พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 6 – 12 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ข่าวทั่วไป Friday December 6, 2019 15:36 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 6 – 12 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ออกประกาศวันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2562

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 146/62

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 6-10 ธ.ค. ประเทศไทยตอนบนอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 4-8 องศาเซลเซียส โดยบริเวณพื้นราบในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณ ยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 1-8 องศาเซลเซียส สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-12 ธ.ค. ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคง มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป

คำเตือน ในช่วงนี้บริเวณประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะลดลง 4-8 องศาเซลเซียสทำให้มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 6-10 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 4-8 องศาเซลเซียส บริเวณพื้นราบมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 23-26 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัดกับมีน้ำค้างแข็ง อุณหภูมิต่ำสุด 1-7 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-12 ธ.ค. มีอากาศหนาว อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-28 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัดกับมีน้ำค้างแข็ง อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %

  • ระยะนี้จะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย นอกจากนี้ควรลดปริมาณอาหารที่ให้แก่สัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 6-10 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส บริเวณพื้นราบมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-26 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-12 ธ.ค. มีอากาศหนาว อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-28 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 50-60 %

  • ในช่วงนี้จะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีลมแรง เกษตรกรควรเพิ่มความอบอุ่นในโรงเรือนให้แก่สัตว์เลี้ยง อย่างเพียงพอเพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงหนาวเย็นจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการเผาเศษวัสดุ เหลือไช้ทางการเกษตรเพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 6-10 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส และมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-28 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-12 ธ.ค. มีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 15-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 50-60 %

  • ระยะนี้จะมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง เกษตรกรควรเพิ่มความอบอุ่นในโรงเรือนแก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงหนาวเย็นจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย นอกจากนี้ควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติมตามความเหมาะสม

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 6-10 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส และมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-12 ธ.ค. มีอากาศเย็นกับมี ลมแรง อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 55-65 %

  • ในช่วงนี้จะมีอากาศเย็นถึงหนาว เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย นอกจากนี้ควรลดปริมาณอาหารที่ให้แก่สัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ฝั่งตะวันออก ทางตอบบนของภาคมีอากาศเย็นกับมีลมแรง ส่วนทางตอนล่างของภาคมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส จังหวัดชุมพรขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 6-10 ธ.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-12 ธ.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %

  • ระยะนี้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรค รากเน่า-โคนเน่าในไม้ผล เป็นต้น
ลักษณะอากาศในช่วง 7 วันที่ผ่านมา

ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 5 ธันวาคม 2562 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ในระยะครึ่งแรกของช่วง จากนั้นบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมบริเวณดังกล่าว ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงตลอดช่วง ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวเย็นทั่วไปเกือบตลอดช่วง ส่วนภาคอื่นๆ มีอากาศเย็นทั่วไปในระยะ ครึ่งหลังของช่วง สำหรับภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปมีฝนกับฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในระยะต้นและกลางช่วง ภาคเหนือ มีอากาศเย็นทั่วไปกับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ โดยเฉพาะในวันสุดท้ายของช่วงมีอากาศหนาวเกือบทั่วไป สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดดอย มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีรายงานน้ำค้างแข็งบริเวณยอดดอยอินทนนท์ ในวันที่ 30 พ.ย. โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งในวันที่ 1 ธ.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นทั่วไปในระยะครึ่งแรกของช่วง จากนั้นอุณหภูมิลดลงโดยมีอากาศหนาวหลายพื้นที่ในวันที่ 3 และ 4 ธ.ค. และมีอากาศหนาวทั่วไปกับมีอากาศหนาวจัดบางพื้นที่ในวันสุดท้ายของช่วง สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดภูมีอากาศหนาวตลอดช่วง กับมีอากาศหนาวจัดในระยะครึ่งหลังของช่วง ภาคกลาง มีอากาศเย็นบางพื้นที่ในระยะครึ่งแรกของช่วง จากนั้นอุณหภูมิลดลงจนมีอากาศเย็นทั่วไป กับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ในวันสุดท้ายของช่วง ภาคตะวันออก มีอากาศเย็นบางพื้นที่ในระยะครึ่งแรกของช่วง จากนั้นอุณหภูมิลดลงจนมีอากาศเย็นทั่วไป กับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ในวันสุดท้ายของช่วง ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีอากาศเย็นบางพื้นที่ในระยะต้น และกลางช่วง จากนั้นอุณหภูมิลดลงจนมีอากาศเย็นหลายพื้นที่ โดยตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปมีฝนอยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 65-80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในระยะต้นและกลางช่วง จากนั้นมีฝนร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีรายงานน้ำท่วมบริเวณจังหวัดนราธิวาส ในวันที่ 30 พ.ย. บริเวณจังหวัดพัทลุงในวันที่ 2 ธ.ค. บริเวณจังหวัดชุมพรและจังหวัดยะลาในวันที่ 3 ธ.ค. ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีอากาศเย็นบางพื้นที่เกือบตลอดช่วง โดยมีฝนร้อยละ 10-40 ของพื้นที่ เว้นแต่ในระยะกลางช่วง มีฝนร้อยละ 60-90 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง

ช่วงที่ผ่านมาภาคใต้มีฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา นราธิวาส สำหรับบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี พัทลุง ปัตตานี และตรัง โดยวัดปริมาณฝนสูงสุด ได้ 353.4 มิลลิเมตร ที่ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 30 พ.ย.62

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ