พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2555 - 18 กุมภาพันธ์ 2555

ข่าวทั่วไป Monday February 13, 2012 06:59 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2555 - 18 กุมภาพันธ์ 2555

การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็น ส่วนลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 14-15 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 16-18 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงละลอกใหม่จะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ทำให้มีฝนในช่วงแรก และอุณหภูมิจะลดลง

ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น ตลอดช่วง สำหรับในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. ขอให้ชาวเรือในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไประมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 11-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 14-16 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

อุณหภูมิต่ำสุด 14-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่

ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดภู มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 14-15 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่

ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 14-16 ก.พ. มีหมอกบางในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 ก.พ. มีหมอกบางในตอนเช้ากับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่

โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงต่ำกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่

อ่าวไทยตอนบน ตั้งแต่บริเวณจังหวัดชุมพรขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

อ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 ก.พ. มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่

ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ