จากกรณีการยุบพรรคประชาธิปัตย์ที่ยืดเยื้อมานานพอสมควร กลับมาเป็นประเด็นที่ประชาชนและหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องจับตาดูกันอีก ครั้ง เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญได้มีการนัดคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายแถลงปิดคดีด้วยวาจา ในวันจันทร์ที่ 29 พ.ย. นี้ กรณี คดีเงิน 29 ล้าน ซึ่งในวันดัง กล่าวมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าทีมทนายความจะเป็นผู้แถลงปิดคดีด้วยตนเอง “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นจากประชาชนที่สนใจติดตามข่าวการยุบพรรคฯ ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 2,052 คน ระหว่างวันที่ 23-27 พฤศจิกายน 2553 สรุปผลได้ดังนี้
1. ความสนใจของประชาชนในการติดตาม กรณี การยุบพรรคประชาธิปัตย์
อันดับ 1 ค่อนข้างสนใจ 33.95%
เพราะ เป็นคดีที่ยืดเยื้อมานาน ถูกมองว่าเป็นการปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐาน ,แสดงให้เห็นถึงความยุติธรรม
โปร่งใสในกระบวนการยุติธรรมของศาล ฯลฯ
อันดับ 2 สนใจมาก 27.16%
เพราะ พรรคปชป.เป็นพรรคใหญ่และเก่าแก่,นายกรัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ล้วนเป็นคนของพรรคปชป. ,
มีผลต่อการบริหารบ้านเมืองอย่างมาก ,เป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองครั้งใหญ่ ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่ค่อยสนใจ 23.49%
เพราะ ปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสิน ,เล่นเกมการเมืองกันมากเกินไป ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่สนใจเลย 15.40%
เพราะ รู้สึกเบื่อ ระอากับการเมืองบ้านเราอย่างมาก มีแต่การแก่งแย่งชิงดี ยึดติดกับอำนาจและผลประโยชน์ ฯลฯ
2. ประชาชนคิดอย่างไร? ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ “ถูกยุบ”
อันดับ 1 เป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทยที่ฝ่ายรัฐบาลที่มาจากพรรคการเมืองใหญ่ ภาพพจน์ดีและมีความเก่าแก่ต้องถูกยุบพรรคลง 41.58%
อันดับ 2 จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ /พรรคการเมืองหรือพรรคคู่แข่งต่างๆอาศัยเรื่องนี้ในการโจมตีพรรค ปชป. 26.67%
อันดับ 3 แสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา /เป็นการตัดสินที่ถูกต้อง เหมาะสมแล้ว 17.43%
อันดับ 4 ส่งผลให้ประชาชนที่ชื่นชอบพรรคประชาธิปัตย์มีความเชื่อมั่น ศรัทธาในพรรคลดลง 14.32%
3. ประชาชนคิดอย่างไร? ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ “ไม่ถูกยุบ”
อันดับ 1 อาจเกิดการประท้วงจากกลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วยหรือไม่พอใจกับคำตัดสินของศาล ฯ และนำไปสู่ความรุนแรงทางการเมืองอีกครั้ง 43.90%
อันดับ 2 ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติ 2 มาตรฐาน 22.74%
อันดับ 3 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต้องออกมาชี้แจงให้สังคมรับรู้ เข้าใจอย่างละเอียดเกี่ยวกับการตัดสินคดีในครั้งนี้ 19.56%
อันดับ 4 รัฐบาลคงต้องเดินหน้าบริหารบ้านเมืองต่อไปอย่างเต็มความสามารถ 13.80%
4. ประชาชนคิดว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ “ถูกยุบ” “ การเมืองไทย” จะเป็นอย่างไร?
อันดับ 1 จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ /มีการหาเสียงกันอย่างดุเดือดและการแข่งขันทางการเมืองที่รุนแรง 38.12%
อันดับ 2 เกิดการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง พรรคร่วมรัฐบาลอาจมีการเคลื่อนไหวเพื่อความอยู่รอดทางการเมือง 23.31%
อันดับ 3 นักการเมืองบางคนอาจหาพรรคใหม่อยู่ /มีการย้ายพรรค สลับสับเปลี่ยนกันไป 15.71%
อันดับ 4 นายกฯอภิสิทธิ์และกรรมการบริหารพรรคจะต้องถูกเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี 13.50%
อันดับ 5 หวังว่าอาจเป็นจุดเปลี่ยนหรือเป็นการเริ่มต้นใหม่ทางการเมืองไทยให้ดีขึ้น 9.36%
5. ประชาชนคิดว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ “ไม่ถูกยุบ” “ การเมืองไทย” จะเป็นอย่างไร?
อันดับ 1 อาจมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางกลุ่มใช้จังหวะนี้ในการรวมตัวกันเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือโยง
ไปสู่เรื่องอื่นๆด้วย / เป็นสาเหตุให้บ้านเมืองต้องกลับมาวุ่นวายอีกครั้ง 37.56%
อันดับ 2 พรรคการเมืองอื่นที่เคยถูกยุบพรรคในลักษณะเดียวกัน จะต้องออกมาเรียกร้องหาความเป็นธรรม
และไม่ยอมให้เรื่องนี้จบลงอย่างแน่นอน 24.92%
อันดับ 3 การเมืองไทยก็ยังคงเป็นอย่างนี้ต่อไป คาดหวังอะไรแน่นอนไม่ได้ เมื่อจบเรื่องนี้ก็อาจมีเรื่องใหม่
ที่ทำให้หยิบยกมาถกเถียงกันอีก 20.89%
อันดับ 4 การเมืองไทยไม่มีเสถียรภาพ เป็นคดีที่ยืดเยื้อมานาน /หลายฝ่ายมองว่าพรรค ปชป.ดึงเกมไว้
เพื่อรอเวลา 16.63%
6. ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ถูกยุบ และนายกฯอภิสิทธิ์จะต้องออกจากตำแหน่งประชาชนคิดว่าใคร? ควรจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
อันดับ 1 ยังมองไม่เห็นใครที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ 30.27%
อันดับ 2 ใครก็ได้ที่เป็นคนดี และตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมืองจริง 27.89%
อันดับ 3 นายชวน หลีกภัย 21.40%
อันดับ 4 นายอานันท์ ปันยารชุน 18.38%
อื่นๆ เช่น นายกรณ์ จาติกวนิช , สุเทพ เทือกสุบรรณ ,ศุภชัย พานิชภักดิ์ ,เฉลิม อยู่บำรุง เป็นต้น 2.06%
--สวนดุสิตโพลล์--
-พห-