พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 23 กันยายน 2558 - 29 กันยายน 2558

ข่าวทั่วไป Wednesday September 23, 2015 14:29 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 23 กันยายน 2558 - 29 กันยายน 2558

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 23-24 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 25-29 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ในช่วงนี้สภาพอากาศยังคงมีความชื้นสูง อาจทำให้เกิดการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชชนิดต่างๆ เช่น กาแฟ พืชผัก และพืชไร่ ซึ่งจะทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ เกษตรกรจึงควรสำรวจแปลงปลูก หากพบควรรีบกำจัด

สำหรับบริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตรในระยะต่อไปด้วย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ในระยะนี้สภาพอากาศชื้น เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนชนิดต่างๆ ในข้าวที่กำลังเจริญเติบโต โดยเฉพาะในแปลงนาที่ปลูกข้าวหนาแน่น โดยหมั่นสำรวจหากพบการระบาดควรรีบกำจัด

สำหรับบริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตร เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 23-25 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ระยะนี้สภาพอากาศชื้น เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบจุดในกล้วยไม้ และโรคจุดสนิมในฝรั่ง เป็นต้น

สำหรับบริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตรในระยะต่อไปด้วย

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 23-25 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

เนื่องจากระยะนี้สภาพอากาศมีความชื้นสูง อาจทำให้เกิดการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในยางพารา ดังนั้นชาวสวนควรดูแลสภาพสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อลดความชื้นในสวน รวมทั้งควรทาบริเวณหน้ากรีดยางด้วยสารป้องกันเชื้อรา เพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้หน้ากรีดยางเสียหายได้

ในช่วงวันที่ 25-29 ก.ย. ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายเนื่องจากคลื่นลมที่แรงขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 23-24 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 25-29 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

เนื่องจากระยะนี้สภาพอากาศมีความชื้นสูงสำหรับ ไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ชาวสวนไม่ควรปล่อยให้ผลที่เน่าร่วงหล่นกองอยู่ภายในบริเวณสวน แต่ควรนำไปกำจัดให้ถูกวิธี เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช

อนึ่งในช่วงวันที่ 25-29 ก.ย.คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 23-24 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 25-29 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ในช่วงวันที่ 25-29 ก.ย.ทางฝั่งตะวันตกของภาคจะมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียที่อาจเกิดขึ้นจากสภาวะดังกล่าวด้วย

เนื่องจากระยะนี้สภาพอากาศมีความชื้นสูงสำหรับ ไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ชาวสวนไม่ควรปล่อยให้ผลที่เน่าร่วงหล่นกองอยู่ภายในบริเวณสวน แต่ควรนำไปกำจัดให้ถูกวิธี เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช

อนึ่งในช่วงวันที่ 25-29 ก.ย.คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ