พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 14 กันยายน 2558 - 20 กันยายน 2558

ข่าวทั่วไป Monday September 14, 2015 16:05 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 14 กันยายน 2558 - 20 กันยายน 2558

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 14-16 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 17-20 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนัก บางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิ สูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ในช่วงที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยมีประวัติน้ำท่วมมาก่อน

ในช่วงนี้สภาพอากาศมีความชื้นสูง สำหรับลำไยที่กำลังให้ผลผลิตชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราเช่น โรคผลเน่า โดยดูแลสวนให้โปร่ง อากศถ่ายเทได้สะดวก หากพบการระบาดของโรคควรเก็บผลและใบที่ร่วงหล่นไปทำลายนอก แปลงปลูก เพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจาย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 15-18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ในช่วงที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจมีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยมีประวัติน้ำท่วมมาก่อน นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำที่สกปรกหากมีความจำเป็นควรสวมรองเท้า บูทเพื่อป้องกันโรคฉี่หนู ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยโดยเฉพาะในโคและกระบือ

ในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกันทำให้ความชื้นในดินและในอากาศสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ตลอดจนข้าวนาปี

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 14-18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังบริเวณโคนต้นพืชนาน ทำให้รากพืชขาดอากาศต้นพืชตายได้

ในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกัน ทำให้สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคยอดเน่าในกล้วยไม้ และโรคแอนแทรกโนสในฝรั่ง เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ต้นเสียหาย ผลผลิตด้อยคุณภาพ

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 14-18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

ในช่วงที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจมีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยมีประวัติน้ำท่วมมาก่อน

ส่วนในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกัน ชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า และโรคหน้ากรีดยาง เป็นต้น

ส่วนผู้ที่ปลูกพืชไร่ควรจัดระบบระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกอย่าให้มีน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้รากพืชเน่าต้นพืชตายได้

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 14-18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม. /ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

ในช่วงที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ส่วนผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ควรเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย

สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่ หากเก็บเกี่ยวได้แล้ว เกษตรกรควรรีบเก็บเกี่ยว ไม่ควรปล่อยไว้ในสวน เพราะอาจเสียหาย เนื่องจากฝนที่ตกได้

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 14-18 ก.ย.บริเวณทะเลอันดามันและ อ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและในช่วงวันที่ 15-18 ก.ย. เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 14-18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม. /ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม. /ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

ในช่วงที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ส่วนผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ควรเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย

สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่ หากเก็บเกี่ยวได้แล้ว เกษตรกรควรรีบเก็บเกี่ยว ไม่ควรปล่อยไว้ในสวน เพราะอาจเสียหาย เนื่องจากฝนที่ตกได้

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 14-18 ก.ย.บริเวณทะเลอันดามันและ อ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและในช่วงวันที่ 15-18 ก.ย. เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ