ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (9 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากหุ้น Anglo American พุ่งแรงจากข่าวการควบรวมกิจการ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,242.53 จุด เพิ่มขึ้น 21.09 จุด หรือ +0.23%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่อุตสาหกรรมพุ่งขึ้น 2.7% นำโดยหุ้น Anglo American ที่พุ่งขึ้น 9.1% หลังประกาศข้อตกลงควบรวมกิจการกับ Teck Resources ของแคนาดาในดีลมูลค่า 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อจัดตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Anglo Teck
นักวิเคราะห์จาก AJ Bell ระบุว่า ดีลนี้ถือเป็นชัยชนะของตลาดหุ้นอังกฤษ เพราะ Anglo Teck จะเลือกลอนดอนเป็นตลาดหลักทรัพย์จดทะเบียนหลัก โดย Anglo แสดงให้เห็นชัดว่าอังกฤษยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการเข้าจดทะเบียน และเป็นสัญญาณบวกต่อธุรกิจอื่น ๆ ที่กำลังอยู่ระหว่างการควบรวมและซื้อกิจการ
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน หลังจากเกิดเหตุโจมตีผู้นำฮามาสในกาตาร์ โดยหุ้น Shell เพิ่มขึ้น 1% และ BP เพิ่มขึ้น 1.3% ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารก็ปิดบวกเช่นกัน นำโดย NatWest และ Barclays ที่ทำผลงานโดดเด่น
แต่หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลร่วงลง 6.7% โดยหุ้น Burberry ดิ่ง 8.3% หลังมีความเห็นที่ระมัดระวังในงานประชุมสินค้าหรูหรา
ดัชนีหุ้นกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็ลดลงเช่นกัน โดยหุ้น Berkeley ลดลง 1.8% และหุ้น Vistry ร่วง 4.6%
แม้ผลสำรวจบ่งชี้ว่า นักชอปชาวอังกฤษใช้จ่ายมากขึ้นในเดือนส.ค. แต่หุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลง 1.7% หลังหุ้น Dunelm ร่วงหนัก 9.9% หลังเตือนว่ายังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนของอุปสงค์ผู้บริโภค ขณะที่หุ้นค้าปลีกรายอื่น ๆ อย่าง JD Sports Fashion และ Howden Joinery ก็ปรับตัวลงเช่นกัน
หุ้น London Stock Exchange Group ร่วง 4.7% และ หุ้น Unilever ลดลง 1.5% แต่หุ้น Computacenter พุ่งขึ้น 3.8% หลังรายงานว่าไตรมาส 3 เริ่มต้นได้อย่างแข็งแกร่ง
ส่วนหุ้นกลุ่มประกันภัย Phoenix Group ดีดตัวขึ้น 1.8% หลังจากร่วงแรง 7.6% ในวันจันทร์ เมื่อบริษัทประกาศว่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น Standard Life ในเดือนมี.ค. 2569 และรายงานมูลค่าทางบัญชีที่ลดลงมากกว่าคาดจากความผันผวนของตลาด