กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
กระทรวงพลังงานเชิญตัวแทน ๕ หน่วยงานความมั่นคงแถลงความคืบหน้าและผลสำเร็จของการดำเนินโครงการอนุรักษ์พลังงานและผลิตพลังงานทดแทน หลังจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานได้สนับสนุนให้แต่ละหน่วยงานไปดำเนินโครงการ และปรากฏว่ามีบางโครงการรุดหน้าถึงขั้นสำเร็จลุล่วงเป็นที่เรียบร้อย และอีกหลายโครงการกำลังทยอยก้าวสู่หลักชัยจึงได้นำบางส่วนมาจัดแสดงให้สื่อมวลชนได้ประจักษ์ถึงประโยชน์ในมิติต่างๆ อย่างจะแจ้ง
ที่ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อวันพุธที่ ๑๕ ก.ค. ๒๕๕๘ เวลา ๑๓.๐๐ น. นายคุรุจิต นาครทรรพ ปลัดกระทรวงพลังงาน ได้เป็นประธานจัดแถลงข่าวร่วมกับ พล.อ.อ.วิจิตร์ จิตรภักดี ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ ผู้แทนกองทัพอากาศ พล.ท.สมชาย ยังพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานทั่วไป ผู้แทน กอ.รมน. พล.ต. ณัฐพล นาคพาณิชย์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนฯ ผู้แทนกองทัพบก พล.ต.ต.สัญชัย สุนทรบุระ รองผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และนายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการ ศอ.บต. ซึ่งทั้งกระทรวงพลังงานและหน่วยงานด้านความมั่นคงที่มาร่วมแถลงความคืบหน้าครั้งนี้ ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปี ๒๕๕๗ – ๒๕๕๘ สำหรับรับผิดชอบดำเนินการแตกต่างกันไปใน ๖ ชุดโครงการหลัก ประกอบด้วยชุดแรก คือ โครงการต้นแบบการบริหารจัดการก๊าซชีวภาพจากขยะ ชุดที่ ๒ คือโครงการอนุรักษ์พลังงานและใช้พลังงานทดแทนในพื้นที่เสี่ยงภัยใน ๓ จังหวัดชายแดนใต้ ชุดที่ ๓ เป็นโครงการอนุรักษ์และส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการตามแนวพระราชดำริ ส่วนชุดที่ ๔ เป็นโครงการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในหน่วยงานความมั่นคง ชุดที่ ๕ คือโครงการสถานีผลิตไฟฟ้าในหน่วยงานราชการ และชุดที่ ๖ เป็นโครงการสนับสนุนพลังงานจังหวัดเพื่อสร้างความเข้มแข็งด้านพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
ทั้งนี้ นายคุรุจิต นาครทรรพ ปลัดกระทรวงพลังงาน ได้แถลงในภาพรวมของการดำเนินงานของแต่ละชุดโครงการซึ่งมีทั้งผลสำเร็จและความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม คือ ชุดโครงการที่ ๒ ประกอบด้วย โครงการติดตั้งเสาไฟพร้อมโคมส่องสว่างแบบโซลาร์เซลล์ กับโครงการพัฒนาระบบแสงสว่างด้วยชุดโคมส่องสว่างแบบแอลอีดี (LED) ซึ่ง ศอ.บต. เป็นหน่วยงานความมั่นคงที่ได้จัดทำดำเนินการแล้วเสร็จครบทั้งหมดแล้วเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยที่โครงการในชุดเดียวกันนี้ คือโครงการส่งเสริมการผลิตและการใช้พลังงานแสงอาทิตย์แบบรถเคลื่อนที่ในฐานปฏิบัติการที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ กอ.รมน. ก็ได้เริ่มการผลิตรถพ่วงเคลื่อนที่ต้นแบบกำลังอยู่ระหว่างการประกอบและติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ โดยคาดหมายว่าจะแล้วเสร็จสามารถส่งมอบแก่หน่วยงานความมั่นคงแห่งนี้ประมาณปลายปี
ทั้งนี้โดยในส่วนของกองทัพอากาศซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานให้ดำเนินงานชุดโครงการที่ ๔ โดยมีการจัดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์สำหรับใช้งานระบบเรดาร์ ควบคู่กับการติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์เพื่อใช้งานในสถานีถ่ายทอดโทรคมนาคมในส่วนที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงนั้น ก็ได้ดำเนินการลุล่วงแล้วเสร็จและกำลังทำการทดสอบอยู่ในปัจจุบัน
สำหรับหน่วยงานของกองทัพบกซึ่งได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินงานในชุดโครงการที่ ๔ โดยมีหน่วยงานในสังกัดรวม ๗ แห่ง รับผิดชอบโครงการจัดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์สำหรับใช้ในหน่วยงานนั้นก็มีความคืบหน้าในการดำเนินมาเป็นลำดับ โดยในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งได้รับการสนับสนุนให้รับผิดชอบการดำเนินโครงการในชุดเดียวกันนี้ สำหรับใช้งานภายในหน่วยบัญชาการตำรวจภูธรภาค ๕ ขนาด ๘๐๐ kW และขนาด ๒๓๗ kW สำหรับหน่วยบัญชาการตำรวจภูธรภาค ๗ นั้นกำลังเตรียมการจัดซื้อจัดจ้างโดยจะดำเนินการติดตั้งให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป
นายคุรุจิต นาครทรรพ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ความคืบหน้าและผลสำเร็จของการดำเนินงานในชุดโครงการต่างๆ เหล่านี้ ได้ก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาลทั้งในแง่ความมั่นคงของชาติ เนื่องจากการผลิตและใช้พลังงานทดแทนได้เองจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานได้เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องพึ่งพาพลังงานฟอสซิลดังเช่นที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากจะมีการใช้แสงอาทิตย์เพื่อผลิตพลังงานแล้วบางชุดโครงการยังใช้วัตถุดิบอื่นๆ เช่นหญ้าเนเปียร์กับมูลสัตว์มาผลิตก๊าซมีเทนแรงอัดสูงอีกด้วย เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถบริการขนส่งมวลชนภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งจะช่วยทั้งในแง่ของการลดค่าเชื้อเพลิงแล้วยังเท่ากับเป็นการอนุรักษ์พลังงานไปพร้อมกัน
ทั้งนี้ นายคุรุจิต นาครทรรพ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวเสริมในตอนท้ายว่า ผลสำเร็จจากการดำเนินงานทุกชุดโครงการเหล่านี้จะเป็นต้นแบบที่นำมาซึ่งการตระหนักถึงคุณค่าของพลังงานโดยที่ประชาชนและหน่วยงานภาครัฐและเอกชนสามารถไปศึกษาดูงานเพื่อขยายผลสู่การปฏิบัติอย่างกว้างขวางเพื่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศต่อไป และเพื่อให้เป็นที่รับรู้อย่างแพร่หลายต่อเนื่อง กระทรวงพลังงานจึงได้เตรียมแผนงาน “ใส่เกียร์ ๕ เดินหน้าพลังงานไทย” ไว้เพื่อรองรับเป็นที่เรียบร้อย
ผู้สนใจสามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติม “ใส่เกียร์ ๕ เดินหน้าพลังงานไทย” โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน โทร. ๐ ๒๒๒๓ ๐๐๒๑