พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 24 - 30 พฤษภาคม 2567

ข่าวทั่วไป Friday May 24, 2024 17:36 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 63/2567 พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 24 - 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ออกประกาศวันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 24 - 26 พ.ค. 67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ประเทศเมียนมา ด้านตะวันตกของภาคเหนือ และภาคกลางมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนสูง 2 ? 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27 - 30 พ.ค. 67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่างได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันแล้วและมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลนในระยะต่อไป คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศบังคลาเทศ ในช่วงวันที่ 26?27 พ.ค. 67 คำเตือน ระยะนี้ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว เกษตรกรบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในแปลงปลูก และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่ง และ ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่กลางแจ้งขณะฟ้าคะนอง ส่วนในช่วงวันที่ 24 - 26 พ.ค. ทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 26 พ.ค. 67 คำแนะนำสำหรับการเกษตร ภาค พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์ เหนือ ในช่วงวันที่ 24 ? 26 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 ? 20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 27 ? 30 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23 ? 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 ? 38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 ? 20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60 - 80 % ความยาวนานแสงแดด 2 - 6 ชม. - ระยะนี้เป็นช่วงต้นฤดูฝน ในหลายพื้นที่จะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยในช่วงวันที่ 24 - 26 พ.ค. จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว รวมทั้งควรทำทางระบายน้ำในแปลงปลูกเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังโคนต้นพืชนาน และสำหรับผลผลิตที่แก่ดีแล้วควรรีบเก็บเกี่ยว รวมทั้งระวังความชื้นที่สะสมในโรงเก็บที่อาจทำให้เกิดเชื้อราไว้ด้วย ตะวันออก เฉียงเหนือ ในวันที่ 25 - 27 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 ? 15 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 28 ? 30 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 ? 20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60 - 80 % ความยาวนานแสงแดด 3 - 6 ชม. - ในช่วงวันที่ 28 ? 30 พ.ค. จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรซ่อมแซมหลังคาโรงเรือนอย่าให้มีรอยรั่วซึมและดูแลแผงกำบังฝนสาดให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ตามปกติ เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงเปียกชื้นหนาวเย็น จนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย สำหรับบางพื้นที่จะมีลมกระโชกแรง เกษตรกรควรค้ำยันกิ่งของไม้ผลให้มั่นคงแข็งแรง และไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่งแจ้งหรือใต้ต้นไม้ใหญ่เพื่อป้องกันอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง สำหรับพื้นที่ที่มีฝนตก เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อโดยตรง แต่ให้นำไปพักในบ่อพักก่อน จึงค่อยปล่อยลงสู่บ่อเลี้ยงเพื่อป้องกันสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน และหลังจากฝนตกควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อป้องน้ำแยกชั้นและเป็นการเพิ่มออกซิเจนให้แก่น้ำ กลาง ในช่วงวันที่ 25 ? 27 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 ? 20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 28 ? 30 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 ? 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 ? 20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60 - 80 % ความยาวนานแสงแดด 2 - 6 ชม. - ระยะนี้เป็นช่วงเข้าสู่ฤดูฝน ในบางพื้นที่จะมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยเกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากแปลงปลูกเพื่อป้องกันน้ำขังในพื้นที่การเกษตรนาน ทำให้รากพืชขาดอากาศต้นพืชตายได้ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อโดยตรง แต่ควรนำไปพักในบ่อพักก่อน แล้วค่อยปล่อยลงสู่บ่อเลี้ยงป้องกันสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน และหลังจากฝนตกควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อป้องกันน้ำแยกชั้นและเป็นการเติมออกซิเจนให้แก่น้ำ สำหรับบางพื้นที่ที่ฝนตกสม่ำเสมอและดินมีความชื้นเพียงพอ เกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชรอบใหม่ ควรนำเมล็ดพันธ์ควรคลุกด้วยสารเคมีกำจัดเชื้อราก่อนปลูก เพื่อป้องกันการเน่าของเมล็ดก่อนงอกและโรคเน่าคอดินในระยะต้นกล้า ตะวันออก ในช่วงวันที่ 25 ? 27 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24 ? 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 ? 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มี ฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 28 ? 30 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ และมี ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25 ? 31 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 ? 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 ? 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 60 - 80 % ความยาวนานแสงแดด 3 - 6 ชม. - ในช่วงวันที่ 28 ? 30 พ.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าวซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งควรทำทางระบายน้ำออกจากแปลงปลูกเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังในแปลงปลูกนาน ทำให้รากพืชขาดอากาศต้นพืชตายได้ ส่วนชาวสวนผลไม้ควรสำรวจดูแลวัสดุอุปกรณ์ที่ผูกยึดและค้ำยันกิ่งลำต้นของไม้ผล ให้มั่นคงแข็งแรงเพื่อป้องกันกิ่งฉีกหักและต้นโค่นล้มเมื่อมีลมแรง ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อโดยตรงแต่ควรนำไปพักในบ่อพักก่อน แล้วค่อยปล่อยลงสู่บ่อเลี้ยงป้องกันสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน และหลังจากฝนตกควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อป้องกันน้ำแยกชั้นและเป็นการเติมออกซิเจนให้แก่น้ำ ใต้ ฝั่งตะวันออก ในวันที่ 24 - 26 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมใต้ ความเร็ว 15 ? 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27 ? 30 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 ? 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 ? 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 36 องศาเซลเซียสฝั่งตะวันตก ในวันที่ 24 - 26 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ ตั้งแต่ จ.ระนอง ขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 ? 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ตั้งแต่ จ.พังงา ลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 ? 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27 ? 30 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่ จ.พังงา ขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 ? 35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จ.ภูเก็ต ลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 ? 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 65 - 85 % ความยาวนานแสงแดด 2 - 6 ชม. - ในช่วงวันที่ 27 ? 30 มี.ค. จะมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนตกหนักมากได้ในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากแปลงปลูกเพื่อป้องกันน้ำขังในพื้นที่การเกษตรนาน ทำให้รากพืชขาดอากาศต้นพืชตายได้ สำหรับในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกันทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรเตรียมการป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผล โรคใบติดในทุเรียน โรครากขาว และโรคหน้ากรีดยางในยางพารา โรคราสีชมพูในไม้ผลและยางพารา เป็นต้น อนึ่ง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 26 พ.ค. 67 NT 2 ลักษณะอากาศในรอบ 7 วันที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 17 - 23 พฤษภาคม 2567 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนในระยะต้นช่วง จากนั้นมีลมตะวันตกฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย โดยมีกำลังปานกลางในระยะครึ่งหลังของช่วง อีกทั้งมีแนวลมพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันที่ 20 พ.ค. ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบนในระยะครึ่งหลังของช่วง นอกจากนี้มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณเกาะสุมาตรากับมีลมตะวันออกพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยในระยะต้นช่วง ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลงทั่วไปและมีฝนเพิ่มขึ้นในระยะครึ่งหลังของช่วง ส่วนภาคใต้มีฝนตกชุกเกือบตลอดช่วง ภาคเหนือ มีอากาศร้อนทั่วไปในระยะครึ่งแรกของช่วง กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในวันที่ 17 วันที่ 19 และวันที่ 20 พ.ค. จากนั้นมีอุณหภูมิลดลงจนมีอากาศร้อนบางพื้นที่ โดยมีฝนร้อยละ 20-60 ของพื้นที่ ในระยะครึ่งแรกของช่วง จากนั้นมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 75-95 ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักบางแห่งเกือบตลอดช่วง และมีฝนหนักมากบางแห่งในวันที่ 21 และวันที่ 23 พ.ค. นอกจากนี้มีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 17-18 และวันที่ 20-21 พ.ค. จังหวัดเพชรบูรณ์ ในวันที่ 19 พ.ค. จังหวัดเชียงราย และลำปาง ในวันที่ 19-21 พ.ค. จังหวัดน่าน แพร่ และพะเยา ในวันที่ 20-21 พ.ค. อีกทั้งมีรายงานน้ำท่วมบริเวณจังหวัดลำปาง ในวันที่ 17 พ.ค. จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในวันที่ 20 พ.ค. จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 21 พ.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศร้อนเกือบทั่วไปในระยะครึ่งแรกของช่วง จากนั้นมีอุณหภูมิลดลงจนมีอากาศร้อนบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 21-22 พ.ค. โดยมีฝนร้อยละ 25-55 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่งในระยะครึ่งแรกของช่วง จากนั้นมีฝนเพิ่มขึ้นจนมีฝนอยู่ในเกณฑ์มากกว่าร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักหลายพื้นที่และฝนหนักมากบางแห่ง นอกจากนี้มีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดสุรินทร์ ในวันที่ 20 พ.ค. จังหวัดอำนาจเจริญ ในช่วงวันที่ 20-21 พ.ค. และจังหวัดชัยภูมิ ในวันที่ 23 พ.ค. อีกทั้งมีรายงานน้ำท่วมบริเวณจังหวัดเลย ในวันที่ 21 พ.ค. ภาคกลาง มีอากาศร้อนเกือบทั่วไปกับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในระยะครึ่งแรกของช่วง จากนั้นมีอุณหภูมิลดลงจนมีอากาศร้อนบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 21-22 พ.ค. โดยมีฝนร้อยละ 35-45 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 17-18 กับวันที่ 20 พ.ค. ส่วนวันอื่นๆ มีฝนมากกว่าร้อยละ 85 ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักบางแห่งตลอดช่วง และมีฝนหนักมากบางแห่งในวันที่ 19 และวันที่ 21-22 พ.ค. ภาคตะวันออก มีอากาศร้อนหลายพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาคในระยะครึ่งแรกของช่วง จากนั้นมีอุณหภูมิลดลงจนมีอากาศร้อนบางพื้นที่ในวันสุดท้ายของช่วง โดยมีฝนร้อยละ 35-50 ของพื้นที่ในระยะต้นช่วง จากนั้นมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์มากกว่าร้อยละ 75 ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักบางแห่งตลอดช่วงและมีฝนหนักมากบางแห่งในวันที่ 21 พ.ค. นอกจากนี้มีรายงานน้ำท่วมบริเวณจังหวัดระยอง ในวันที่ 23 พ.ค. ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีอากาศร้อนหลายพื้นที่เกือบตลอดช่วง โดยมีฝนร้อยละ 40-80 ของพื้นที่ตลอดช่วง และมีฝนหนักบางแห่งเกือบตลอดช่วง ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีอากาศร้อนบางพื้นที่ในระยะครึ่งแรกของช่วงกับในวันที่ 22 พ.ค. โดยมีฝนมากกว่าร้อยละ 75 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่งเกือบตลอดช่วง และมีฝนหนักมากบางพื้นที่ ในวันที่ 21 พ.ค. ช่วงที่ผ่านมามีฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัด เชียงใหม่ ตาก เลย อุดรธานี หนองบัวลำภู ขอนแก่น นครราชสีมา ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ลพบุรี กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี นครปฐม ฉะเชิงเทรา ระยอง และพังงา ส่วนจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ หนองคาย สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี สมุทรปราการ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล สำหรับบริเวณที่มีฝนหนักและหนักมากที่สุดตามภาคต่างๆ และกรุงเทพมหานคร มีดังนี้ ภาคเหนือ 108.7 มม. ที่ เขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 165.0 มม. ที่ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ภาคกลาง 145.0 มม. ที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ภาคตะวันออก 134.0 มม. ที่ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ภาคใต้ 130.2 มม. ที่ อ.กันตัง จ.ตรัง เมื่อวันที่ 21 พ.ค. กรุงเทพมหานคร 94.1 มม. ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา เขตบางนา เมื่อวันที่ 23 พ.ค. เกณฑ์ปริมาณฝน ฝนเล็กน้อย ฝนปานกลาง ฝนหนัก ฝนหนักมาก ปริมาณฝนที่วัดได้ (มิลลิเมตร) 0.1-10.0 10.1-35.0 35.1- 90.0 มากกว่า 90.0 สอต. หมายถึง สถานีอุตุนิยมวิทยา, กกษ. หมายถึง กลุ่มงานอากาศเกษตร ส่วนอุตุนิยมวิทยาเกษตร กองพัฒนาอุตุนิยมวิทยา 3 ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนอุตุนิยมวิทยาเกษตร 02-399-2387 ; 02-366-9336 อุณหภูมิ ความยาวนานแสงแดด คลื่น ฝนฟ้าคะนอง 1 ?2 ม. 1 -3 ม. 30-60% ระหว่างวันที่ 24 -30 พฤษภาคม 2567 พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า 30-70% ฉบับที่63/67 ความยาวนานแสงแดด 2-6 ชม.ความชื้นสัมพัทธ์60-80 % ความยาวนานแสงแดด 2-6 ชม.ความชื้นสัมพัทธ์60-80 % ความยาวนานแสงแดด3-6 ชม.ความชื้นสัมพัทธ์60-80 % ความยาวนานแสงแดด 2-6 ชม.ความชื้นสัมพัทธ์65-85 % ความยาวนานแสงแดด 3-6 ชม.ความชื้นสัมพัทธ์60-80 % ต่ำสุด21 -29 ?C สูงสุด 29 -38 ?C ต่ำสุด21 -27 ?C สูงสุด 29 ?37 ?C ต่ำสุด24 -28 ?C สูงสุด30 -36 ?C ต่ำสุด24 -31 ?C สูงสุด30 -36 ?C ต่ำสุด23 -28 ?C สูงสุด29 ?36 ?C 40-80% ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนฝนตกหนัก?หนักมาก ระวัง...น้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก /24?26พ.ค.อันดามันตอนบนเรือเล็กงดออกจากฝั่ง ทำทางระบายน้ำ เปิดเครื่องตีน้ำหลังฝนตก ระวัง น้ำท่วมฉับพลัน ระวังน้ำป่าไหลหลาก เปิดเครื่องตีน้ำหลังฝนตก ควรค้ำยันกิ่งไม้ผล ระวังปศุสัตว์ถูกฟ้าผ่า ระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ทำทางระบายน้ำ ระวังน้ำป่าไหลหลาก

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ