุน การผลิตการผลิต รวมทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น รวมทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ส่งผลส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและเศรษฐกิจทั่วโลก กระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและเศรษฐกิจทั่วโลก อีกทั้ง อีกทั้ง ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นเรื่องสำคัญซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะกับโดยเฉพาะกับประเทศประเทศคู่ค้าที่ให้ความสำคัญเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นอันดัคู่ค้าที่ให้ความสำคัญเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรกบแรก ผู้ประกอบการผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังต้องเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีในด้านต่างต้องเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเลือกใช้เทคโนโลยีเพื่อให้ได้ผลผลิตมากขึ้น และๆ รวมถึงการเลือกใช้เทคโนโลยีเพื่อให้ได้ผลผลิตมากขึ้น และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้นอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการได้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการได้

97.23

116.55

92.54

92.31

80.76

88.05

81.45

69.61 68.14

58.90

90.84 86.33

72.98

73.63

59.58

40

60

80

100

120

140

160

Q4/2565 Q1/2566 Q2/2566 Q3/2566 Q4/2566

ดัชนีผลผลิต

การฟอกและตกแต่งหนังฟอก การผลิตกระเป๋ เดินทาง การผลิตรองเทา

152.32

153.71

166.09

186.61

160.63

219.87 228.33 224.66 207.43 208.89

161.90

149.71 153.26

137.40 134.57

171.73

193.46 196.19

180.78

175.78 188.46 184.80

158.45

171.13

171.79

208.79

191.65

212.01 225.26

157.35

0

50

100

150

200

250

Q4/2565 Q1/2566 Q2/2566 Q3/2566 Q4/2566

มูลค่าการส่งออก การนาเขา

การส่งออก เครื่องใชส้ หรับเดนิ ทาง การนาเขา กระเป๋

การส่งออก รองเทา และชนิ้ ส่วน การนาเขา รองเทา

การส่งออก หนังและผลติ ภัณฑห์ นังฟอกฯ การนาเขา หนังดบิ และหนังฟอก

31

อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ

อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ

การผลิต การจำหน่าย และการส่งออก

การผลิต การจำหน่าย และการส่งออก

ที่มา

ที่มา : 1. ดัชนีผลผลิต , ดัชนีการส่งสินค้า ดัชนีผลผลิต , ดัชนีการส่งสินค้า ? สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

2. มูลค่าการส่งออก การนำเข้า มูลค่าการส่งออก การนำเข้า ? กระทรวงพาณิชย์กระทรวงพาณิชย์

การผลิตการผลิต การผลิตอัญการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับในภาพรวม ไตรมาสมณีและเครื่องประดับในภาพรวม ไตรมาสที่ ที่ 44 ปี ปี 25662566 เมื่อเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ ร้อยละ 14.6114.61 จากเครื่องประดับแท้ จากเครื่องประดับแท้ และและเครื่องประดับเทียมเครื่องประดับเทียม เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ ร้อยละ 16.66 และ 12.23 16.66 และ 12.23 เพื่อส่งออกตามความต้องการของตลาดเพื่อส่งออกตามความต้องการของตลาดสหรัฐอเมริกา เยอรมนี อินเดีย ฮ่องกง และเบลเยียม และการจำหน่ายสหรัฐอเมริกา เยอรมนี อินเดีย ฮ่องกง และเบลเยียม และการจำหน่ายภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น สำหรับการผลิตเพชร ลดลงร้อยละ 39.77 ภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น สำหรับการผลิตเพชร ลดลงร้อยละ 39.77 เนื่องจากความต้องการสินค้าทั้งภายในประเทศและต่างประเทศที่ลดลงเนื่องจากความต้องการสินค้าทั้งภายในประเทศและต่างประเทศที่ลดลง

การจำหน่ายการจำหน่าย การจำหน่ายอัญมณีและเครื่องประดับในการจำหน่ายอัญมณีและเครื่องประดับใน ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 เมื่อไตรมาสที่ 4 ปี 2566 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ ร้อยละ 114.94.922 จากเครื่องประดับแท้ และจากเครื่องประดับแท้ และเครื่องประดับเทียม เครื่องประดับเทียม เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ ร้อยละ 15.6915.69 และ และ 12.9212.92 เป็นผลเป็นผล จากการเข้าสู่ช่วงเทศกาลจับจ่ายปลายปีจากการเข้าสู่ช่วงเทศกาลจับจ่ายปลายปี ประกอบกับประกอบกับ ภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการสินค้าเพิ่มมากขึ้น ส่วนเพชรมีการจำหน่าย ลดลงร้อยละ 14.78 สินค้าเพิ่มมากขึ้น ส่วนเพชรมีการจำหน่าย ลดลงร้อยละ 14.78 เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันหันมานิยมเพชรเนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันหันมานิยมเพชรสังเคราะห์ที่มีราคาไม่สูงมากนัก สังเคราะห์ที่มีราคาไม่สูงมากนัก

การส่งออกการส่งออก อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำอัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำยังไม่ได้ยังไม่ได้ ขึ้นรูปขึ้นรูป) ไตรมาสที่) ไตรมาสที่ 4 4 ปี ปี 25662566 เมื่อเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) มีมูลค่ารวม มีมูลค่ารวม 2,013.052,013.05 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.066.06 จากมูลค่าการส่งออกพลอยจากมูลค่าการส่งออกพลอย เครื่องประดับแท้ เครื่องประดับแท้ และเครื่องประดับเทียมและเครื่องประดับเทียม เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น ร้อยละ ร้อยละ 21.54 12.51 และ 7.3321.54 12.51 และ 7.33 ตามลำดับ เป็นผลจากตามลำดับ เป็นผลจาก หลายประเทศมีการจัดงานแสดงสินค้า อัญมณีและเครื่องประดับหลายประเทศมีการจัดงานแสดงสินค้า อัญมณีและเครื่องประดับ ที่ช่วยกระตุ้นยอดซื้อ และความต้องการช่วงเทศกาลจับจ่ายปลายปี ที่ช่วยกระตุ้นยอดซื้อ และความต้องการช่วงเทศกาลจับจ่ายปลายปี ส่วนส่วนมูลค่าการส่งออกมูลค่าการส่งออกเพชรเพชร ลดลงร้อยละ ลดลงร้อยละ 28.17 ห28.17 หากพิจารณากพิจารณา การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับในภาพรวม มีมูลค่ารวการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับในภาพรวม มีมูลค่ารวม 3,507.64 ม 3,507.64 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ ร้อยละ 32.6232.62 จากการส่งออกไปยังตลาดจากการส่งออกไปยังตลาดสวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ สำหรับสวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ สำหรับมูลค่าการส่งออกมูลค่าการส่งออกทองคำยังไม่ขึ้นรูปทองคำยังไม่ขึ้นรูป มีมูลค่า มีมูลค่า 1,494.13 1,494.13 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น จากปีก่อนคิดเป็นจากปีก่อนคิดเป็นร้อยละ ร้อยละ 100.18100.18 จากการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าจากการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้า ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ และกัมพูชา เป็นผลจากสวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ และกัมพูชา เป็นผลจาก นักลงทุนและธนาคารกลางทั่วโลกเข้าถือครองทองคำเพื่อลดความเสี่ยงนักลงทุนและธนาคารกลางทั่วโลกเข้าถือครองทองคำเพื่อลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ประกอบกับจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ประกอบกับ ความต้องการของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลจับจ่ายท้ายปี ความต้องการของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลจับจ่ายท้ายปี

แนวโน้มอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ไตรมาส

แนวโน้มอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ไตรมาส 11 ปีปี 25677

การผลิตและส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับในภาพรวม ไตรมาสการผลิตและส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับในภาพรวม ไตรมาสที่ 1 ปี 2567ที่ 1 ปี 2567 คาดว่าจะมีแนวโน้มขยายตัวคาดว่าจะมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกไปยังประเทศคู่สำคัญ และภาคการส่งออกไปยังประเทศคู่สำคัญ และภาคการท่องเที่ยท่องเที่ยวกลับมาคึกคักมากขึ้น ประกอบกับหลายประเทศกลับมาจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีวกลับมาคึกคักมากขึ้น ประกอบกับหลายประเทศกลับมาจัดงานแสดงสินค้าอัญมณี และเครื่องประและเครื่องประดับเพื่อกระตุ้นการบริโภคของประชาดับเพื่อกระตุ้นการบริโภคของประชาชน ส่งผลให้ความต้องการสินค้าเพิ่มมากขึ้นชน ส่งผลให้ความต้องการสินค้าเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งอย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้ง ทางภูมิรัฐศาสตร์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงยืดเยื้อและขยายเป็นวงกว้างที่ยังคงยืดเยื้อและขยายเป็นวงกว้าง และจากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้าและจากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้า อีกทั้ง อีกทั้ง ความผันผวนความผันผวน จากค่าพลังงานและการขนส่งสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น จากค่าพลังงานและการขนส่งสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น อาจส่งผลต่อการผลิตและการส่งออกของไทยอาจส่งผลต่อการผลิตและการส่งออกของไทยในระยะต่อไป ในระยะต่อไป

ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การผลิต การจำหน่าย และการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับภาพรวมขยายตัว ซึ่งเป็นผลจากความต้องการของตลาดประเทศคู่ค้าที่เพิ่มมากขึ้น จากการเข้าสู่ช่วงเทศกาลจับจ่ายท้ายปี ประกอบกับภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องทั้งนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงยืดเยื้อและขยายเป็นวงกว้าง และจากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้า อีกทั้ง ความผันผวนจากค่าพลังงานและการขนส่งสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น อาจส่งผลต่อการผลิตและ การส่งออกของไทยในระยะต่อไป 71.85

77.02 77.19

87.42

82.36

74.17

79.12 78.94

91.26

85.24

40.00

60.00

80.00

100.00

Q4/65 Q1/66 Q2/66 Q3/66 Q4/66

ดัชนีการผลิต ดัชนีการส่งสินค้า

1,899

2,343

2,006

2,445

2,014

2,645

4,252

3,260

3,767

3,508

1,000

2,000

3,000

4,000

5,000

6,000

Q4/65 Q1/66 Q2/66 Q3/66 Q4/66

มูลค่าการส่งออก

(หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

ไม่รวมทองคา รวมทองคา

32

0

20

40

60

80

100

120

140

0

10,000

20,000

30,000

40,000

50,000

60,000

70,000

80,000

4Q25631Q25642Q25643Q25644Q25641Q25652Q25653Q2565

ดัช นีผ ล ผ ลิต จา ห น่า ย ส่ง ออก แล นา เ ข้า อุต ส ห ก ร ร ม

อา ห ร ไ ต ร ม ส 3 ปี 2 5 6 5

ส่งออก (มูลค่า : ล้านเหรียญสฐฯ) นา เข้า (มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัจา หน่าย (ปริมาณ : พันตัน) ดัชนีผลผลิต (MPI)

ปริมาณจำหน่าย

ปริมาณจาหน่าย((พันตันพันตั) )

ดัชนีผลผลิต

ดัชนีผลผลิต(MPI)

อุตสาหกรรมอาหารอาหาร

ดัชนีผลผลิต

ดัชนีผลผลิต จำหน่าย ส่งออก และจำหน่าย ส่งออก และนำเข้าอุตสาหกรรมอาหารนำเข้าอุตสาหกรรมอาหาร

ที่มา :

ที่มา : ดัชนีดัชนีผลผลิตผลผลิตอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมและปริมาณจำหน่าย และปริมาณจำหน่าย รวบรวมรวบรวมจากจากสำนักงานสำนักงาน เศรษฐกิจอุตสาหกรรมเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)(สศอ.)

มูลค่าส่งออกและนำเข้า มูลค่าส่งออกและนำเข้า รวบรวมรวบรวมจากจากกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ โดยโดยการจัดกลุ่มของการจัดกลุ่มของ สศอ. สศอ.

ดัชนีผลผลิตอาหาร

ดัชนีผลผลิตอาหาร ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 อยู่ที่ระดับอยู่ที่ระดับ 96.2 ชะลอตัวร้อยละ ชะลอตัวร้อยละ 6.0 (%(%YoY)) เมื่อเทียบกับเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันไตรมาสเดียวกันของของปีก่อนปีก่อน โดยโดยผลผลิตสินค้าอาหารผลผลิตสินค้าอาหาร ที่ชะลอตัว ได้แก่ ที่ชะลอตัว ได้แก่ น้ำตาล หดตัวร้อยละน้ำตาล หดตัวร้อยละ 19.419.4 จากน้ำตาลทรายขาว หดตัวร้อยละ จากน้ำตาลทรายขาว หดตัวร้อยละ 17.0 เนื่องเนื่องจากการเร่งสต๊อคน้ำตาลทรายในช่วงไตรมาสที่ จากการเร่งสต๊อคน้ำตาลทรายในช่วงไตรมาสที่ 3 ก่อนมีการปรับเพิ่มก่อนมีการปรับเพิ่มราคาในไตรมาสที่ 4 ช่วงเดือนพฤศจิกายน รวมถึงฤดูกาลผลิตปี ราคาในไตรมาสที่ 4 ช่วงเดือนพฤศจิกายน รวมถึงฤดูกาลผลิตปี 2566/2567 เริ่มเปิดหีบช้ากว่าฤดูกาลผลิตในปีที่ผ่านมา ประกอบกับปริมาณอ้อยเข้าหีบเริ่มเปิดหีบช้ากว่าฤดูกาลผลิตในปีที่ผ่านมา ประกอบกับปริมาณอ้อยเข้าหีบ มีจำนวนลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน รองลงมาคือ ประมง หดตัวร้อยละ มีจำนวนลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน รองลงมาคือ ประมง หดตัวร้อยละ 13.8 จากจาก ทูน่ากระป๋อง หดตัวร้อยละ ทูน่ากระป๋อง หดตัวร้อยละ 22.3 เนื่องจากความเนื่องจากความต้องการบริโภคลดลงต้องการบริโภคลดลงทั้งตลาดทั้งตลาด ในประเทศแลในประเทศและต่างประเทศ ในส่วนของะต่างประเทศ ในส่วนของมันสำปะหลัง หดตัวร้อยละ มันสำปะหลัง หดตัวร้อยละ 12.6 จากจากสินค้าสำคัญคือ แป้งมันสำปะหลัง หดตัวร้อยละ สินค้าสำคัญคือ แป้งมันสำปะหลัง หดตัวร้อยละ 13.3 เนื่องจากภาวะภัยแล้ง และเนื่องจากภาวะภัยแล้ง และการระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลังในช่วงก่อนหน้า ทำให้เกษตรกรการระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลังในช่วงก่อนหน้า ทำให้เกษตรกร หันไปปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แทน ส่งผลให้พื้นที่เพาะปลูก และปริมาณผลผลิตหันไปปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แทน ส่งผลให้พื้นที่เพาะปลูก และปริมาณผลผลิต มันสำปะหลังลดลงมันสำปะหลังลดลง ผักและผลไม้แปรรูป ชะลอตัวร้อยละ ผักและผลไม้แปรรูป ชะลอตัวร้อยละ 4.3 จากสินค้าสำคัญคือ จากสินค้าสำคัญคือ สับปะรดสับปะรดกระป๋อง กระป๋อง หดตัวหดตัวร้อยละ ร้อยละ 61.7 เนื่องจากเนื่องจากการการปลูกบางพื้นที่ ผลผลิตลดลงปลูกบางพื้นที่ ผลผลิตลดลงจากภาวะภัยแล้งจากภาวะภัยแล้ง และปศุสัตว์ ชะลอตัวร้อยละ และปศุสัตว์ ชะลอตัวร้อยละ 4.0 จากเนื้อไก่แช่แข็งและแช่เย็น จากเนื้อไก่แช่แข็งและแช่เย็น ชะลอตัวร้อยละ ชะลอตัวร้อยละ 7.4 เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัว ส่งผลต่อเนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัว ส่งผลต่อ ความต้องการบริโภคที่ลดลงความต้องการบริโภคที่ลดลง

ดัชนีผลผลิตกลุ่มเครื่องดื่ม

ดัชนีผลผลิตกลุ่มเครื่องดื่ม ชะลอตัวร้อยละ ชะลอตัวร้อยละ 8.6 จากสุราขาว เบียร์ และน้ำจากสุราขาว เบียร์ และน้ำดื่มให้กำลังงานดื่มให้กำลังงาน

การจำหน่ายอาหาร

การจำหน่ายอาหารในประเทศในประเทศ ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 มีปริมาณมีปริมาณ 68,033.58 พันตัน ขยายตัวร้อยละ พันตัน ขยายตัวร้อยละ 4.1 (%(%YoY)) เมื่อเทียบเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าที่มีการบริโภคในประเทศกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าที่มีการบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้น ได้แก่ เพิ่มขึ้น ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขยายตัวร้อยละ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขยายตัวร้อยละ 5.4 รองลงมาคือ รองลงมาคือ เครื่องปรุงรสประจำโต๊ะอาหาร ขยายตัวร้อยละ เครื่องปรุงรสประจำโต๊ะอาหาร ขยายตัวร้อยละ 4.3 นมพร้อมดื่มนมพร้อมดื่ม ขยายตัวร้อยละขยายตัวร้อยละ 3.3 และ เค้ก ขยายตัวร้อยละ และ เค้ก ขยายตัวร้อยละ 2.1

การส่งออการส่งออก ไตรมาสที่ไตรมาสที่ 4 ปีปี 2566 มีมีมูลค่ามูลค่า 8,407.58 ล้านเหรียญสหรัฐล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวฯ ขยายตัวร้อยละ ร้อยละ 1.6 (%(%YoY) เมื่อเทียบกับไตรมาส) เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เดียวกันของปีก่อน สินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น สินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ได้แก่ ข้าวข้าวเนื่องจากความต้องการนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศเพื่อความมั่นคงเนื่องจากความต้องการนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศเพื่อความมั่นคงด้านอาหารด้านอาหาร

การ

การนำเข้านำเข้า ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 4 ปี ปี 2566 มีมีมูลค่ามูลค่า 4,060.93 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเหรียญสหรัฐฯฯ ชะลอชะลอตัวร้อยละ ตัวร้อยละ 5.8 (%(%YoY) เมื่อเทียบกับไตรมาสเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เดียวกันของปีก่อน สินค้าที่ชะลอตัว ได้แก่ เมล็ดพืชน้ำมัน กากพืชน้ำมัน สินค้าที่ชะลอตัว ได้แก่ เมล็ดพืชน้ำมัน กากพืชน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าที่ขยายตัว ได้แก่ ธัญพืช รองลงมาคือ ผลิตภัณฑ์อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าที่ขยายตัว ได้แก่ ธัญพืช รองลงมาคือ ผลิตภัณฑ์จากแป้ง เพื่อรองรับอุตสาหกรรมต่อเนื่อง จากแป้ง เพื่อรองรับอุตสาหกรรมต่อเนื่อง โดยเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโดยเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

แนว

แนวโน้มอุตสาหกรรมอาหาร ไตรมาสที่ โน้มอุตสาหกรรมอาหาร ไตรมาสที่ 11 ของปีของปี 25677

คาดว่า

คาดว่า ดัชนีผลผลิตในภาพรวมดัชนีผลผลิตในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัว เมื่อเทียบมีแนวโน้มขยายตัว เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการของกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการของภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ รวมถึงจำนวนภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในส่วนของภาคการส่งออกมีแนวโน้มนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในส่วนของภาคการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัว จากความต้องการสินค้าของประเทศคู่ค้า เพื่อความมั่ขยายตัว จากความต้องการสินค้าของประเทศคู่ค้า เพื่อความมั่นคงนคงด้านอาหาร อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกด้านอาหาร อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัว ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายประเทศ ที่ยังคงชะลอตัว ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายประเทศ รวมถึงผลกระทบจากภัยแล้งที่อาจรุนแรงขึ้นรวมถึงผลกระทบจากภัยแล้งที่อาจรุนแรงขึ้น

นโยบายภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหาร

นโยบายภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหาร

มาตรการ

มาตรการ Easy e-Receipt เพื่อช่วยเพื่อช่วยกระตุ้นการบริโภคในภาคกระตุ้นการบริโภคในภาคครัวเรือน โดยกำหนดให้ผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดา ครัวเรือน โดยกำหนดให้ผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดา นำหลักฐานใบกำกับนำหลักฐานใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (ภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) หรือใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ ((e-Receipt) ของการซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าที่จดทะเบียนในของการซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าที่จดทะเบียนในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มาใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50มาใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท000 บาท ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2567 ถึงตั้งแต่ 1 ม.ค. 2567 ถึง 15 ก.พ. 2567 15 ก.พ. 2567

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอาหารไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ชะลอตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่อง

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอาหารไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ชะลอตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่อง รวมถึงปัญหาภัยธรรมชาติที่ส่งผลต่อวัตถุดิบทางการเกษตร อย่างไรก็ตาม ความต้องการบริโภคในประเทศและภาคการท่องเที่ยวรวมถึงปัญหาภัยธรรมชาติที่ส่งผลต่อวัตถุดิบทางการเกษตร อย่างไรก็ตาม ความต้องการบริโภคในประเทศและภาคการท่องเที่ยว มีแนวโน้มดีขึ้น โดยมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐเป็นปัจจัยสนับสนุน ในส่วนของภาคการส่งออก สินค้าที่ยังขยายตัวได้ดี ได้แก่ ข้มีแนวโน้มดีขึ้น โดยมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐเป็นปัจจัยสนับสนุน ในส่วนของภาคการส่งออก สินค้าที่ยังขยายตัวได้ดี ได้แก่ ข้าวาว จากความกังวลเรื่องความมั่นคงอาหารของประเทศต่าง ๆจากความกังวลเรื่องความมั่นคงอาหารของประเทศต่าง ๆ 0

20

40

60

80

100

120

140

0

10,000

20,000

30,000

40,000

50,000

60,000

70,000

80,000

1Q25652Q25653Q25654Q25651Q25662Q25663Q25664Q2566

ดัช นีผ ล ผ ลิต จา ห น่า ย ส่ง อ อ ก แ ล นา เ ข้า อุต ส ห ก ร ร ม อ ห ร ไ ต ร

ม ส 4 ปี 2 5 6 6

ส่งออก (มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐฯ) นา เข้า (มูลค่า : ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

จา หน่าย (ปริมาณ : พันตัน) ดัชนีผลผลิต (MPI)

ปริมาณจำหน่าย

((พันตัน) มูลค่าส่งอก มูลค่าส่งอก มูลค่าส่งอก มูลค่าส่งอก มูลค่าส่งอก มูลค่าส่งอก มูลค่าส่งอก มูลค่าส่งอก มูลค่าส่งอก //นำเข้านาเข้า((ล้านเหรียญสหรัฐฯล้าเหรีญสรัฐฯ))

ดัชนีผลผลิต

ดัชนีผลผลิต(MPI)

33

รายชื่อผู้รับผิดชอบการจัดทำ

รายชื่อผู้รับผิดชอบการจัดทำ

หัวข้อ

หัวข้อ

กองประสานงาน

กองประสานงาน

โทรศัพท์

โทรศัพท์

?

ภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย ภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย ไตรมาสที่ ไตรมาสที่ 22//25625666 และแนวโน้มไตรมาสที่ และแนวโน้มไตรมาสที่ 33//25625666

?

อุตสาหกรรมรายสาขาอุตสาหกรรมรายสาขา

กว.

กว.

0

0--22430430--68066806

?

อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าเหล็กและเหล็กกล้า

กร.

กร. 11

0

0--22430430--68046804

?

อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมไฟฟ้าไฟฟ้า

กร.

กร. 11

0

0--22430430--68046804

?

อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

กร.

กร. 11

0

0--22430430--68046804

?

อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์รถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์

กร.

กร. 11

0

0--22430430--68046804

?

อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนรถจัรถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนรถจักกรยานยนต์รยานยนต์

?

อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์

กร.

กร. 11

กร.

กร. 11

0

0--22430430--68046804

0

0--22430430--68046804

?

อุตสาหกรรมพลาสติกอุตสาหกรรมพลาสติก

กร.

กร. 11

0

0--22430430--68046804

?

อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีปิโตรเคมี

กร.

กร. 11

0

0--22430430--68046804

?

อุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ กระดาษอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ กระดาษ และสิ่งพิมพ์และสิ่งพิมพ์

กร. 2

กร. 2

0

0--22430430--68056805

?

อุตสาหกรรมเซรามิกอุตสาหกรรมเซรามิก

กร

กร ..22

0

0--22430430--68056805

?

อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ปูนซีเมนต์

กร.

กร. 22

0

0--22430430--68056805

?

อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม

กร.

กร. 22

0

0--22430430--68056805

?

อุตสาหกรรอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนมไม้และเครื่องเรือน

กร.

กร. 22

0

0--22430430--68056805

?

อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมยายา

กร.

กร. 22

0

0--22430430--68056805

?

อุตสาหกรรอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางมยางและผลิตภัณฑ์ยาง

กร.

กร. 22

0

0--22430430--68056805

?

อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังรองเท้าและเครื่องหนัง

กร.

กร. 22

0

0--22430430--68056805

?

อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับอัญมณีและเครื่องประดับ

กร.

กร. 22

0

0--22430430--68056805

?

อุตสาหกรรมอุตสาหกรรมอาหารอาหาร

กร.

กร. 22

0

0--22430430--68056805

กว. : ว. : กองกองวิจัยเศรษฐกิจอุตสาหกรรมวิจัยเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

กร.

กร.1 : 1 : กองกองนโยบายอุตสาหกรรมรายสาขา 1นโยบายอุตสาหกรรมรายสาขา 1

กร.

กร.2 : 2 : กองกองนโยบายอุตสาหกรรมรายสาขา 2นโยบายอุตสาหกรรมรายสาขา 2

ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ