ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันพุธ (10 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนประเมินผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับ 9,225.39 จุด ลดลง 17.14 จุด หรือ -0.19%
หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคร่วงลง โดยหุ้น Associated British Foods ดิ่งลง 13.2% หนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2559 หลังระบุว่ายอดขายพื้นฐานของธุรกิจเสื้อผ้าแบรนด์ Primark จะลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่หุ้น Marks & Spencer และหุ้น Diageo ร่วงลง 3% และ 1.3% ตามลำดับ
หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและนันทนาการลดลง 1.9% โดยหุ้น IAG เจ้าของสายการบิน British Airways ร่วง 4.1%, หุ้น Wizz Air ร่วงลง 2.6% และหุ้น EasyJet ร่วง 2.2%
หุ้นอุตสาหกรรมบางตัวลดลง โดยหุ้น RELX ร่วง 4.2% และหุ้น Experian ลดลง 1.1%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วง 3.4% โดยหุ้น Sage ปิดลบราว 1% หลังจากได้แรงหนุนในช่วงแรกจากการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัท Oracle
หุ้นกลุ่มอุปกรณ์และบริการทางการแพทย์ลดลง 1.6% โดยหุ้น Smith+Nephew และหุ้น Convatec ร่วง 1.5% และ 1.8%
ในทางกลับกัน หุ้นกลุ่มธนาคารรายใหญ่ปรับตัวขึ้น 1.1% โดยหุ้น HSBC บวก 1.8%
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มอากาศยานและกลาโหมปรับตัวขึ้น โดยหุ้น BAE Systems พุ่งขึ้น 2.2% และหุ้น Rolls-Royce เพิ่มขึ้น 1.2%
หุ้นกลุ่มประกันชีวิตบวก 1.7% นำโดยหุ้น Prudential ที่พุ่ง 3.4%
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Anglo American บวก 1.6% ต่อเนื่องจากวันอังคารที่พุ่งขึ้น 9.1% หลังประกาศดีลควบรวมกิจการมูลค่า 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์กับ Teck Resources ของแคนาดา โดย Berenberg ปรับคำแนะนำลงทุนหุ้นตัวนี้จากขายเป็นถือ