1. การผลิต
การผลิตยางแปรรูปขั้นต้นในปี 2551 เมื่อเทียบกับปีก่อนเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 7.38 โดยเพิ่มขึ้นในส่วนของยางแท่ง เนื่องจากความต้อง การยางพาราในตลาดต่างประเทศยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะจากจีน ส่งผลให้ราคายางพาราสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะช่วงต้นไตรมาส ที่ 3 ของปี 2551 ยางแผ่นรมควันชั้น 3 มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 106.83 บาท ซึ่งสูงกว่าที่เคยสูงสุดเมื่อสองปีก่อน แต่ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2551 ราคายางพาราปรับลดลงรุนแรงมาอยู่ที่ระดับกิโลกรัมละ 40 บาท และมีแนวโน้มว่าราคายางจะยังคงตกต่ำต่อเนื่องไปถึงปี 2552 เนื่องจาก วิกฤตเศรษฐกิจการเงินของสหรัฐอเมริกาส่งผลกระทบต่อความต้องการยางพาราจากไทยลดลง ทั้งนี้เนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐอเมริกา ประสบปัญหาซบเซา ยอดการจำหน่ายลดลงร้อยละ 20 -30 ส่งผลกระทบถึงอุตสาหกรรมยางล้อรถยนต์ซึ่งใช้ยางพาราในการผลิต โดยเฉพาะจีนซึ่ง เป็นผู้ผลิตยางล้อรถยนต์รายใหญ่ และมีผลให้สหรัฐอเมริกาชะลอการซื้อยางรถยนต์จากจีน จึงทำให้จีนต้องชะลอการสั่งซื้อวัตถุดิบยางพาราจากไทย
การผลิตผลิตภัณฑ์ยางในปี 2551 ของกลุ่มยางยานพาหนะโดยรวมเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มยางนอกรถยนต์และกลุ่มยางนอกรถจักรยานยนต์/รถ จักรยานมีปริมาณการผลิตประมาณ 25.65 และ 45.43 ล้านเส้น ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 10.13 และ 7.56 ตามลำดับ โดยเพิ่มขึ้นใน ยางนอกทุกประเภท สำหรับกลุ่มยางในมีปริมาณการผลิตประมาณ 58.57 ล้านเส้น ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 2.49 เนื่องจากจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิต ยางในรายใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นคู่แข่งสำคัญของไทยมีการจำหน่ายสินค้าในราคาที่ถูกกว่าของไทย แม้คุณภาพสินค้าของจีนจะไม่ดีนัก สำหรับถุงมือยาง มีการผลิตขยายตัวจากปีก่อนร้อยละ 3.36 ตามความต้องการใช้ถุงมือยางในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศต่างๆทั่วโลกต่างตระหนักถึงความ สำคัญของการป้องกันเชื้อโรคและการดูแลรักษาสุขภาพอนามัยของประชาชนในประเทศมากขึ้น รวมทั้งความต้องการนำถุงมือยางไปใช้ในอุตสาหกรรม ต่างๆแพร่หลายทั่วโลกเพิ่มขึ้น
2. การตลาด
2.1 ตลาดในประเทศ
การจำหน่ายยางแปรรูปขั้นต้นในประเทศในปี 2551 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 10.18 โดยเพิ่มขึ้นในยางแท่ง การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาง ในประเทศปี 2551 ของกลุ่มยางยานพาหนะโดยรวมเพิ่มขึ้น จำแนกเป็นการจำหน่ายของกลุ่มยางนอกรถยนต์ประมาณ 19.36 ล้านเส้น กลุ่มยางนอกรถ จักรยานยนต์/รถจักรยานประมาณ 21.52 ล้านเส้น และกลุ่มยางในประมาณ 36.14 ล้านเส้น การจำหน่ายในประเทศของกลุ่มยางนอกรถยนต์และกลุ่ม ยางนอกรถจักรยานยนต์/รถจักรยานเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 6.80 และ 9.84 ตามลำดับ โดยเพิ่มขึ้นในยางนอกเกือบทุกประเภท ส่วนกลุ่มยางใน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 3.37 โดยเพิ่มขึ้นในยางในรถจักรยาน สำหรับถุงมือยางมีการจำหน่ายในประเทศในปี 2551 ขยายตัวจากปีก่อนร้อยละ 21.68
2.2 ตลาดส่งออก
การส่งออกยางแปรรูปขั้นต้นในปี 2551 มีมูลค่าประมาณ 7,364.18 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 30.57 โดยเพิ่มขึ้นใน ยางแผ่นและน้ำยางข้น ตามความต้องการใช้ยางธรรมชาติในตลาดโลก โดยเฉพาะ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และมาเลเซีย อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตร มาสที่ 4 ปี 2551 วิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะวิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกยางพาราของไทย ทั้งนี้ เนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์รายใหญ่ในสหรัฐอเมริกาประสบปัญหายอดการจำหน่ายลดลงอย่างมาก จึงมีสต๊อกยางล้อเหลือจำนวนมาก ส่งผลกระทบให้ สหรัฐอเมริกาชะลอการสั่งซื้อยางล้อจากจีน จึงทำให้จีนชะลอการสั่งซื้อยางพาราจากไทย เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตยางล้อ
อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางสามารถสร้างรายได้จากการส่งออกให้ประเทศได้ประมาณ ร้อยละ 38.85 ของการส่งออกยางและผลิตภัณฑ์ยาง ทั้งหมด ผลิตภัณฑ์ยางที่ไทยส่งออก ประกอบด้วยยางยานพาหนะ ถุงมือยาง ยางรัดของ หลอดและท่อ สายพานลำเลียงและสายพานส่งกำลัง ผลิตภัณฑ์ ยางที่ใช้ทางเภสัชกรรม ยางวัลแคไนซ์ และผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ โดยมีมูลค่าการส่งออกในปี 2551 จำนวน 4,678.96 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี ก่อนร้อยละ 28.11 โดยเพิ่มขึ้นในผลิตภัณฑ์ยางทุกประเภท โดยเฉพาะยางยานพาหนะสินค้าส่งออกสำคัญซึ่งมีมูลค่าส่งออกสูงถึง 2,132.84 ล้านเหรียญ สหรัฐ หรือร้อยละ 45.58 ของมูลค่าส่งออกผลิตภัณฑ์ยางทั้งหมด และขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนสูงถึงร้อยละ 31.48 ทั้งนี้เนื่องจากประเทศผู้นำเข้า หลัก เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น มาเลเซีย เบลเยี่ยม และออสเตรเลีย มีการนำเข้ายางยานพาหนะจากไทยเพิ่มขึ้น
2.3 ตลาดนำเข้า
ในปี 2551 มูลค่านำเข้ายาง วัสดุยาง และผลิตภัณฑ์ยางโดยรวมประมาณ 1,494.12 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 27.58 ประเภทสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ยางสังเคราะห์ ยางวัลแคไนซ์ ยางรถยนต์ ท่อหรือข้อต่อและสายพานลำเลียง โดยยางสังเคราะห์มี มูลค่าการนำเข้าประมาณ 688.56 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 47.55 ยางวัลแคไนซ์มีมูลค่าการนำเข้าประมาณ 368.99 ล้านเหรียญ สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 18.53 ยางรถยนต์มีมูลค่าการนำเข้าประมาณ 228.31 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 5.63 ส่วนท่อหรือ ข้อต่อและสายพานลำเลียงมีมูลค่าการนำเข้าประมาณ 159.70 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 15.66 ส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสหรัฐอเมริกา
3. สรุปและแนวโน้ม
ในปี 2551 การผลิต การส่งออกและการนำเข้ายางและผลิตภัณฑ์ยางโดยรวมขยายตัวสูงขึ้นจากปีก่อน ราคายางพาราปรับตัวสูงขึ้นมาก และสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงต้นไตรมาสที่ 3 ปี 2551 สูงถึงกิโลกรัมละกว่าร้อยบาท เนื่องจากความต้องการยางพาราในตลาดโลกโดยเฉพาะจาก จีนและญี่ปุ่นยังคงมีอยู่ และสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ทั่วโลกหันมาใช้ยางธรรมชาติแทนยางสังเคราะห์มากขึ้น จึงดันให้ราคายาง ธรรมชาติสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2551วิกฤตเศรษฐกิจการเงินของสหรัฐอเมริกาทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐอเมริกาซบ เซาและยอดจำหน่ายลดลงมาก ทำให้มีสต๊อกยางล้อเหลือเป็นจำนวนมาก สหรัฐอเมริกาจึงชะลอการสั่งซื้อยางรถยนต์จากจีน มีผลให้จีนชะลอการสั่งซื้อ วัตถุดิบยางพาราจากไทย เป็นสาเหตุให้ราคายางพาราปรับตัวลดลงมากว่าร้อยละ 50
แนวโน้มของอุตสาหกรรมยาง และผลิตภัณฑ์ยางใน ปี 2552 คาดว่าจะชะลอตัวลง ราคายางพารามีแนวโน้มปรับตัวลดลงรุนแรง ในขณะที่ ความต้องการยางและผลิตภัณฑ์ยางจะชะลอตัวลง อันเป็นผลกระทบมาจากวิกฤตเศรษฐกิจการเงินของสหรัฐอเมริกาที่ลุกลามเป็นวิกฤตเศรษฐกิจโลก อุตสาหกรรมยานยนต์และยางล้อ ตลอดจนอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆต่างได้รับผลกระทบ เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอลง ซึ่งอาจส่งผล กระทบต่อการส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางของไทย นอกจากนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ราคายาง สังเคราะห์ถูกลง เมื่อยางสังเคราะห์ถูกลง ผู้บริโภคจะหันไปใช้ยางสังเคราะห์แทนยางพารามากขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้การส่งออกยางพาราลดลงอย่างรวด เร็ว ดังนั้น ภาครัฐและภาคเอกชนควรประสานร่วมมือกันเพื่อการหามาตรการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยเน้นการเพิ่มศักยภาพการผลิต การส่งเสริม การรวมกลุ่มคลัสเตอร์ยางเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมยาง การส่งเสริมการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราภายในประเทศ เพื่อเพิ่มมูลค่า ยางพาราโดยการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ยางให้มีความหลากหลายมากขึ้น รวมทั้งการส่งเสริมการขยายตลาดส่งออกเดิมและตลาดแห่งใหม่ที่มีศักยภาพ
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ
รายการ ปี อัตราการขยายตัว 2548 2549 2550 2551 2549 2550 2551 ยางพารา 3,709.98 5,396.59 5,639.98 7,364.18 45.5 4.51 30.6 ยางแผ่น 1,317.99 1,912.73 1,996.04 2,556.10 45.1 4.36 28.1 ยางแท่ง 1,565.00 2,175.53 181.23 106.93 39 -91.67 -41 น้ำยางข้น 757.23 1,214.79 1,266.24 1,474.16 60.4 4.24 16.4 ยางพาราอื่นๆ 69.76 93.54 2,196.47 3,226.99 34.1 2,248.16 46.9 ผลิตภัณฑ์ยาง 2,351.22 3,082.01 3,652.43 4,678.96 31.1 18.51 28.1 ยางยานพาหนะ 900.44 1,196.06 1,622.14 2,132.84 32.8 35.62 31.5 ถุงมือยาง 515.66 558.83 583.94 649.96 8.37 4.49 11.3 ยางรัดของ 47.8 64.99 53.96 64.82 36 -16.97 20.1 หลอดและท่อ 86.47 105.92 135.47 179.05 22.5 27.9 32.2 สายพานลำเลียงและส่งกำลัง 31.33 45.52 71.96 79.7 45.3 58.08 10.8 ผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ทางเภสัชกรรม 189.2 211.07 212.94 261.34 11.6 0.89 22.7 ยางวัลแคไนซ์ 147.74 206.69 212.07 228.05 39.9 2.6 7.54 ผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ 432.58 692.93 759.95 1,083.19 60.2 9.67 42.5 ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร ตารางที่ 4 มูลค่าการนำเข้าของสินค้ายางและผลิตภัณฑ์ยางหน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ
รายการ ปี อัตราการขยายตัว 2548 2549 2550 2551 2549 2550 2551 ยาง รวมเศษยาง 351.1 427.3 476.4 706.1 21.7 11.48 48.22 ยางธรรมชาติ 1.94 2.39 5.12 10.92 23.2 114.2 113.3 ยางสังเคราะห์ 346.2 420.2 466.7 688.6 21.4 11.06 47.55 ยางอื่นๆ 2.92 4.74 4.6 6.62 62.3 -2.95 43.91 ผลิตภัณฑ์ทำจากยาง 230.4 298 373.9 410.7 29.3 25.47 9.84 ท่อหรือข้อต่อและสายพานลำเลียง 96.14 116.8 138.1 159.7 21.5 18.21 15.66 ยางรถยนต์ 110.7 155.1 216.1 228.3 40.2 39.33 5.63 ผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ 23.62 26.08 19.72 22.73 10.4 -24.39 15.26 วัสดุทำจากยาง 297.8 327.3 320.8 377.3 9.91 -1.98 17.62 กระเบื้องปูพื้นปิดผนัง 4.52 5.94 9.47 8.29 31.4 59.43 -12.46 ผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไนซ์ 293.2 321.3 311.3 369 9.58 -3.12 18.53 ที่มา : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--