ASEFA งบ Q3/58 กำไรพุ่ง 225.57 % รับไฮซีซั่น ปลื้มผลงานสวยมั่นใจทั้ง ปี ราย ได้โต 35 - 40%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 13, 2015 14:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--IR PLUS ASEFA อวดงบ Q3/58 กำไรเด่น รับไฮซีซั่น พุ่งกว่า 225.57 % โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 69.44 ลบ. เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 21.33 ลบ. เพิ่มขึ้น 48.11 ลบ. ส่วนรายได้ 3 ไตรมาสทะลุรายได้ทั้งปีของปีก่อนที่ 1,700 ล้านบาท "ไพบูลย์ อังคณากรกุล" กรรมการผู้จัดการ คาด Q4/58 เติบโตต่อเนื่อง บริษัทฯ มั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโต 35 – 40% จากปี 2557 เหตุแรงหนุนจาก Backlog ในมือ 1,500 ล้านบาท รับรู้รายได้ช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ 1,100 ล้านบาท เตรียมประมูลงานเพิ่ม 2-3 พันล้านบาท ในต้นปีหน้าตุนงานในมือ นายไพบูลย์ อังคณากรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA ผู้ประกอบธุรกิจผลิต จำหน่ายและติดตั้งผลิตภัณฑ์กระจายและส่งจ่ายไฟฟ้า สวิตช์บอร์ดไฟฟ้า รางและบันไดพาดสายไฟฟ้า โคมไฟและระบบส่องสว่าง งานบริการวิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง และงานบริการหลังการขายครบวงจร เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯและบริษัทย่อยในงวดไตรมาส 3/58 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 69.44 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2557 ซึ่งมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 21.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.11 ล้านบาท หรือร้อยละ 225.57 เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 770.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 354.26 ล้านบาท หรือร้อยละ 85.14 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ส่วนผลการดำเนินงานสำหรับงวดเก้าเดือน (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558) บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 140.80 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 60.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 79.87 ล้านบาท หรือร้อยละ 131.09 เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 1,887.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 694.26 ล้านบาท หรือร้อยละ 58.19 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน "บริษัทฯมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโต 35-40% จากปี 2557 ที่ผ่านมา ที่มีรายได้รวม 1,704.19 ล้านบาท โดยไตรสาม3/58 รายได้ของบริษัททะลุ 1,800 ล้านบาทแล้ว และบริษัทฯมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 1,500 ล้านบาท โดยมองว่าการเติบโตของโรงไฟฟ้าในประเทศจะมีอีกมาก ซึ่งใช้สวิตช์บอร์ดไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นยอดขายส่วนหนึ่งของบริษัทฯ" นายไพบูลย์ กล่าว ทั้งนี้ บริษัทฯยังคงเป้าเติบโตของรายได้ใน 5 ปีข้างหน้า (2559-2563) เติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละ 15% ซึ่งเป็นไปตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นและการขยายสาขาเพิ่มขึ้น ประกอบกับปี 2559 คาดว่าจะเห็นการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ที่จะทยอยออกมาทั้งจากงานของภาครัฐ อาทิเช่น รถไฟฟ้า หน่วยงานราชการอื่นๆ โครงการดาต้าเซ็นเตอร์ และโทรคมนาคมสื่อสาร เป็นต้น สำหรับมูลค่างานที่บริษัทจะเข้าร่วมประมูลอยู่ที่ 2-3 พันล้านบาทซึ่งคาดว่างานดังกล่าวจะเริ่มทยอยประมูลในปีหน้าเป็นต้นไปซึ่งจะ เป็นปัจจัยสนับสนุนต่อการเติบโตของการดำเนินงานในปีหน้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ